- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 February 2018 16:10
- Hits: 1223
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงเก็งกำไรเด่นใน CPALL จากประเด็นโอกาสได้ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ banking agent ในขณะที่ยังคงมีแรงซื้อใน PTTGC, AOT และเกิด Technical rebound ใน CPF อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนปิดตลาด SET เผชิญกับแรงขายใน BAY, KTC และกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC, DTAC ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,809.6 จุด (+3.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 3.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 ที่ 1,450 ล้านบาท (รวมขายสุทธิ 3.6 หมื่นล้านบาท) และเปิด Long SET50 index future ที่ 5,603 สัญญา
Investment theme
คงคำแนะนำระมัดระวังการลงทุน : เมื่อวานที่ผ่านมาสภาพัฒน์รายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 เติบโตต่ำกว่าคาดที่ 4.0% (คาด 4.3%) ส่งผลให้ทั้งปี 2560 เติบโต 3.9% (เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ 3.3%) โดยการลงทุนภาครัฐและภาคเกษตรยังคงไม่ฟื้นตัว ซึ่งการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในครั้งนี้ ประกอบกับการรายงานผลประกอบการ 4Q60 ซึ่งส่วนมากรายงานผลประกอบการจากการดำเนินงานต่ำ/ใกล้เคียงกับที่คาด (สูงกว่าคาดเพียงเล็กน้อยที่เท่านั้น) ทำให้เรามองว่าในระยะสั้น ยากที่จะคาดหวังต่อการปรับประมาณการกำไรขึ้น ประกอบกับสถานะการซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันที่เบาบางลงใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายทำกำไรในระดับสูงกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลและมองว่าในระยะสั้น SET มีโอกาสปรับฐานอีกครั้งบริเวณ 1,760- 1,770 จุด
Investment theme: แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำทยอยขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,820 จุด และทยอยสะสมหุ้นอีกครั้งบริเวณ 1,760+/- จุด แนะทยอยสะสม TISCO, IRPC, LH เพื่อรับปันผล
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาดที่ 4.0% / ธปท.ให้ธนาคารพาณิชย์ตั้งตัวแทนฝาก-ถอน-จ่ายเงิน-โอนเงิน โดยไม่ต้องขออนญาติ ยันไม่ใช่การตั้งธนาคารใหม่ / Brent เกิด Technical rebound ต่อที่ 65.6 เหรียญ/บาร์เรล
บทวิเคราะห์ PTTGC , MAJOR , SAT, PSH
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงเก็งกำไรเด่นใน CPALL จากประเด็นโอกาสได้ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ banking agent ในขณะที่ยังคงมีแรงซื้อใน PTTGC, AOT และเกิด Technical rebound ใน CPF อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนปิดตลาด SET เผชิญกับแรงขายใน BAY, KTC และกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC, DTAC ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,809.6 จุด (+3.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 3.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 ที่ 1,450 ล้านบาท (รวมขายสุทธิ 3.6 หมื่นล้านบาท) และเปิด Long SET50 index future ที่ 5,603 สัญญา
Investment theme
คงคำแนะนำระมัดระวังการลงทุน : เมื่อวานที่ผ่านมาสภาพัฒน์รายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 เติบโตต่ำกว่าคาดที่ 4.0% (คาด 4.3%) ส่งผลให้ทั้งปี 2560 เติบโต 3.9% (เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ 3.3%) โดยการลงทุนภาครัฐและภาคเกษตรยังคงไม่ฟื้นตัว ซึ่งการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในครั้งนี้ ประกอบกับการรายงานผลประกอบการ 4Q60 ซึ่งส่วนมากรายงานผลประกอบการจากการดำเนินงานต่ำ/ใกล้เคียงกับที่คาด (สูงกว่าคาดเพียงเล็กน้อยที่เท่านั้น) ทำให้เรามองว่าในระยะสั้น ยากที่จะคาดหวังต่อการปรับประมาณการกำไรขึ้น ประกอบกับสถานะการซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันที่เบาบางลงใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายทำกำไรในระดับสูงกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลและมองว่าในระยะสั้น SET มีโอกาสปรับฐานอีกครั้งบริเวณ 1,760- 1,770 จุด
Investment theme: แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำทยอยขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,820 จุด และทยอยสะสมหุ้นอีกครั้งบริเวณ 1,760+/- จุด แนะทยอยสะสม TISCO, IRPC, LH เพื่อรับปันผล
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาดที่ 4.0% / ธปท.ให้ธนาคารพาณิชย์ตั้งตัวแทนฝาก-ถอน-จ่ายเงิน-โอนเงิน โดยไม่ต้องขออนญาติ ยันไม่ใช่การตั้งธนาคารใหม่ / Brent เกิด Technical rebound ต่อที่ 65.6 เหรียญ/บาร์เรล
บทวิเคราะห์ PTTGC , MAJOR , SAT, PSH
Stock pick : CHG
CHG : ทยอยสะสม 2.40 บาท/หุ้น
End of Capex cycle : บริษัทกำลังออกจากช่วง Investment stage (ส่งผลให้จำนวนเตียงเพิ่มขึ้นกว่า 60% เป็น 600 เตียง ใน 3 ปีที่ผ่านมา) เพื่อเข้าสู่ช่วง Growth stage ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกในเชิงกระแสเงินสด และมองว่าปัจจุบันราคาหุ้นมี Downside จำกัด แนะนำทยอยสะสมที่ราคาเป้าหมาย 2.40 บาท
Industry recovery : เนื่องจากเราพบการฟื้นตัวของจำนวนผู้ป่วยในช่วงไตรมาสที่ 4/60 จากฤดูฝนที่ยาวนานกว่าปกติ (ต.ค.-พ.ย. 60) และการท่องเที่ยวฟื้นตัวในภาคตะวันออกส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยและอัตราการการครองเตียงเพิ่มขึ้น เราคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากฐานต่ำในปี 2560 และการระบาดของโรคทางเดินหายในในภาคกลางและภาคตะวันออก / Growth: เราประเมินว่าในไตรมาสที่ 4/60 กำไรจะเติบโต 11% YoY และในปี 2561 กำไรจะเติบโต 13% YoY ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ถูกดึงขึ้นโดย BCH โดยจะเติบโตทั้ง Volume, Price และ Margin
Valuation: ขณะนี้ CHG ซื้อขายอยู่ที่ 33 เท่า FY18E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโรงพยาบาลภายในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 11% และ 35% ตามลำดับซึ่ง และสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันลดลงเหลือ 20% จากระดับ 25-27% กลางปี 2560 ด้วยราคาระดับนี้น่าจะยังไม่ตอบสนองข่าวเชิงบวกมากนัก
Trading idea – – ทยอยสะสม MAJOR คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q61แนะ Buy on dip ที่ราคาเหมาะสม 35.50 บาท
Technical View
CHG : ทยอยสะสม 2.40 บาท/หุ้น
End of Capex cycle : บริษัทกำลังออกจากช่วง Investment stage (ส่งผลให้จำนวนเตียงเพิ่มขึ้นกว่า 60% เป็น 600 เตียง ใน 3 ปีที่ผ่านมา) เพื่อเข้าสู่ช่วง Growth stage ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกในเชิงกระแสเงินสด และมองว่าปัจจุบันราคาหุ้นมี Downside จำกัด แนะนำทยอยสะสมที่ราคาเป้าหมาย 2.40 บาท
Industry recovery : เนื่องจากเราพบการฟื้นตัวของจำนวนผู้ป่วยในช่วงไตรมาสที่ 4/60 จากฤดูฝนที่ยาวนานกว่าปกติ (ต.ค.-พ.ย. 60) และการท่องเที่ยวฟื้นตัวในภาคตะวันออกส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยและอัตราการการครองเตียงเพิ่มขึ้น เราคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากฐานต่ำในปี 2560 และการระบาดของโรคทางเดินหายในในภาคกลางและภาคตะวันออก / Growth: เราประเมินว่าในไตรมาสที่ 4/60 กำไรจะเติบโต 11% YoY และในปี 2561 กำไรจะเติบโต 13% YoY ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ถูกดึงขึ้นโดย BCH โดยจะเติบโตทั้ง Volume, Price และ Margin
Valuation: ขณะนี้ CHG ซื้อขายอยู่ที่ 33 เท่า FY18E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโรงพยาบาลภายในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 11% และ 35% ตามลำดับซึ่ง และสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันลดลงเหลือ 20% จากระดับ 25-27% กลางปี 2560 ด้วยราคาระดับนี้น่าจะยังไม่ตอบสนองข่าวเชิงบวกมากนัก
Trading idea – – ทยอยสะสม MAJOR คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q61แนะ Buy on dip ที่ราคาเหมาะสม 35.50 บาท
Technical View
ระยะสั้นอ่อนตัวไม่หลุด 1800 ยังลุ้นการปิด Gap : ดัชนีปรับตัวโดดขึ้นจากแรงซื้อในกลุ่มค้าปลีกและพลังงาน โดยทำ False Break โซน 1813-1815 แล้วอ่อนตัวลงในช่วงบ่าย แนวโน้มขณะนี้มองเป็นการแกว่งตัวในกรอบ Ascending Triangle ระยะสั้นภายในวันมองว่าหากอ่อนตัวไม่หลุดแนว Neckline โซน 1800-1805 จะยังคงลุ้นการขึ้นปิด Gap ที่ 1813 และ 1825 ได้ แต่หากอ่อนตัวหลุด 1800 แนะนำให้ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: แนะนำ ถือหุ้นต่อ เนื่องจากปิดยืน 1805 แต่หากหลุด 1800แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะทดสอบแนวรับ 1800 แล้วไม่หลุดอาจใช้เป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อเล่นรอบ
แนวรับ : 1805, 1800 แนวต้าน : 1815, 1825
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : ตลาดหุ้นจีนหยุดทำการถึงวันที่ 21 ก.พ. / ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ 23 ก.พ.
แนวรับ : 1805, 1800 แนวต้าน : 1815, 1825
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : ตลาดหุ้นจีนหยุดทำการถึงวันที่ 21 ก.พ. / ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ 23 ก.พ.
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
IRPC (B 7.40-7.50, Tp 8.00//8.30, Cut 7.30)
PTT (B 482.00, Tp 500.00, Cut 478.00)
หุ้นเทคนิค:
IRPC (B 7.40-7.50, Tp 8.00//8.30, Cut 7.30)
PTT (B 482.00, Tp 500.00, Cut 478.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5721
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5721