- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 September 2014 15:47
- Hits: 2368
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ขยับฟิวเตอร์ SET ที่ไม่ควรหลุดขึ้นมาเป็น 1560”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาพตลาดวันก่อน : ขยับขึ้นต่อ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับขึ้นอีก 3.25 จุด มาปิดที่ 1568.60 โดยมีการเลือกซื้อหุ้นกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ แม้ว่าไม่ได้มีข่าวใหม่เข้ามามากนัก แต่โมเมนตัมของตลาดยังอยู่ในแดนบวก นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 789 ล้านบาท พอร์ตบล.และรายย่อยซื้อสุทธิแต่กลุ่มละไม่มาก ส่วนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 983 ล้านบาท
ปัจจัยและกลยุทธ์ : Sentiment การลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นกลาง (Neutral) แม้ว่าจะมีความกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยูโรโซน รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครน+พันธมิตรในยุโรป & สหรัฐ กับรัสเซีย แต่ก็ได้รับการชดเชยด้วยตัวเลขภาคการผลิตเดือนส.ค.57 ของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนั้นยังมีกระแสคาดการณ์ว่า ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมนโยบายฯในวันที่ 4ก.ย.นี้ ส่วนในประเทศยังมีการเข้าซื้อลงทุนในหุ้นที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการ 2H57 จะออกมาสดใส และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในปีหน้า รวมทั้งในช่วงนี้จะมีการเข้ามาเก็งกำไรกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ, การทำแบคดอร์ลิสติ้งบริษัทจดทะเบียนด้วย สำหรับ Theme การลงทุนในเดือนก.ย.57ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ High season ของการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวใน 4Q จึงเป็น Domestic Spending และ Tourism Play (ดูรายละเอียดได้ใน Wealth Perspective Equity ของเดือนก.ย.57) หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อวันนี้เป็น TMB
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือการอ่อนตัวที่ต่ำกว่า 1560 จุด ควรชะลอการเก็งกำไร/ลดพอร์ตตามในกรณีที่มีหุ้นมากเหลือเงินสดอยู่น้อย เพราะดัชนีมีโอกาสอ่อนไปยัง 1520 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1570, 1580 จุด สำหรับหุ้นที่คาดว่าราคามีโอกาสทำ New High เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค คือ HMPRO, THREL, VGI, DELTA, EPCO, TPIPL, SCP, CGD, SITHAI,MFEC, RATCH, GLOW, TMB, SRICHA, IRCP ส่วนหุ้นที่แนะนำและปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit (สำหรับการลงทุนรอบสั้น) คือ MAJOR,GUNKUL, SVI, LHBANK
Fundamental Pick
TMB แนะนำซื้อราคาปิด 3.12 บาท เป้าหมาย–Under Review
* สินเชื่อ 2H57 เติบโตดีขึ้น...เน้น SME เพิ่ม ธนาคารตั้งสำรองค่าเผื่อฯในปี 57-58 น้อยลงหลังจากตั้งสำรองไปมากในช่วงปี 55 ธนาคารมี Room ที่จะขยายรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ROE ให้ขึ้นไปเป็น 10% ต้นๆ ในอีก 2 ปีข้างหน้า ทาง DBS คาดกำไรสุทธิปี 57-58เติบโตก้าวกระโดด 38% และ 22% ตามลำดับ ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นราคาหุ้น (Catalyst) คือการที่กระทรวงการคลังมีโอกาสขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไป โดยปัจจุบันถือหุ้นตามรายงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่ากับ 26% ซึ่งเรามองว่าจะขายในระดับ P/BV ที่สูง เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของ TMB แข็งแกร่ง หลังจากได้ปรับกลยุทธ์และปรับปรุงประสิทธิภาพหลายด้านในช่วงที่ผ่านมา แนะนำซื้อ โดยหากให้ P/BV เท่ากับระดับสูงสุดของธนาคารที่ 2.3 เท่า พบว่าราคาเป้าหมายจะเท่ากับ 3.60 บาท
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคการผลิตเดือนส.ค.ขยายตัวแข็งแกร่งและต่อเนื่อง
* ผลสำรวจของมาร์กิตบ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตของสหรัฐในเดือนส.ค.ขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.53 โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ เพิ่มขึ้นมาที่ 57.9 ในเดือนส.ค.57 เพิ่มขึ้นจาก 55.8 ในเดือนก.ค.
* สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. จากระดับ 57.1 ในเดือนก.ค. โดยตัวเลขเดือนล่าสุดนั้นเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.54 และเป็นการขยายตัวเดือนที่ 15 ติดต่อกัน
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : แกว่งแคบ
* ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,067.56 จุด ลดลง 30.89 จุด หรือ -0.18% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,598.19 จุด เพิ่มขึ้น 17.92 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,002.28จุด ลดลง 1.09 จุด หรือ -0.05%...สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียกดดันตลาดแต่ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยพยุงตลาดเอาไว้
- สัญญาน้ำมันดิบ : ลดลงเพราะวิตกเศรษฐกิจจีนและยูโรโซนชะลอตัวลง
* สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 3.08 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 92.88ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 100.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดัน คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยูโรโซนเมื่อพิจารณาจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ที่ออกมาแย่กว่าคาด
- สัญญาทองคำ COMEX : ดิ่งลงแรง
* สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 22.4ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 1,265 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ
+ Equity Explorer : SIM… มีโอกาสขายสมาร์ทโฟนล็อตใหญ่ให้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ...กำไรปี 57-58 เติบโตแกร่งเฉลี่ย 18% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย4.6 บาท
* มีโอกาสที่ SIM จะขายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนล็อตใหญ่ประมาณ 5 แสนเครื่อง ให้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือช่วง 2H57 (ปกติบริษัทมียอดขาย 1.1-1.2 แสนเครื่องต่อไตรมาส)เพื่อจัดเคมเปญหนุนให้ลูกค้าย้ายจาก 2G ไปเป็น 3G ซึ่งจะทำให้บริษัทผู้ประกอบการได้ประโยชน์จากการที่จ่ายส่วนแบ่งรายได้น้อยลง ขณะที่ผู้บริโภคก็ได้ประโยชน์จากราคาโทรศัพท์ที่ต่ำลง ทางด้าน SIM ก็จะมียอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นการขายล็อตใหญ่แต่เชื่อว่าอัตรากำไรสุทธิของการขายโทรศัพท์ล็อตใหญ่จะไม่ต่ำมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขาย & บริหารต่ำ
* คาดบริษัทจะทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ใน 3Q57 ซึ่งปัจจัยหนุนมาจากยอดขายสมาร์ทโฟนที่เติบโตแข็งแกร่ง ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้โทรศัพท์ประเภทนี้เพิ่มขึ้น และยอดขายดิจิตอล ทีวี โฟนก็ดีขึ้นด้วย หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบออกอากาศจากอนาล็อกไปเป็นดิจิตอล และในช่วง 4Q57 และปี 58 จะมียอดขายกล่อง Set top box เข้ามาเสริมด้วย คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 57 จะเติบโตได้ 23% และเติบโตต่อ 13% ในปี 58 นับว่าแข็งแกร่งมาก
* แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 4.6 บาท เทียบเท่ากับ P/E ปี 58 ที่ 17 เท่า คาดการณ์ DividendYield ปี 57-58 เท่ากับ 3.5% และ 4% ตามลำดับ
+ กลุ่มท่องเที่ยว & โรงแรม : ได้อานิสงค์ทางบวกจากการนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวไปลดหย่อนภาษี หุ้นเด่น AOT, CENTEL,MINT
* สรรพากรเร่งชงมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยล่าสุดมีข่าวออกมาว่านักท่องเที่ยวทั่วไปจะนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวไปหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ส่วนนิติบุคคลลดหย่อนได้ 2 เท่าไม่จำกัดวงเงิน
* ผู้ประกอบการภาคเอกชนมองว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวและการค้าการขายในต่างจังหวัดได้มาก คาดว่ารายได้จากไทยเที่ยวไทยจะเพิ่มอีก 1 แสนล้านจากมาตรการช่วง 2 ปี (ปี 57-58)
* ความเห็น DBS Retail Research : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อาหาร โรงแรม และการบิน ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวดังกล่าว ซึ่งหุ้นเด่นของเราเป็น AOT, CENTEL,MINT
•/+ SCB : มีกระแสข่าวว่าจะขายหุ้นไทยพาณิชย์ประกันชีวิตออกไป 25% ... แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 220 บาท
* รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทประกันที่คาดว่าเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นบางรายเพื่อขายหุ้นในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (เอสซีบีไลฟ์) 25% มูลค่าการซื้อขายอาจจะสูงถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 1.92 หมื่นล้านบาท สำหรับมูลค่าทางการตลาดของเอสซีบีไลฟ์ในปัจจุบันอยู่ที่ 2,400ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 7.68 หมื่นล้านบาท (โพสต์ทูเดย์)
* ความเห็น DBS Retail Research : กระแสข่าวนี้อาจทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไรในหลักทรัพย์SCB มากขึ้น ส่วนปัจจัยพื้นฐานของธนาคาร ทาง DBS มีมุมมองในทางบวกกับผลประกอบการ(Core Profit) ปี 58 โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวได้ 26% จากสินเชื่อรายย่อยที่ฟื้นตัวดีขึ้น รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตในอัตราที่สูงขึ้น และ Credit cost น้อยลง ส่วน Core profitในปีนี้คาดว่าจะทรงตัว แต่ถ้าธนาคารมีการขายสินทรัพย์และบันทึกกำไรก้อนใหญ่เข้ามาก็จะทำให้มีกำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายเติบโตได้ แนะนำซื้อ DBS ให้ราคาพื้นฐาน 220 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]