WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งตัวลง ตามปัจจัยลบต่างประเทศ
  KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์/ลบกรอบจำกัด ปัจจัยภายนอกเป็นลบเล็กน้อย และแรงซื้อหุ้น PTT* อาจชะลอหลังราคาปิด PTT* เมื่อวานชนเป้าหมาย consensus ที่ 522 บาทพอดี (วานนี้หากไม่นับตัว PTT* ดัชนีฯ ลบ 8.96 จุด) ด้านปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงช่วงท้ายตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์บวกกว่า 300 จุดระหว่างเทรดก่อนจะปรับลงตามรายงานการประชุมเฟด (meeting minutes) ครั้งเดือน ม.ค. ซึ่งชี้ว่าเศรษฐฏิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และเงินเฟ้อสหรัฐฯ น่าจะค่อยๆ ปรับขึ้นไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2.0% รายงานดังกล่าวได้ดันให้บอนด์ยิลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ปิดที่ 2.94% และหนุนดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ฟื้นตัวต่อ อาจกดดันจิตวิทยาของหุ้นเอเชียบ้างในวันนี้ ก่อนหน้าการรายงาน minutes ของ ธ.กลางยุโรปในค่ำวันนี้เวลาประเทศไทย อย่างไรก็ดีปัจจัยเศรษฐกิจภายในยังแข็งแกร่ง ตัวเลขส่งออกไทย ม.ค. โต 17.6% YoY หนุนโดยการฟื้นตัวของการส่งออกในทุกทวีป (อ่านเพิ่มในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ เช้าวันนี้) ดังนั้น KGI ยังคงมุมมองว่า เดือน ก.พ. หุ้นน่าจะปรับฐานในตลาดขาขึ้น (bull market correction) และมองความเสี่ยงทางลงอยู่ที่ 1,770 จุด อิงพีอีแบนด์โมเดล
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TVD, TOA, SMPC
  TVD (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1)  จากการ Company visit เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 Turnaround กลับมา Break-even ได้แล้ว หลังพ้นช่วงไว้อาลัยฯ + การบริโภคในประเทศฟื้นตัว และคาด 1Q60 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ตามปกติ 2) ปีนี้เตรียมกลับมารุกเพิ่มช่องทางโฆษณาตามสื่อทีวีดิจิตอล และเพิ่มร้านค้าปลีก TVD รองรับการบริโภคในประเทศที่เติบโต 3) ประเมินแนวรับ 2.10 บาท แนวต้าน Uptrend line channel ที่ 2.30 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.60 บาท (Stop loss 2.0 บาท)
  TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 33 บาท / แนวต้าน Uptrend line channel ที่ 36 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 37 บาท (Stop loss 32.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ประเมิน กำไรปี 2561 เติบโต +42% YoY จาก i) อัตรากำไรฟื้นตัวจาก 33.9% ในปี 2560 เป็น 36.5% ในปี 2561 ผลจากการปรับราคาขาย ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้นในปีก่อน ii) การขยายกำลังการผลิตในต่างประเทศ (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, และพม่า) iii) การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอสังหาฯในไทย (ปีนี้คาดยอดเปิดโครงการใหม่ โต 10 - 15% เทียบปีก่อนที่ 3 - 4%) 3) PE ปี 2561 = 29.8 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นที่ทำธุรกิจผลิตสีในภูมิภาคที่เฉลี่ยแล้วสูงถึง 41 เท่า / และไม่แพงเกินไปเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรที่ฝ่ายวิจัยฯคาด ... อ่านบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เพิ่มเติม
  SMPC (เป้า Consensus 15.3 บาท) 1) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q61 เติบโต YoY และ QoQ จาก i) อัตราการใช้กำลังการผลิตสูง >90% ต่อเนื่องจาก 4Q60 ii) ปรับราคาขายถังแก๊สขึ้นแล้ว ขณะที่ราคาวัตถุดิบเหล็กเริ่มมีเสถียรภาพ (บวกอัตรากำไร) iii) ผลกระทบจากค่าเงินบาทน้อยกว่าหุ้นส่งออกตัวอื่น เนื่องจากเป็น Natural hedge เกือบ 100% จากการนำเข้าวัตถุดิบเหล็กสำหรับการผลิตถังแก๊สเพื่อส่งออก 2) ปีนี้ขยายกำลังการผลิตถังแก๊สต่อเนื่องเป็น 10 ล้านใบ/ปี (+22% YoY) โดยคาดกำลังการผลิตใหม่เริ่ม 3Q60 และคาดมีโอกาสสร้างโรงใหม่เพิ่ม เนื่องจากพื้นที่โรงงานปัจจุบันใช้เต็มพื้นที่แล้ว (คาดกลางปีนี้ จะได้ข้อสรุป เบื้องต้นประเมินงบลงทุนราว 400 ล้านบาท สำหรับกำลังการผลิตถังแก๊ส 3 ล้านใบต่อปี) 3) PE ต่ำเพียง 12.1 เท่า (ข้อมูล Bloomberg consensus) 4) ประเมินแนวรับ 14 บาท / แนวต้าน 14.7 บาท และถัดไปที่ 15.3 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
หุ้นมีข่าว
  (+) กลุ่ม ปตท.ผงาดยกแผง ทุ่มงบ 1.38 หมื่นล้านเข้าซื้อหุ้นไออาร์พีซี (ไทยรัฐ) ปตท.เผยผลประกอบการธุรกิจรวมบริษัทในเครือปี 60 มีรายได้ 1.99 ล้านล้านบาท กำไรสุทธิ 1.3 แสนล้านบาทและเฉพาะของ ปตท.มีกำไร 7.4 หมื่นล้านบาททุ่ม 1.38 หมื่นล้านซื้อหุ้น "ไออาร์พีซี" จากแบงก์ออมสินจำนวน 9.45% ในราคาหุ้นละ 7.10 บาท ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 48.05% เตรียมดันกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นปีหน้า
  (+) ยอดผลิตมอ'ไซค์พุ่ง ส.อ.ท.ชี้เศรษฐกิจดี รัฐแจงภาษีไม่กระทบ (ไทยโพสต์) กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ตั้งเป้าผลิตรถจักรยานยนต์ปีนี้ 2.12 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.15% "สรรพสามิต" แจงรีดภาษีมอเตอร์ไซค์ ตามการปล่อยก๊าซ ทำให้ภาระภาษีเพิ่มเพียงคันละ 150-250 บาท มั่นใจไม่กระทบราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น คาดผู้ประกอบการยอมแบกภาระภาษีเอง
  (+) iii หวังปีนี้ธุรกิจพุ่ง 20% จากปี 2560 ขยาย 11% (โพสต์ทูเดย์) iii โชว์กำไรโตโดดเด่น 37.2% จากแอร์คาร์โก้และเคมีภัณฑ์ตั้งเป้าปีนี้ทุกธุรกิจเติบโตแรงกว่า 20% นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์  (iii) เปิดเผยว่า ปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 2,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และมีกำไรขั้นต้น 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีการขยายตัวดีโดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางอากาศ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 71% ของรายได้รวมและธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 21% ของรายได้รวม
  (+) ตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัว ตราเพชรยิ้มกำไรกระฉูด (ไทยโพสต์) "ตราเพชร" เชื่อสัญญาณบวกตลาดวัสดุก่อสร้างเริ่มฟื้นตัว หลังพบเดือนแรกปี 2561 ธุรกิจโตสองหลัก ชี้ภาพรวมตลาดปีนี้ขยายตัว 5% ในรอบ 3 ปี เร่งออกสินค้าใหม่
  (+) MODERN ย้ำส่ง MHC เข้าเทรดตลาด mai คาดยื่นไฟลิ่ง พ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) MODERN ดัน MHC เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai เตรียมยื่นไฟลิ่ง พ.ค.นี้ พร้อมตั้งเป้ารายได้ธุรกิจ Health&Care ปีนี้แตะ 400 ล้านบาท ล่าสุด ลงทุน “FIN$TREET” แพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีในการวางแผนทางการเงิน
  (+) นิปปอนแพ็คเอ็มโอยูเครือซีพีต่อยอด NPPF (โพสต์ทูเดย์) NPP ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจกับ CP B&F บริษัทในเครือกลุ่มซีพี ลุยพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ต่อยอดร้านอาหาร นายนักกีล ซึง กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) (NPP) เปิดเผยว่า บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น (NPPF) บริษัทย่อยที่ NPP ถือหุ้น 100% ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมมือ ธุรกิจกับบริษัท ซีพี บีแอนด์เอฟ (ไทยแลนด์) (CP B&F) ในเครือกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าร่วมกับ CP B&F ซึ่งเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และร่วมพัฒนาสินค้าอื่น วางจำหน่ายในร้านอาหารของเครือซีพีเพิ่มเข้ามา ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพให้ทั้ง NPPG และ CPB&F ให้แข็งแกร่ง
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  COM7* (เป้า Consensus 20.5 บาท) ประเมินแนวรับ 16.8 บาท / แนวต้าน 17.4 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 18 บาท (Trailing stop 16 บาท)
  SIMAT (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) แรงขาย Panic หลังหลุดจุด Trailing stop ที่เราประเมินไว้ที่ 3.80 บาท สำหรับนักลงทุนที่ขายล๊อกกำไรไปแล้ว พิจารณาที่แนวราคา3.80 บาท หากกลับยืนได้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"  
  ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 3.40 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ Stop loss หากยืนได้แนะนำ "ถือ"
  ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 7.45 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  TOA แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน Initial coverage แนะนำ "ซื้อ" โดยคาดกำไรปีนี้จะเติบโต 42% YoY จาก i) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ, การปรับขึ้นราคาขายลดภาระต้นทุนวัตถุดิบ, และการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ
  RATCH* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 66 บาท ฝายวิจัยฯคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ RATCH ในปี FY61 จะโตต่ออีก 11.8% เป็น 7.3 พันล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะดีขึ้นของโครงการหงสาและน้ำงึม 2 (NN2) บวกกับการเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของอีกสองโครงการใหม่ในปีนี้
Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---   กรอบราคา 1804 – 1797 จุด
   วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1804 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1804-1818 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1797 จุดนั้น อาจสะสมกำลังกดลงในกรอบ 1797-1781 จุด
  แนวรับวันนี้:          1797/1783                     แนวต้านวันนี้:          1804/1812
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO5807

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!