- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 September 2014 14:29
- Hits: 2280
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งตัวบริเวณ 1570 จุดรอปัจจัยใหม่
SET View
แนวโน้ม วันนี้คาด SET เคลื่อนไหวกรอบ 1560-1575 จุด การเคลื่อนไหวกรอบแคบ 2 วันที่ผ่านมาพร้อมมูลค่าซื้อขายที่ลดลง บ่งบอกว่าตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่ (1) แม้ได้ปัจจัยบวกจากคสช.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (2) รวมถึงแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ก่อนขึ้น XD สัปดาห์หน้า (3) แต่แต่ดัชนี PMI ของสหรัฐเดือนส.ค.ที่ 59 เพิ่มจาก 57.1 ในเดือนก.ค.สูงสุดตั้งแต่เดือนมี.ค.54 บ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วง 2H57 กลับมาสร้างความวิตกเรื่องเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาดอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนปิดลดลง 30 จุด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้นมาที่ 2.41% ชึ้นจาก 2.33% ในสัปดาห์ก่อน ปรับขึ้นวันเดียวสูงสุดตั้งแต่ปลายเดือนก.ค. (4) การที่ดัชนีดาวโจนส์ยังไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 17,098 จุด จะกดดันจิตวิทยาการลงทุนในภูมิภาค เราเริ่มเห็นการพักฐานของตลาดหุ้นในเอเชียบางตลาด และเชื่อว่าปัจจัยบวกในประเทศยังไม่เพียงพอผลักดัน SET ไปไกลกว่าระดับปัจจุบัน (5) รวมถึงนักลงทุนบางส่วนอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของมาตรการเสริมสภาพคล่องในการประชุม ECB วันที่ 4 ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ยืนเหนือ 1560 จุด เน้นขึ้นขายลงซื้อ
(1) Top Daily Pick : KCE (คาดผลประกอบการรายไดรมาสเติบโตต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปีจากปัจจัยฤดูกาล และการเปิดใช้โรงงานใหม่เฟสแรก ที่เพิ่มกำลังการผลิตอีก 25% จะช่วยลดปัญหาคอขวดและรองรับลูกค้าใหม่ที่เริ่มเข้ามา) และ WORK (คาดผลประกอบการ 2H57 โตก้าวกระโดดจากรายได้ Workpoint TV เริ่มเข้ามาอย่างมีนัย)
(2) Technical Pick : TMB SCB KBANK PDI HANA
(3) Theme Play : กลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ (CK ITD STEC) โครงการโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่กลับมาพิจารณาอีกครั้ง กลุ่มธนาคาร (BBL KBANK SCB) เก็งกำไรก่อนขึ้น XD ในสัปดาห์หน้า กลุ่มสื่อ/สิ่งพิมพ์ (MAJOR WORK) คาดผลประกอบการฟื้นตัวช่วง 3Q57 กลุ่มอาหาร/อิเล็กทรอนิกส์ (CPF TUF DELTA SVI) ยอดขายเร่งตัวช่วง 2H57 ตามปัจจัยฤดูกาล กลุ่มขนส่ง/ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW) และกลุ่มนิคมฯ (HEMRAJ AMATA) คาดรัฐบาลชุดใหม่มีมาตราการสนับสนุนเป็นลำดับต้น
ระยะ 1-2 สัปดาห์
Trading AH BANPU CPF MAJOR PSL SRICHA WORK
ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
Growth SAMART SEAFCO TUF TVD WORK
Dividend INTUCH BBL MC MODERN PTTEP PTTGC SRICHA
Quant AJD BLA BTS EFORL TMB TRUE
รายงานวันนี้
Update : RATCH (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 66 บาท) แนวโน้มกำไรเติบโตเด่นสุดในกลุ่มไฟฟ้า
Update : PS (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท) เร่งเปิดโครงการใหม่ช่วยผลักดันยอดขาย
Comment : DTAC (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 112 บาท) เปลี่ยน CEO กระทันหันไม่กระทบเป้าหมายธุรกิจปีนี้
ปลายตลาดขาขึ้น หุ้น Outperformers จะยิ่ง outperform SET
สถิติช่วงที่ผ่านมาพบว่าในช่วงปลายตลาดขาขึ้นหุ้นที่จะปรับสูงขึ้นมากกว่า SET (outperformers) ในระดับสัปดาห์ เดือน และ สามเดือนมักเป็นหุ้นกลุ่มเดียวกัน จากการทดสอบครั้งล่าสุด อิงกับราคาปิดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. เราพบความสัมพันธ์ดังกล่าวเช่นเดิม หากพิจารณาจากหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (526 ตัว) พบว่ามีความสัมพันธ์กับผลตอบแทนระดับสัปดาห์ 71% หากลองคัดเลือกหุ้นอิงกับอัตราผลตอบแทนระยะ 3 เดือนที่มากกว่า +10%, +20% และ +30% (จำนวนหุ้นลดเหลือ 217, 130 และ 70 ตัวตามลำดับ) พบความสัมพันธ์กับผลตอบแทนระดับสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็น 76%, 79% และ 81% ตามลำดับ
แม้ผลการทดสอบนี้ไม่สามารถระบุได้ว่า SET ระดับปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายขาขึ้นแล้วหรือไม่ แต่พอสรุปได้ว่าหุ้นที่น่าสนใจลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) ควรอยู่ในกลุ่มที่ Outperform ตลาดในช่วง 1 -3 เดือนที่ผ่านมา อาจจะด้วยเหตุผลเชิง Momentum
ตารางข้างล่างเป็นรายชื่อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาและนักวิเคราะห์โบรกๆต่างๆออกรายงานปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งมีราว 100 ตัว คิดเป็นสัดส่วนราว 1/3 ของหุ้นทั้งหมดในตลาดที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ส่วนหุ้นใน Highlight สีฟ้าเป็นหุ้นที่อยู่ใน Coverage ของเรา
จากผลทดสอบข้างต้น หุ้นที่ยิ่งให้อัตราผลตอบแทนสูงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ทางฝั่งซ้ายมือ) มีความเป็นไปได้ที่จะให้อัตราผลตอบแทนสูงในระยะสั้น มากกว่ารายชื่อหุ้นที่อยู่ในฝั่งขวามือ