- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 February 2018 16:04
- Hits: 1763
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว / ปันผล
Smart Pick
เก็งกำไร PTTEP
ราคาปิด 114.50 บาท
ราคาเหมาะสม 123.00 บาท
คาดราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก วันนี้กระทรวงพลังงานจะมีการประชุมเพื่อแถลงความคืบหน้าของการประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ คือ แหล่งบงกช และเอราวัณ
เราเชื่อว่า PTTEP มีโอกาสชนะงานนี้ เพราะเป็นผู้ผลิตเดิมในแหล่งปิโตรเลียมบงกช จึงมีความชำนาญและความพร้อมทางการเงิน
สะสม AIT
ราคาปิด 29.50 บาท
ราคาเหมาะสม 33.50 บาท
หุ้น AIT จ่ายปันผลหุ้นงวดนี้เท่ากับ 1.40 บาท ขึ้น XD วันที่ 20 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 4.7% เหมาะสำหรับการพักเงินภายใต้ภาวะการลงทุนที่ชัดเจน
นอกจากนี้ Backlog ณ สิ้นปี 2560 สูงถึง 2.6 พันล้านบาท สูงสุดรอบ 4 ปี ช่วยผลักดันกำไรปี 2561 ให้เติบโต +28% YoY เป็น 553 ล้านบาท
เก็งกำไร IRPC
ราคาปิด 7.75 บาท
ราคาเหมาะสม 8.40 บาท
ขึ้น XD วันที่ 26 ก.พ. ปันผล 0.29 บาท คิดเป็น Dividend Yield ถึง 3.7%
คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโต QoQ และเด่นมาก YoY เนื่องจาก 1Q60 มีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ทำให้ฐานกำไรต่ำ ภาพรวมกำไรปกติปี 2561 คาดขยายตัวถึง +65% YoY เป็น 1.29 หมื่นล้านบาท จากแรงหนุนโครงการ UHV อีกทั้งมีมุมมองเป็นบวกหลัง PTT เข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีกเกือบ 10% วานนี้
เก็งกำไร SAT
ราคาปิด 20.50 บาท
ราคาเหมาะสม 22.00 บาท
ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนทางเทคนิค หลังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 75 วันที่ 20.40 บาท เชื่อว่ามีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 22.00 บาท +/- โดยมี Stop loss หากราคาหลุด 19.90 บาท
Valuation ไม่แพง PER61 ต่ำเพียง 11.2 เท่า เทียบกับกำไรปี 2561 คาดเติบโต +12% YoY เป็น 784 ลบ.
SWITCHING : n.a
กลยุทธ์วันนี้
เราประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งในกรอบแคบ 1795-1810 จุด พร้อมรอผลการพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย โดย S&P และ Moody's ณ ปัจจุบันแนวโน้มของประเทศอยู่ที่ "คงที่" หากมีการปรับแนวโน้มขึ้นเป็น "บวก" นั่นย่อมเกิดโอกาสที่ 2 สำนักจะปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า และนำมาซึ่งเงินทุนต่างชาติที่จะกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่นได้เช่นกัน ซึ่งหากเกิดในกรณีนี้ เรามองว่าหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 Index อย่าง AOT / KBANK / BBL / LH / ADVANC/ CPALL จะขยับขึ้นได้อย่างโดดเด่น แต่หาก 2 สำนักงานคงแนวโน้ม "คงที่" เราประเมินว่าบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นก็จะกลับมาเป็นกลางๆ เช่นเดิม
สำหรับรายงานการประชุมเฟดเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าเฟดมีมุมมองต่อเศรษฐกิจในปีนี้ดีขึ้น มีโอกาสที่จะปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขึ้นได้เช่นกัน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะขยับขึ้นไปชนเป้าหมายที่ 2% ได้ แต่ยังอยู่ในการควบคุมของเฟด แต่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ยืน 2.9% จะยังเป็นตัวแปรที่สร้างความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างสินทรัพย์หลักได้เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนำ "เก็งกำไร" หุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงานเด่น รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT / PTTEP / IRPCI ที่เป็น Top Pick ของเราทั้งจากปัจจัยบวกเฉพาะตัวและทิศทางราคาน้ำมันดิบที่เป็นบวก แต่หากนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด อาจเข้าพักเงินในหุ้นปันผลหรือกองทุน อย่าง HREIT / DIF / CPNREIT
HOT Topic
1. Bond Yield 10 ปี สหรัฐฯ ทำระดับสูงสุดรอบ 4 ปี ควรปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร?
2. ยอดส่งออกไทย เดือน ม.ค. +17.6% YoY นำเข้า +24.3% YoY ออกมาดีกว่าคาดมาก สะท้อนอย่างไรต่อเศรษฐกิจไทย
3. สรุปภาพรวมงบ 4Q60 ได้แก่ AAV, CPN, TPIPP, RS
4. กลุ่มธนาคารรายงานสินเชื่อ เดือน ม.ค. หุ้นใดเป็น Top pick ในกลุ่มของเรา?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปิดที่ 1801.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด โดยหลักหุ้น PTT ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.53% มีผลต่อดัชนีราว 9.1 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.4 หมื่นล้านบาท วานนี้ มีรายการ Big Lot หุ้น IRPC มูลค่าราว 1.3 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 14 วัน ราว 870 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันราว 1.7 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิต่อเป็นวันที่ 7 ราว 8.2 พันสัญญา รวม 7 วัน มีสถานะ Long สุทธิสะสมทั้งสิ้น 4.1 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ราว 2.4 พันสัญญา รวม 2 วัน มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 3.3 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล.มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 1.5 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 3.2 พันล้านบาท รวม 3 วันซื้อสุทธิสะสมกว่า 9.7 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31 ม.ค. เผยภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวได้ดีหนุนให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2561 และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ม.ค. ขยายตัว 17.6%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 11%YoY ขณะที่มูลค่าการนำเข้าไทยขยายตัวสูงถึง 24.3%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 15%YoY
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือน ม.ค.2561 ที่ระดับ 91 จุด ทำจุดสูงสุดในรอบ 36 เดือน
การประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม)
สหรัฐฯ รายงานดัชนีคาดการณ์ PMI เดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ 55.9 จุด สูงสุดในรอบ 27 เดือน
อียู รายงานดัชนีคาดการณ์ PMI เดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ 57.5 จุด
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น และยุโรป เดือน ม.ค. วันที่ 23 ก.พ.
ติดตามการประกาศงบการเงินงวด 4Q60 ตลอดช่วงที่เหลือของเดือนนี้
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO5803