- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 February 2018 16:22
- Hits: 1453
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้: ทิศทางกำไรบจ.ช่วยบรรเทาความกังวลเงินเฟ้อ
หุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน และเป็นการปรับขึ้น 5 วันที่เยอะที่สุด (best 5 days) นับจากปี 2554 เป็นต้นมา ทั้งนี้ผลประกอบการบจ.ที่แข็งแกร่งช่วยบรรเทาความกังวลเงินเฟ้อ สินค้าโภคภัณฑ์ ฟื้นตัวจากค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง แต่น้ำมันดิบยังฟื้นจำกัด จากคาดการณ์สหรัฐฯ จะขึ้นเป็นผู้ผลิตปิโตรเลียมหมายเลข 1 ของโลกในปีนี้
แม้ตลาดในช่วงนี้จะลดความกงวลเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเร็ว (สูงสุด 2.93%) แต่ก็ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตา ในกรณีที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับขึ้นต่อและสูงกว่าระดับ 3.00-3.20% อาจทำให้ตลาดจะเริ่มกลับมาให้ความกังวลต่อประเด็นนี้อีกครั้ง
Sentiment หุ้นโลกและไทยเริ่มกลับเป็นบวก แต่ความกังวลแรงทำกำไรของนักลงทุนสถาบันและหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ตลาดเริ่มหมุนกลุ่มอื่นขึ้นมา ได้แก่ การแพทย์, ธนาคาร, กลุ่มปันผลสูง โดยมีหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ BDMS, BCH, THG*, KBANK, LH, INTUCH, MAJOR, PM* รวมทั้งกลุ่มประกัน ที่ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น TIP*, THREL* // ขณะที่หุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงาน เรียงตามลำดับความน่าสนใจ ได้แก่ BANPU, PTTEP และ IRPC, IVL, PTTGC
Investment Theme // การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS BCH THG*// กลุ่มธนาคาร – การที่ธปท.ส่งสัญญาณ NPL ผ่านจุดสูงสุด //หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบอนด์ยีลที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ทยอยสะสม จากค่าระวางเรือ (BDI) ขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA //
ภาพรวมกลยุทธ์: ปรับฐานในตลาดขาขึ้น แกว่งตัวออกข้าง คาดการฟื้นตัวยังจำกัดที่บริเวณ 1810 แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อในจังหวะปรับฐาน เน้นกลุ่มที่ราคายังขึ้นน้อย (underperform) หรือมีการถือครองน้อย (under-owned) ในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมา อาทิ การแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร หรือเข้าสู่ฤดูผลประกอบการสูง อาทิ ท่องเที่ยว ได้แก่ BDMS, BH, BCH, THG*, VIH*, LH, QH, SC*, ADVANC, INTUCH, ERW, MINT นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำ BDMS, AMANAH, MAJOR, ATP30
แนวรับ 1790 / แนวต้าน : 1810 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้: ทิศทางกำไรบจ.ช่วยบรรเทาความกังวลเงินเฟ้อ
หุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน และเป็นการปรับขึ้น 5 วันที่เยอะที่สุด (best 5 days) นับจากปี 2554 เป็นต้นมา ทั้งนี้ผลประกอบการบจ.ที่แข็งแกร่งช่วยบรรเทาความกังวลเงินเฟ้อ สินค้าโภคภัณฑ์ ฟื้นตัวจากค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง แต่น้ำมันดิบยังฟื้นจำกัด จากคาดการณ์สหรัฐฯ จะขึ้นเป็นผู้ผลิตปิโตรเลียมหมายเลข 1 ของโลกในปีนี้
แม้ตลาดในช่วงนี้จะลดความกงวลเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเร็ว (สูงสุด 2.93%) แต่ก็ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตา ในกรณีที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับขึ้นต่อและสูงกว่าระดับ 3.00-3.20% อาจทำให้ตลาดจะเริ่มกลับมาให้ความกังวลต่อประเด็นนี้อีกครั้ง
Sentiment หุ้นโลกและไทยเริ่มกลับเป็นบวก แต่ความกังวลแรงทำกำไรของนักลงทุนสถาบันและหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ตลาดเริ่มหมุนกลุ่มอื่นขึ้นมา ได้แก่ การแพทย์, ธนาคาร, กลุ่มปันผลสูง โดยมีหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ BDMS, BCH, THG*, KBANK, LH, INTUCH, MAJOR, PM* รวมทั้งกลุ่มประกัน ที่ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น TIP*, THREL* // ขณะที่หุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงาน เรียงตามลำดับความน่าสนใจ ได้แก่ BANPU, PTTEP และ IRPC, IVL, PTTGC
Investment Theme // การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS BCH THG*// กลุ่มธนาคาร – การที่ธปท.ส่งสัญญาณ NPL ผ่านจุดสูงสุด //หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบอนด์ยีลที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ทยอยสะสม จากค่าระวางเรือ (BDI) ขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA //
ภาพรวมกลยุทธ์: ปรับฐานในตลาดขาขึ้น แกว่งตัวออกข้าง คาดการฟื้นตัวยังจำกัดที่บริเวณ 1810 แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อในจังหวะปรับฐาน เน้นกลุ่มที่ราคายังขึ้นน้อย (underperform) หรือมีการถือครองน้อย (under-owned) ในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมา อาทิ การแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร หรือเข้าสู่ฤดูผลประกอบการสูง อาทิ ท่องเที่ยว ได้แก่ BDMS, BH, BCH, THG*, VIH*, LH, QH, SC*, ADVANC, INTUCH, ERW, MINT นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำ BDMS, AMANAH, MAJOR, ATP30
แนวรับ 1790 / แนวต้าน : 1810 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปิดบวกรับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า // ค่าระวางเรือ BDI ปิดที่ 1,089 จุด (-0.55%) // ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 104.15 เหรียญฯต่อตัน (-0.24%)
IMF ชี้นโยบายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯเป็นบวกในระยะสั้น แต่มีผลลบในระยะยาว – IMF ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปรับลดภาษีของ ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่อาจส่งผลลบในระยะกลาง-ยาว จาก หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และ การเพิ่มสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อซึ่งจะนำไปสู่จุดสิ้นสุดของยุคมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
คัดเลือกผู้ว่าการ BOJ คนใหม่ – แหล่งข่าวระบุ นายกฯชินโซ อาเบะ อาจเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ ต่อรัฐสภาในวันนี้ ตลาดคาดว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกน่าจะเป็นนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการคนปัจจุบัน
คาดรายได้เกษตรกรปี 61 โตต่อเนื่อง – สศก.เผยดัชนีรายได้เกษตรกรปี 60 เพิ่มขึ้น 2.97% yoy โดยเป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตที่ปรับขึ้น 5.87% ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ปรับลดลง 2.74% คาดรายได้เกษตรกรปี 61 โตต่อจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เป็นบวก และมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ
ประเด็นติดตาม: 19 ก.พ. TH – สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60 // 23 ก.พ. EU – อัตราเงินเฟ้อ เดือน ม.ค. // 28 ก.พ. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไท
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปิดบวกรับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า // ค่าระวางเรือ BDI ปิดที่ 1,089 จุด (-0.55%) // ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 104.15 เหรียญฯต่อตัน (-0.24%)
IMF ชี้นโยบายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯเป็นบวกในระยะสั้น แต่มีผลลบในระยะยาว – IMF ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปรับลดภาษีของ ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่อาจส่งผลลบในระยะกลาง-ยาว จาก หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และ การเพิ่มสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อซึ่งจะนำไปสู่จุดสิ้นสุดของยุคมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
คัดเลือกผู้ว่าการ BOJ คนใหม่ – แหล่งข่าวระบุ นายกฯชินโซ อาเบะ อาจเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ ต่อรัฐสภาในวันนี้ ตลาดคาดว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกน่าจะเป็นนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการคนปัจจุบัน
คาดรายได้เกษตรกรปี 61 โตต่อเนื่อง – สศก.เผยดัชนีรายได้เกษตรกรปี 60 เพิ่มขึ้น 2.97% yoy โดยเป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตที่ปรับขึ้น 5.87% ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ปรับลดลง 2.74% คาดรายได้เกษตรกรปี 61 โตต่อจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เป็นบวก และมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ
ประเด็นติดตาม: 19 ก.พ. TH – สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60 // 23 ก.พ. EU – อัตราเงินเฟ้อ เดือน ม.ค. // 28 ก.พ. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไท
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน
OO5640
OO5640