- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 February 2018 16:21
- Hits: 1189
บล.เอเชีย เวลท์ : รายงานภาวะเทคนิครายวัน
ปัจจัยพึงระวังยังอยู่
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการบวก ขณะที่ยังมีความกังวลที่เงินเฟ้อสูง U.S. Government Bond Yield 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยเร่งให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือนหน้า แต่ดูเหมือนว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะตอบสนองข่าวความกังวลดังกล่าวไปแล้ว และเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อในระดับ 1.03%-1.86% ในค่ำคืนที่ผ่านมา เราคาดว่าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยจะขานรับในเชิงบวก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อขานรับกับการที่ซาอุดิอาระเบียเตรียมจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงในเดือน มี.ค. กรอบดัชนีในวันนี้ 1,780-1,810 จุด หุ้นแนะนำ CPALL, BANPU, IRPCL
Stock Comment
CPALL เลือกเป็น pick of the day
BANPU คาดผลประกอบการไตรมาส 4/60 และต่อเนื่องในไตรมาส 1/61 ดีขึ้น จากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น
IRPC คาดผลประกอบการไตรมาส 1/61 ยังดีต่อเนื่อง จาก สเปรดปิโตรเคมีดีขึ้น QoQ โดยเฉพาะปิโตรเคมีสาย โอเลฟินส์ คือ เอทิลีน และโพรไพลีน ปันผลมากกว่า คาดที่ 0.29 บาทต่อหุ้น XD 26 ก.พ.61
หุ้นเด่นวันนี้ : CPALL (ปิด 79.50 บาท; "ซื้อ" ; AWS TP 87.50 บาท)
เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven โดยมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 700 สาขา เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 13,000 สาขา ภายในปี 2564 เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4/60 นี้เท่ากับ 5,143 ล้านบาท (+19.6%YoY, +3.5%QoQ) ทำให้ปี 2560 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 19,525 ล้านบาท (+17.1%YoY) ในขณะที่การบริโภคในไตรมาส 1/61 นี้มีโอกาสฟื้นตัวตามดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องจากการเปิดสาขาเพิ่มและยอดใช้จ่ายต่อบิลที่สูงขึ้นจากโปรโมชั่นต่างๆ และมี Upside Risk จากการเป็นแบงก์กิ้งเอเย่นต์
Price Pattern ของ CPALL ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ CPALL ยังคงบ่งบอกว่าจะได้เห็นการทา New High อีกด้วย โดยมีเป้าหมายถัดไปของการทา New High อยู่ที่ 83 บาท ทั้งนี้จุด Stop Loss ระยะสั้นของ CPALL อยู่ที่ 78.25 บาท
ปัจจัยในประเทศ :
คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตามคาด เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคเริ่มค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และมองว่าเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น (บางกอกโพสต์)
กสทช. มีมติเลื่อนการประมูลคลื่น 900/1800 MHz ออกไปอีก 1-2 เดือน เนื่องจากต้องการรอผลคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กสทช. ชุดปัจจุบันที่เป็นชุดรักษาการมีอำนาจในการดำเนินการประมูลคลื่นดังกล่าวหรือไม่ (บางกอกโพสต์/ข่าวหุ้น)
LPN(ปิด 11.20บาท; ถือ; AWS TP 11.00 บาท) LPN รายงานรายได้ในปี 2560 เท่ากับ 9,613 ล้านบาท ลดลง 34.2% YoY และกำไรสุทธิเท่ากับ 1,062 ล้านบาท ลดลง 51.2% YoY สูงกว่าที่เราคาดไว้ 5.5% เนื่องมาจาก GPM ที่มีการปรับตัวดีขึ้นใน 4Q60 ที่ 28.8% ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 3Q60 ที่ 25.6% โดยบริษัทจะจ่ายปันผลเพิ่มอีก 0.35 บาทต่อหุ้น และจะขึ้น XD วันที่ 26 ก.พ. 2561 LPN เตรียมเปิดโครงการในปี 2561 ทั้งหมด 14 โครงการ มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการคอนโด 10 โครงการ มูลค่ารวม 14,550 ล้านบาท และโครงการในแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่า 3,450 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้า presales ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ความเห็น: เราคาดการณ์แนวโน้มในปี 2561 จะไม่ต่างจากปีที่แล้วเท่าไหร่ โดยจะต้องลุ้นกับโครงการคอนโดที่จะโอนรับรู้เป็นรายได้ตามประมาณการบริษัทได้ขนาดไหน และการระบายสต๊อกยังจะคงกดดัน GPM อีกตลอดทั้งปี เราแนะนำ "ถือ" โดยปรับราคาเป้าหมายจากเดิมที่ 13 บาท เป็น 11 บาท โดยอ้างอิง PER 14x จากกำไรสุทธิปี 2561
TASCO(22.60 บาท; ซื้อ; AWS TP 33 บาท) ประกาศกำไรสุทธิปี 2560 เท่ากับ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 18.4%YoY เป็นกำไรสุทธิในไตรมาส 4/60 เท่ากับ 554 ล้านบาท ลดลง 38%YoY แต่เพิ่มขึ้น 38%QoQ ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์กำไรปี 2560 ทำระดับ 2.9 พันล้านบาท ความเห็น: เรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 เท่ากับ 3.6 พันล้านบาท แนะนำซื้อ เนื่องจากมอง Outlook ธุรกิจปี 2561 ทั้งปีดี
STEC(23.40 บาท; ซื้อ; AWS TP 28.50 บาท) ประกาศขาดทุนสุทธิปี 2560 เท่ากับ 611 ล้านบาท คิดเป็นผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/60 มากถึง 1,320 ล้านบาท จากการบันทึกขาดทุนทั้งหมดของโครงการที่ทำอยู่คาดว่าเป็นโครงการก่อสร้างรัฐสภา อย่างไรก็ตาม Backlog ในปัจจุบันมากถึง 112 พันล้านบาท และเป็น Backlog ใหม่จากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโรงไฟฟ้า เราจึงแนะนำซื้อ STEC
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ทั้งสามตลาด เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ซึ่งมุมมองดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นปิดตลาดในแดนบวก ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 นำโดยกลุ่มธนาคาร และหุ้นบลูชิพตัวอื่น ๆ ทั้งที่ดัชนีร่วงลงในช่วงแรกจากความวิตกกังวลที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน ม.ค. อาจเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้
สหรัฐฯ : ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) ทรงตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 2.1% YoY ในเดือน ม.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.9% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (U.S. Government Bond Yield) อายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 2.90% ทำนิวไฮ 4 ปี ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.164% หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อสูงกว่าคาดเจพีมอร์แกนออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : ปรับตัวขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าพุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มที่ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนหน้า กระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า บริษัทอารามโคของซาอุดิอาระเบียจะมีการผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.ต่ำกว่าระดับในเดือนก.พ.ราว 1 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่การส่งออกจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 7 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่การผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ มีการขยายตัวอย่างมาก จนทำให้การผลิตน้ำมันในปีนี้อาจเทียบเท่ากับการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก เป็นเรื่องน่าคิดสำหรับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นซึ่งกำลังปรับลดกำลังการผลิต และเผชิญกับการท้าทายจากการที่ถูกแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
ราคาถ่านหิน New Castle ปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืนที่ 104.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ส่งผลบวกต่อผู้ผลิตถ่านหินคือ BANPU
ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,095.00 จุด ลดลง 19.00 จุด
Thailand Research Department
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO5565
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO5565