WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

Market summary
  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นก่อนตลาดปิด โดยมีแรงซื้อจาก PTT, PTTEP, BANPU  ในขณะที่มีแรงขายเด่นในกลุ่มก่อสร้างนำโดย STEC, CK, ITD, UNIQ ภายหลัง STEC รายงานงบไตรมาส 4 พลิกขาดทุนอย่างมีนัยยะสร้างความกังวลต่อกลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาเผชิญกับแรงขายเช่นกันนำโดย SPALI, LPN , AP ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,800.8 จุด (+8.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.4 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 4.9 หมื่นล้านบาท 
  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ที่ 938 ล้านบาท (รวมขายสุทธิ 3.4 หมื่นล้านบาท) และเปิด Long SET50 index future ที่ 3,776 สัญญา 
Investment theme
  นักลงทุนสถาบันชะลอแรงซื้อ ผสมกับยังไม่เห็นสัญญานักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อหุ้น เป็นผลให้ SET แกว่งออกข้าง  : หากนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) พบว่านักลงทุนต่างประเทศทยอยขายทำกำไรตลาดหุ้นเอเชียอย่างมีนัยยะ โดยขายประเทศไทยสูงที่สุดกว่า 1,220 ล้านเหรียญสหรัฐ และไต้หวัน, เกาหลีใต้, อินโดเนเซีย, ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ SET เผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงที่ผ่านมา และด้วยตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่ประกาศออกมาดีจากทั้งฝั่งสหรัฐและยุโรป ส่งผลทางอ้อมให้การเงินโลกเข้าสู่ช่วง Q.T. (Quantitative Tightening) ที่เร็วขึ้น อาจส่งผลต่อการชะลอการไหลของ Fund flow เข้ามายังตลาด EM ในขณะที่เรามองว่าในเดือนกุมภาพันธ์ นักลงทุนสถาบันจะเริ่มชะลอแรงซื้อ และอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนโดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ภายหลังซื้อสุทธิติดต่อกันมานานกว่า 5 เดือน  ซึ่งมีโอกาสทำให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นลดลง และเข้าสู่ช่วงปรับฐานเพื่อรอปัจจัยสนับสนุนใหม่
  Investment theme:  เชิงกลยุทธ์ เราแนะนำเลี่ยงการเก็งกำไรในผลประกอบการออกไปก่อน และอาจพิจารณาขายทำกำไรในหุ้นที่คาดผลประกอบการเด่น ก่อนการประกาศงบ 1 วัน และคงคำแนะนำถือเงินสดไม่น้อยกว่า 20% ของพอร์ตและระมัดระวังการขายทำกำไรในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 60% ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา และ ปันผลต่ำกว่า 4.0% ในขณะที่ Upside จำกัด เช่น GPSC, BCPG, BEAUTY, KTC และ GULF
Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – Abe เตรียมเสนอชื่อ คุโรดะ เป็นผู้ว่า BOJ อีกสมัย / Dollar Index เริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่ 88.6
  บทวิเคราะห์ STEC, TOP
Stock pick : TISCO
TISCO : ทยอยสะสม 105.0 บาท/หุ้น   
  ราคาหุ้นปรับตัวลงมาจากต้นปี  7% ส่งผลให้ Upside ของ TISCO สูงกว่า 19% และคาดบริษัทจ่ายปันผลสูงกว่า 4.20 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield สูงกว่า 5.0%
  ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศมีแนวโน้มเติบโต 4.4% ที่ 9.0แสนคัน (ยอดผลิต 2.0 ล้านคัน) คาดส่งผลให้สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 60% ของพอร์ต เติบโตสูงกว่า 7.0%
  ในช่วงเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป จะมีการรับโอนรถยนต์ที่ถูกจองในงาน Motor Expo ครั้งที่ 34 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (โดยมียอดจำหน่ายสูงกว่าปี 2559 ถึง 23% ที่ 3.9 หมื่นคัน) คาดส่งผลบวกทางอ้อมต่อ TISCO ใน 1Q61
  Trading idea – – แนะ Switch จาก TOP ไป IRPC, SPRC เพื่อเอาปันผล ในขณะที่คาด Earning momentum ดีกว่า
Technical View
  ไม่หลุด 1790 ยังลุ้นการ Break Out Neckline: ดัชนีเปิดโดดชนแนวต้าน 1800 และแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน โดยมีแรงซื้อกลับอย่างรุนแรงในช่วงหลัง 4 โมง เนื่องจากภาพหลักดัชนียังย่อไม่หลุด 1790 ประกอบกับ Modified Stichastic ใน 120 นาที ดีดขึ้นจากเขต Oversold จึงทำให้ยังลุ้นการ Break Neckline ที่ 1805 เพื่อขึ้นไปปิด Gap ที่ 1813 และ 1825 ตามลำดับ แต่หากระหว่างวันอ่อนตัวหลุด 1790 แนะนำให้ Lock Profit และรอซื้อกลับที่แนวรับเพื่อเล่นรอบ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากผ่าน 1805 แนะนำ ถือหุ้นต่อ แต่หากหลุด 1790 แนะนำ Lock และรอซื้อกลับที่แนวรับ2) ไม่มีหุ้น: จังหวะทดสอบแนวรับ 1790 แล้วไม่หลุดอาจใช้เป็นโอกาสเล่น Rebound
  แนวรับ : 1790, 1785 แนวต้าน : 1805, 1813
Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ : -
  ปัจจัยในประเทศ : 19 ก.พ. รายงาน GDP ไตรมาส 4
หุ้นเทคนิค:
  PTT (B 480.00-484.00, Tp 492.00//500.00, Cut 474.00)
  BANPU (B 21.50, Tp 22.50, Cut 21.20)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5633

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!