WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ยังควรระวังการแกว่ง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : PRIN (จาก Fully Valued เป็นซื้อ) / DCC (จากถือเป็น Fully Valued)
  ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศ : ปัจจัยต่างประเทศ – ตัวเลขดัชนี PMI ภาคผลิต & บริการเดือนก.พ.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเป็น 55.9 และสูงสุดในรอบ 27 เดือน แต่ของยูโรโซนอ่อนลงเป็น 57.5 แต่ก็ยังสูงกว่าระดับ 50 มาก ส่วนรายงานการประชุมเฟด 30-31 ม.ค.61 พบว่าเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายมองว่าอัตราเงินเฟ้อปี 61 จะเร่งตัวขึ้น การทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่เหมาะสม สำหรับ US Bond Yield 10 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 2.939% ส่วน VIX เท่ากับ 20.02%
  ปัจจัยในประเทศ – เมื่อวานนี้มี Big lot หุ้น IRPC 1,950 ล้านหุ้น @ 7.10 บาท/หุ้น (ขาซื้อเป็น PTT และขาขายเป็นธ.ออมสิน) หลังการซื้อครั้งนี้ PTT จะถือหุ้นใน IRPC เพิ่มจาก 38.51% เป็น 48.05% สำหรับหุ้น PTT ซื้อขายคึกคักและราคาพุ่งขึ้น 6.5% หลังมีข่าวว่าจะแตกพาร์จาก 10 บาทเป็น 1 บาท (รอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ 12 เม.ย. และคาดว่าจะเทรดพาร์ใหม่ปลายเม.ย.ถึงต้นพ.ค.นี้) ส่วน PTTOR จะยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดฯ ปลายปี 61 และกระจายหุ้น IPO ได้ในกลางปี 62 (ซึ่งช้ากว่าที่เราคาดไว้เดิมว่าจะกระจายหุ้นภายในปีนี้)...หากไม่รวมหุ้น PTT เราพบว่า SET Index วานนี้ปิด -9.14 จุด เพราะแรงขาย Sell on fact แต่ถ้ารวมก็ปิด +0.14 จุดที่ 1801.16
  สำหรับการส่งออกเดือนม.ค.61 ที่เติบโต 17.6%YoY ถือว่าดีเกินคาด นำโดยส่งออกสินค้าเกษตรที่โตก้าวกระโดด เช่น ข้าว มันสำปะหลังน้ำตาลทราย (แต่ยางพารายังไม่ดี) และการส่งออกชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ยานยนต์ & ชิ้นส่วน อุปกรณ์ยานยนต์ไปได้ดี ซึ่งหุ้นเด่นกลุ่มยานยนต์ของเราเป็น AH (ราคาพื้นฐาน 41.80 บาท)
  กลยุทธ์ทางพื้นฐาน : แนะเลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยธีมเด่นหุ้นดีจาก DBS ในปี 61 เราเลือกเป็น 1. Investment recovery play (หุ้นเด่น AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท), 2. Dividend play (หุ้นเด่น KKP ราคาพื้นฐาน 88 บาท), 3. Growth play (หุ้นเด่น IVL ราคาพื้นฐาน 65 บาท) และ 4. Tourism play (หุ้นเด่น ERW ราคาพื้นฐาน 10.50 บาท) การอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสม
  กลยุทธ์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก แนวต้าน 1810-1820 จุด หลุด 1800 จุดควรลดพอร์ตตาม โดยมีแนวรับ 1790, 1770-1760 จุด หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น KTC, DRT, TWPC, RCL, TU, INTUCH, VNT ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น AEONTS, TOA, LPH, IHL, ASAP, WHA, TOP, VGI, COM7 ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take profit เป็น PTT, GGC, AH และหุ้นที่หลุด List เป็น GULF, RS, JMT, AU
ปัจจัยต่างประเทศ
• ยูโรโซน : ดัชนี PMI ภาคผลิต & บริการเดือนก.พ.ต่ำสุดรอบ 3 เดือน
  # ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนลดลงเป็น 57.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 58.8 ในเดือนม.ค.61 แต่ดัชนีก็ยังสูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการเติบโตจากก่อนหน้า
  # สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 59.5 ในเดือนก.พ. ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 56.7 ในเดือนก.พ. ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
+ สหรัฐ : ดัชนี PMI ภาคผลิต & บริการเพิ่มขึ้นต่อในเดือนก.พ.
  # ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.9 ในเดือนก.พ.61 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ 53.8 ในเดือนม.ค.61
- สหรัฐ : เฟดประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อจะขึ้นสู่เป้าหมาย 2% ในระยะกลาง
  # คณะกรรมการเฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของวันที่ 30-31 ม.ค. เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้นี้ ทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม
  # ข้อมูลที่คณะกรรมการฯได้รับมาบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปี 2561 โดยกรรมการเฟดเกือบทุกคนคาดว่า ในระยะกลางนี้ อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
- ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 166.97 จุด
  # ดัชนี DJIA ปิด 24,797.78 จุด -166.97 จุด หรือ -0.67% ดัชนี Nasdaq ปิด 7,218.23 จุด -16.08 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,701.33 จุด ลดลง 14.93 จุด หรือ -0.55%
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาแกว่งในกรอบแคบ
  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 61.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 65.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
  # นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเกือบ 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทรงตัว
  # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,332.1 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ ส่งออกเดือนม.ค. 61 เติบโตสูง 17.6%YoY…คาด 1Q60 เติบโตกว่า 8%YoY
  # กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกเดือนม.ค.61 โต 17.6%YoY และเพิ่มขึ้น 1.8%MoM เป็น 20,101.4 ล้านดอลลาร์ฯ เนื่องจาก 1. การส่งออกข้าว มันสำปะหลัง และน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด การส่งออกชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบขยายตัวดีต่อเนื่อง กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกงวด 1Q61 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 8% และตั้งเป้าหมายการเติบโตภาคส่งออกปีนี้ไว้ที่ 8%
+ ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนม.ค.61 ของไทยสูงสุดรอบ 3ปี
  # ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.61 ปรับขึ้นเป็น 91.0 ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังกำลังซื้อในประเทศปรับตัวดีขึ้น และการลงทุนภาครัฐโตต่อเนื่อง
+ กลุ่มท่องเที่ยว : เติบโตดีต่อเนื่องในเดือนม.ค.61
  # ในเดือนม.ค.61 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาไทย 3,544,528 คน ขยายตัว 10.87%YoY ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเกือบทุกภูมิภาค โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด 2,146,156 คน (60% ของทั้งหมด นำโดยจีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลี ลาว ญี่ปุ่น) รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป อเมริกา เอเชียใต้ โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ตามลำดับ สำหรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 188,890.60 ล้านบาท ขยายตัว11.59%YoY
  # สำหรับปี 60 รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยเท่ากับ 2.78 ล้านล้านบาท ขยายตัว 10.51%YoY ในจำนวนนี้เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 1.82 ล้านล้านบาท (65% ของทั้งหมด) และการท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวไทย 9.57 แสนล้านบาท (35% ของทั้งหมด)
  # หุ้น Top Picks ในกลุ่มท่องเที่ยวเป็น AOT (ราคาพื้นฐาน 75 บาท) และ ERW (ราคาพื้นฐาน 10.50 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO5813

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!