- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 February 2018 16:08
- Hits: 815
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,800 จุดได้ โดยยังคงมีแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT. PTTEP, BANPU, IRPC และมีแรงขายเด่นใน SGP, UV อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กเด่นใน WICE, SF, CGD ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,792.0 จุด (-7.94 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.9 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 5.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องทีเป็นวันที่ 9 ที่ 1,893 ล้านบาท (รวมขายสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท) และกลับมาเปิด Short SET50 index future ที่ 4,002 สัญญา
Investment theme
คาด SET เข้าสู่ช่วงปรับฐาน แนะเปลี่ยนจากลงทุนในหุ้นใหญ่มาเป็น เก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก : เราคาด SET จะเข้าสู่ช่วงปรับฐานพร้อมคาดมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงประมาณ 10-15% จากเดือนมกราคมที่ระดับ 7.6 หมื่นล้านบาท และด้วยปัจจัยต่างประเทศที่ยังไม่เอื้อให้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อหุ้นไทย ภายหลังสหรัฐรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานออกมาสดใส ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมารายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (Core CPI) สูงกว่าคาดที่ 1.8% สร้างความกังวลต่อความคาดหวังของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่เร็วขึ้น ในขณะที่นักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าสู่ช่วงการขายทำกำไรในหุ้นบางส่วน ภายหลังซื้อสะสมติดต่อกันมามากกว่า 5 เดือนสูงกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท โดยเราคาดกลุ่มที่นักลงทุนสถาบันอาจขายทำกำไรบางส่วนได้แก่ กลุ่มพลังงาน และค้าปลีก ภายหลังปรับตัวขึ้นเด่นกว่า 13% และ 22% ในช่วงที่ผ่านมาตามลำดับ
Investment theme: หากนับจากการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 (งบปี 2560) นำโดยกลุ่มธนาคารจนถึงปัจจุบัน เราพบว่าภายหลังประกาศงบ เกิดแรงขายทำกำไร (Sell on fact) เป็นส่วนมาก โดยราคาหุ้นปรับตัวลงภายหลังการรายงานงบทั้งออกมาดีกว่าคาดและที่ต่ำกว่าคาด ฉะนั้นในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำเลี่ยงการเก็งกำไรในผลประกอบการออกไปก่อน และอาจพิจารณาขายทำกำไรในหุ้นที่คาดผลประกอบการเด่น ก่อนการประกาศงบ 1 วัน และคงคำแนะนำถือเงินสดไม่น้อยกว่า 20% ของพอร์ตและระมัดระวังการขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่บางกลุ่ม
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – Bond yield 1 ปีสหรัฐปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปี ที่ 1.93 % / กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50% / Brent ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 64.3 เหรียญ / เกิดเหตุก่อการร้ายที่ Florida พบผู้เสียชีวิต 17 คน
SF รายงานกำไรดีแต่มากจาก Extra / LPN ต่ำคาด /
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,800 จุดได้ โดยยังคงมีแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT. PTTEP, BANPU, IRPC และมีแรงขายเด่นใน SGP, UV อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กเด่นใน WICE, SF, CGD ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,792.0 จุด (-7.94 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.9 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 5.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องทีเป็นวันที่ 9 ที่ 1,893 ล้านบาท (รวมขายสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท) และกลับมาเปิด Short SET50 index future ที่ 4,002 สัญญา
Investment theme
คาด SET เข้าสู่ช่วงปรับฐาน แนะเปลี่ยนจากลงทุนในหุ้นใหญ่มาเป็น เก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก : เราคาด SET จะเข้าสู่ช่วงปรับฐานพร้อมคาดมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงประมาณ 10-15% จากเดือนมกราคมที่ระดับ 7.6 หมื่นล้านบาท และด้วยปัจจัยต่างประเทศที่ยังไม่เอื้อให้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อหุ้นไทย ภายหลังสหรัฐรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานออกมาสดใส ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมารายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (Core CPI) สูงกว่าคาดที่ 1.8% สร้างความกังวลต่อความคาดหวังของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่เร็วขึ้น ในขณะที่นักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าสู่ช่วงการขายทำกำไรในหุ้นบางส่วน ภายหลังซื้อสะสมติดต่อกันมามากกว่า 5 เดือนสูงกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท โดยเราคาดกลุ่มที่นักลงทุนสถาบันอาจขายทำกำไรบางส่วนได้แก่ กลุ่มพลังงาน และค้าปลีก ภายหลังปรับตัวขึ้นเด่นกว่า 13% และ 22% ในช่วงที่ผ่านมาตามลำดับ
Investment theme: หากนับจากการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 (งบปี 2560) นำโดยกลุ่มธนาคารจนถึงปัจจุบัน เราพบว่าภายหลังประกาศงบ เกิดแรงขายทำกำไร (Sell on fact) เป็นส่วนมาก โดยราคาหุ้นปรับตัวลงภายหลังการรายงานงบทั้งออกมาดีกว่าคาดและที่ต่ำกว่าคาด ฉะนั้นในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำเลี่ยงการเก็งกำไรในผลประกอบการออกไปก่อน และอาจพิจารณาขายทำกำไรในหุ้นที่คาดผลประกอบการเด่น ก่อนการประกาศงบ 1 วัน และคงคำแนะนำถือเงินสดไม่น้อยกว่า 20% ของพอร์ตและระมัดระวังการขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่บางกลุ่ม
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – Bond yield 1 ปีสหรัฐปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปี ที่ 1.93 % / กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50% / Brent ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 64.3 เหรียญ / เกิดเหตุก่อการร้ายที่ Florida พบผู้เสียชีวิต 17 คน
SF รายงานกำไรดีแต่มากจาก Extra / LPN ต่ำคาด /
Stock pick : BTS
BTS : ทยอยสะสม 10.50 บาท/หุ้น
หากนับตั้งแต่ต้นปี 2560 ราคาหุ้น Laggard กลุ่มอยู่สูงกว่า 45% ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก ความกังวลในธุรกิจโฆษณา และ อสังหา อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เราเริ่มเห็นพํฒนาการที่ชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับในขณะที่ราคาปัจจุบันคิดเป็นปันผลประมาณ 3.0%
3 ธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ 1) ธุรกิจรถไฟฟ้า เติบโตต่อเนื่องและรับรู้รายได้จาก M&E รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2) ธุรกิจโฆษณาเติบโตโดยเฉพาะจากกลุ่ม Out of home media สะท้อนผ่านกำไร MACO ที่ทำระดับสูงสุด ในขณะที่ 3) ธุรกิจอสังหา ที่ JV กับ SIRI พลิกกำไรเป็นครั้งแรกจากการโอนคอนโด The Line จตุจักร-หมอชิต
แนะทยอยสะสม ด้วยราคาเป้าหมาย 10.50 บาท/หุ้น
Trading idea – – ระมัดระวัง Sell on fact ใน SF / คาดเกิด Technical rebound ในกลุ่มน้ำมัน (แนะทยอย Take profit บางส่วน)
Technical View
BTS : ทยอยสะสม 10.50 บาท/หุ้น
หากนับตั้งแต่ต้นปี 2560 ราคาหุ้น Laggard กลุ่มอยู่สูงกว่า 45% ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก ความกังวลในธุรกิจโฆษณา และ อสังหา อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เราเริ่มเห็นพํฒนาการที่ชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับในขณะที่ราคาปัจจุบันคิดเป็นปันผลประมาณ 3.0%
3 ธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ 1) ธุรกิจรถไฟฟ้า เติบโตต่อเนื่องและรับรู้รายได้จาก M&E รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2) ธุรกิจโฆษณาเติบโตโดยเฉพาะจากกลุ่ม Out of home media สะท้อนผ่านกำไร MACO ที่ทำระดับสูงสุด ในขณะที่ 3) ธุรกิจอสังหา ที่ JV กับ SIRI พลิกกำไรเป็นครั้งแรกจากการโอนคอนโด The Line จตุจักร-หมอชิต
แนะทยอยสะสม ด้วยราคาเป้าหมาย 10.50 บาท/หุ้น
Trading idea – – ระมัดระวัง Sell on fact ใน SF / คาดเกิด Technical rebound ในกลุ่มน้ำมัน (แนะทยอย Take profit บางส่วน)
Technical View
หลุด 1790 ดัชนีจะกลับมาพักฐานในกรอบ 1760-1805: แรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนีไม่สามารถผ่าน Neckline ของ Double Bottom ที่ 1805 ทำให้ขณะนี้ดัชนีกลับมามีแนวโน้มแกว่งพักตัวในกรอบ Sideway ช่วง 1760-1805 อีกครั้ง บวกกับขณะนี้ Slow Stochastic ในกราฟ 120 นาทีเริ่มตัดลงจากเขต Overbought ระยะสั้นจึงคาดแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 1785 และ 1770 ตามลำดับ โดยระหว่างวันหากย่อไม่หลุด 1785 อาจลุ้นการ Rebound สลับระหว่างวันได้ มองแนวต้าน 1800 และ 1805
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลงทุนระยะสั้น-ระยะกลาง หากหลุด 1790 แนะนำ Lock และดูแนวโน้มการหยุดลงตามแนวรับ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะทดสอบแนวรับ 1785 แล้วไม่หลุดอาจใช้เป็นโอกาสเล่น Rebound
แนวรับ : 1785, 1770 แนวต้าน : 1800, 1805
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : -
ปัจจัยในประเทศ : -
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลงทุนระยะสั้น-ระยะกลาง หากหลุด 1790 แนะนำ Lock และดูแนวโน้มการหยุดลงตามแนวรับ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะทดสอบแนวรับ 1785 แล้วไม่หลุดอาจใช้เป็นโอกาสเล่น Rebound
แนวรับ : 1785, 1770 แนวต้าน : 1800, 1805
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : -
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
IVL (B 52.50-53.00, Tp 57.00//59.00, Cut 52.00)
CPALL (B 78.50, Tp 81.00, Cut 77.00)
IVL (B 52.50-53.00, Tp 57.00//59.00, Cut 52.00)
CPALL (B 78.50, Tp 81.00, Cut 77.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5561
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5561