- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 February 2018 15:44
- Hits: 621
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้”
ทิศทางตลาดหุ้นไทย:
เรามองว่าตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway รอความชัดเจนของปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งต้องติดตามการประกาศตัวเลข CPI (เงินเฟ้อ) สหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันนี้เวลา 20.30 น. นักวิเคราะห์คาดอัตราเงินเฟ้อดือนม.ค.จะชะลอตัวสู่ระดับ 1.9% ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมาสูงกว่าคาดจะมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อตลาดได้ .... ปัจจัยภายนอกได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก, IEA คาดโอเปกจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย .... ส่วนปัจจัยในประเทศได้แก่ รายงานกำไรของหุ้นหลายตัว เช่น IRPC, SPRC จะมีผลต่อราคาหุ้นด้วย ภาษีอสังหาฯมีความชัดเจนมากขึ้น และ เม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค. ยังติดลบ และประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ย 1.5%
กลยุทธ์การลงทุน:
ด้วยภาพตลาดที่มองว่าจะเป็นลักษณะ sideway ในวันนี้ การเข้าลงทุนระหว่างวันจึงแนะนำให้เข้าซื้อในลักษณะ “selective buy” การเข้าเก็งกำไรระหว่างวัน เราเน้นหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และปัจจัยบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูง หรือเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว .... โดยหุ้นที่ติด most active และคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจได้แก่ AOT, CENTEL, MTLS
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์: AU*, TOA*
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
“รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้”
ทิศทางตลาดหุ้นไทย:
เรามองว่าตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway รอความชัดเจนของปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งต้องติดตามการประกาศตัวเลข CPI (เงินเฟ้อ) สหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันนี้เวลา 20.30 น. นักวิเคราะห์คาดอัตราเงินเฟ้อดือนม.ค.จะชะลอตัวสู่ระดับ 1.9% ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมาสูงกว่าคาดจะมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อตลาดได้ .... ปัจจัยภายนอกได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก, IEA คาดโอเปกจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย .... ส่วนปัจจัยในประเทศได้แก่ รายงานกำไรของหุ้นหลายตัว เช่น IRPC, SPRC จะมีผลต่อราคาหุ้นด้วย ภาษีอสังหาฯมีความชัดเจนมากขึ้น และ เม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค. ยังติดลบ และประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ย 1.5%
กลยุทธ์การลงทุน:
ด้วยภาพตลาดที่มองว่าจะเป็นลักษณะ sideway ในวันนี้ การเข้าลงทุนระหว่างวันจึงแนะนำให้เข้าซื้อในลักษณะ “selective buy” การเข้าเก็งกำไรระหว่างวัน เราเน้นหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และปัจจัยบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูง หรือเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว .... โดยหุ้นที่ติด most active และคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจได้แก่ AOT, CENTEL, MTLS
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์: AU*, TOA*
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) AOT:
AOT จะประกาศผลการดำเนินงานช่วง 1Q18 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2017) ในช่วงวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ การเติบโต YoY เป็นผลมาจากช่วงปี 2016 ประเทศไทยอยู่ในช่วงการไว้อาลัย และการเติบโต QoQ จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดย Bloomberg คาดกำไรสุทธิที่ 5,937 ล้านบาท (+15% YoY, +57% QoQ) .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 70.00 บาท
(+) CENTEL:
ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาได้ดี โดยมองว่านักลงทุนเริ่มมาเก็งกำไรจากคาดการณ์จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนนี้ อีกทั้งยังคาดว่าช่วง 4Q17 CENTEL จะรายงานกำไรสุทธิออกมาดี โดยเราคาดไว้ที่ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%YoY และ 31% QoQ .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.00 บาท
(+) AU*:
ปริมาณการซื้อขายของ AU เพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้ โดยเรามองว่า AU เป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากแผนการขยายสาขา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเปิดสาขาจำนวนอีก 10 สาขา จากปี 2017 ที่มีทั้งสิ้น 27 สาขา มีแผนหาตัวแทนแฟรนไชส์ในต่างประเทศ (เริ่มที่มาเลเซีย) .... ผลสำรวจคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017-2018 รวบรวมโดย Bloomberg ยังเติบโตสูงที่ +32% และ 31% ที่ 130 ล้านบาท และ 170 ล้านบาท ตามลำดับ
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) AOT:
AOT จะประกาศผลการดำเนินงานช่วง 1Q18 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2017) ในช่วงวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ การเติบโต YoY เป็นผลมาจากช่วงปี 2016 ประเทศไทยอยู่ในช่วงการไว้อาลัย และการเติบโต QoQ จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดย Bloomberg คาดกำไรสุทธิที่ 5,937 ล้านบาท (+15% YoY, +57% QoQ) .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 70.00 บาท
(+) CENTEL:
ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาได้ดี โดยมองว่านักลงทุนเริ่มมาเก็งกำไรจากคาดการณ์จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนนี้ อีกทั้งยังคาดว่าช่วง 4Q17 CENTEL จะรายงานกำไรสุทธิออกมาดี โดยเราคาดไว้ที่ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%YoY และ 31% QoQ .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.00 บาท
(+) AU*:
ปริมาณการซื้อขายของ AU เพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้ โดยเรามองว่า AU เป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากแผนการขยายสาขา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเปิดสาขาจำนวนอีก 10 สาขา จากปี 2017 ที่มีทั้งสิ้น 27 สาขา มีแผนหาตัวแทนแฟรนไชส์ในต่างประเทศ (เริ่มที่มาเลเซีย) .... ผลสำรวจคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017-2018 รวบรวมโดย Bloomberg ยังเติบโตสูงที่ +32% และ 31% ที่ 130 ล้านบาท และ 170 ล้านบาท ตามลำดับ
(+) AOT:
AOT จะประกาศผลการดำเนินงานช่วง 1Q18 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2017) ในช่วงวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ การเติบโต YoY เป็นผลมาจากช่วงปี 2016 ประเทศไทยอยู่ในช่วงการไว้อาลัย และการเติบโต QoQ จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดย Bloomberg คาดกำไรสุทธิที่ 5,937 ล้านบาท (+15% YoY, +57% QoQ) .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 70.00 บาท
(+) CENTEL:
ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาได้ดี โดยมองว่านักลงทุนเริ่มมาเก็งกำไรจากคาดการณ์จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนนี้ อีกทั้งยังคาดว่าช่วง 4Q17 CENTEL จะรายงานกำไรสุทธิออกมาดี โดยเราคาดไว้ที่ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%YoY และ 31% QoQ .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.00 บาท
(+) AU*:
ปริมาณการซื้อขายของ AU เพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้ โดยเรามองว่า AU เป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากแผนการขยายสาขา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเปิดสาขาจำนวนอีก 10 สาขา จากปี 2017 ที่มีทั้งสิ้น 27 สาขา มีแผนหาตัวแทนแฟรนไชส์ในต่างประเทศ (เริ่มที่มาเลเซีย) .... ผลสำรวจคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017-2018 รวบรวมโดย Bloomberg ยังเติบโตสูงที่ +32% และ 31% ที่ 130 ล้านบาท และ 170 ล้านบาท ตามลำดับ
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) AOT:
AOT จะประกาศผลการดำเนินงานช่วง 1Q18 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2017) ในช่วงวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ การเติบโต YoY เป็นผลมาจากช่วงปี 2016 ประเทศไทยอยู่ในช่วงการไว้อาลัย และการเติบโต QoQ จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดย Bloomberg คาดกำไรสุทธิที่ 5,937 ล้านบาท (+15% YoY, +57% QoQ) .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 70.00 บาท
(+) CENTEL:
ราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาได้ดี โดยมองว่านักลงทุนเริ่มมาเก็งกำไรจากคาดการณ์จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนนี้ อีกทั้งยังคาดว่าช่วง 4Q17 CENTEL จะรายงานกำไรสุทธิออกมาดี โดยเราคาดไว้ที่ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%YoY และ 31% QoQ .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.00 บาท
(+) AU*:
ปริมาณการซื้อขายของ AU เพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้ โดยเรามองว่า AU เป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากแผนการขยายสาขา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเปิดสาขาจำนวนอีก 10 สาขา จากปี 2017 ที่มีทั้งสิ้น 27 สาขา มีแผนหาตัวแทนแฟรนไชส์ในต่างประเทศ (เริ่มที่มาเลเซีย) .... ผลสำรวจคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017-2018 รวบรวมโดย Bloomberg ยังเติบโตสูงที่ +32% และ 31% ที่ 130 ล้านบาท และ 170 ล้านบาท ตามลำดับ
หุ้นมีประเด็น
(+) MEDIA
บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่า อุตสาหกรรมโฆษณาของไทยยังหดตัวติดลบอยู่ที่ประมาณลบ 8.51%YoY มีเม็ดเงินประมาณ 7,429 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวจะอยู่ในกลุ่ม โรงหนัง, ทีวีดิจิตอล, อินเตอร์เนท และสื่อกลางแจ้ง
ความเห็น: เรามองว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณา คือ BEC, MONO, WORK, RS, MAJOR, PLANB, VGI และ MACO โดยถึงแม้เม็ดเงินโฆษณารวมยังคงติดลบที่ 8.51% YoY จาก Advertisers ส่วนใหญ่ยังไม่เริ่มซื้อสื่อในช่วงเดือนม.ค. แต่เรามองว่าเม็ดเงินโฆษณารวมจะกลับมาฟื้นตัวในเดือนก.พ.เป็นต้นไป
(+) MEDIA
บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่า อุตสาหกรรมโฆษณาของไทยยังหดตัวติดลบอยู่ที่ประมาณลบ 8.51%YoY มีเม็ดเงินประมาณ 7,429 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวจะอยู่ในกลุ่ม โรงหนัง, ทีวีดิจิตอล, อินเตอร์เนท และสื่อกลางแจ้ง
ความเห็น: เรามองว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณา คือ BEC, MONO, WORK, RS, MAJOR, PLANB, VGI และ MACO โดยถึงแม้เม็ดเงินโฆษณารวมยังคงติดลบที่ 8.51% YoY จาก Advertisers ส่วนใหญ่ยังไม่เริ่มซื้อสื่อในช่วงเดือนม.ค. แต่เรามองว่าเม็ดเงินโฆษณารวมจะกลับมาฟื้นตัวในเดือนก.พ.เป็นต้นไป
(+) JMART
ธปท. เผยหนังสือเวียนที่ออกล่าสุดไม่ได้แตะเรื่อง "ไอซีโอ" ชี้ต้องรอข้อสรุปจาก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(กระทรวงการคลัง, ธปท., ก.ล.ต. และ ปปง.) ยืนยันซื้อขายเงินดิจิทัลเปิดบัญชีแบงก์ได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ตัวตน ด้านสมาคมแบงก์ ลั่นพร้อมให้ความร่วมมือ เผยอาจครอบคลุมไปถึงบริษัทลูก ย้ำที่ผ่านมาไม่มีธุรกรรมเหล่านี้เลย ขณะ ก.ล.ต. เตรียมสรุปเกณฑ์ไอซีโอในเดือนนี้ โดยประกาศของ ธปท. นี้ห้ามเฉพาะเงินดิจิทัลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ออกได้ แต่ถ้าเป็นเงินดิจิทัลในรูปโทเคน มีผู้ออกชัดเจน หรือมีสินทรัพย์หนุนนั้นสามารถออกจำหน่ายได้ (ที่มา: นสพ. กรุงเทพธุรกิจ, 14.02.2018)
ความเห็น: เรามองว่าข้อประกาศของ ธปท. ไม่ได้บังคับถึงการออกเงินดิจิทัลในรูปแบบโทเคน ที่สามารถระบุผู้ออก และสินทรัพย์ที่รองรับได้ โดย JFin Coin ที่จะเปิดพรีเซลตั้งแต่วันที่ 14-28 ก.พ. นี้ เราคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ เนื่องจากเราสามารถระบุผู้ออกเป็น J Ventures และมีระบบการให้บริการสินเชื่อแบบ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) รองรับ ซึ่งเราคาดว่าการออกจำหน่าย ICO ตั้งแต่วันนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นจากความชัดเจนนี้ ส่งผลบริษัทในกลุ่ม JMART จะสามารถขยายสินเชื่อ และธุรกิจในปี 2018 ตามเป้าหมายเดิมที่กำไรสุทธิขยายตัว 30% เรายังชอบ JMART จากความร่วมมือในกลุ่มธุรกิจตามคอนเซป Synergy III อย่างไรก็ตามเรากำลังอยู่ระหว่างการปรับประมาณการจากราคาเป้าหมายเดิมที่ 23.00 บาท
ธปท. เผยหนังสือเวียนที่ออกล่าสุดไม่ได้แตะเรื่อง "ไอซีโอ" ชี้ต้องรอข้อสรุปจาก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(กระทรวงการคลัง, ธปท., ก.ล.ต. และ ปปง.) ยืนยันซื้อขายเงินดิจิทัลเปิดบัญชีแบงก์ได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ตัวตน ด้านสมาคมแบงก์ ลั่นพร้อมให้ความร่วมมือ เผยอาจครอบคลุมไปถึงบริษัทลูก ย้ำที่ผ่านมาไม่มีธุรกรรมเหล่านี้เลย ขณะ ก.ล.ต. เตรียมสรุปเกณฑ์ไอซีโอในเดือนนี้ โดยประกาศของ ธปท. นี้ห้ามเฉพาะเงินดิจิทัลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ออกได้ แต่ถ้าเป็นเงินดิจิทัลในรูปโทเคน มีผู้ออกชัดเจน หรือมีสินทรัพย์หนุนนั้นสามารถออกจำหน่ายได้ (ที่มา: นสพ. กรุงเทพธุรกิจ, 14.02.2018)
ความเห็น: เรามองว่าข้อประกาศของ ธปท. ไม่ได้บังคับถึงการออกเงินดิจิทัลในรูปแบบโทเคน ที่สามารถระบุผู้ออก และสินทรัพย์ที่รองรับได้ โดย JFin Coin ที่จะเปิดพรีเซลตั้งแต่วันที่ 14-28 ก.พ. นี้ เราคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ เนื่องจากเราสามารถระบุผู้ออกเป็น J Ventures และมีระบบการให้บริการสินเชื่อแบบ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) รองรับ ซึ่งเราคาดว่าการออกจำหน่าย ICO ตั้งแต่วันนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นจากความชัดเจนนี้ ส่งผลบริษัทในกลุ่ม JMART จะสามารถขยายสินเชื่อ และธุรกิจในปี 2018 ตามเป้าหมายเดิมที่กำไรสุทธิขยายตัว 30% เรายังชอบ JMART จากความร่วมมือในกลุ่มธุรกิจตามคอนเซป Synergy III อย่างไรก็ตามเรากำลังอยู่ระหว่างการปรับประมาณการจากราคาเป้าหมายเดิมที่ 23.00 บาท
(0) KCE
รายงานกำไรสุทธิใน 4Q17 ที่ 597 ล้านบาท ลดลง 13% YoY และ 2% QoQ ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ซึ่งรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 63 ล้านบาท หากไม่รวมจะได้กำไรจากการดำเนินงานหลักที่ 535 บาท ลดลง 19% YoY และ 6% QoQ โดยการลดลงของกำไรมาจาก 1) รายได้ที่ลดลง จากผลกระทบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ที่แข็งค่าขึ้นมาก ซึ่ง USDTHB เฉลี่ยใน 4Q17 อยู่ที่ 32.93 บาทต่อดอลลาร์ ลดลง 7% YoY และ 1% QoQ อย่างไรก็ตามด้วย volume ขายที่เพิ่มขึ้น จึงช่วยลดผลกระทบจากเรื่องค่าเงินได้บ้าง ทำให้รายได้ใน 4Q17 อยู่ที่ 3,393 ล้านบาท เติบโต 7% YoY แต่ลดลง 6% QoQ 2) ต้นทุนวัตถุดิบทองแดงสูงขึ้น โดยราคาทองแดงเฉลี่ยใน 4Q17 อยู่ที่ 6,830 USD/ton เพิ่มขึ้น 129% YoY และ 7% QoQ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 28% รวมกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 อยู่ที่ 2,545 ล้านบาท ลดลง 16% YoY (ซึ่งรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 203 ล้านบาท หากไม่รวมจะได้กำไรจากการดำเนินงานหลักที่ 2,341 ล้านบาท ลดลง 20% YoY) ปัจจุบันเราแนะนำ ขาย ที่ราคาเป้าหมาย 85.50 บาท อย่างไรก็ตามเราอยู่ระหว่างการปรับประมาณการใหม่หลังงาน analyst meeting ในวันนี้
รายงานกำไรสุทธิใน 4Q17 ที่ 597 ล้านบาท ลดลง 13% YoY และ 2% QoQ ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ซึ่งรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 63 ล้านบาท หากไม่รวมจะได้กำไรจากการดำเนินงานหลักที่ 535 บาท ลดลง 19% YoY และ 6% QoQ โดยการลดลงของกำไรมาจาก 1) รายได้ที่ลดลง จากผลกระทบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ที่แข็งค่าขึ้นมาก ซึ่ง USDTHB เฉลี่ยใน 4Q17 อยู่ที่ 32.93 บาทต่อดอลลาร์ ลดลง 7% YoY และ 1% QoQ อย่างไรก็ตามด้วย volume ขายที่เพิ่มขึ้น จึงช่วยลดผลกระทบจากเรื่องค่าเงินได้บ้าง ทำให้รายได้ใน 4Q17 อยู่ที่ 3,393 ล้านบาท เติบโต 7% YoY แต่ลดลง 6% QoQ 2) ต้นทุนวัตถุดิบทองแดงสูงขึ้น โดยราคาทองแดงเฉลี่ยใน 4Q17 อยู่ที่ 6,830 USD/ton เพิ่มขึ้น 129% YoY และ 7% QoQ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 28% รวมกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 อยู่ที่ 2,545 ล้านบาท ลดลง 16% YoY (ซึ่งรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 203 ล้านบาท หากไม่รวมจะได้กำไรจากการดำเนินงานหลักที่ 2,341 ล้านบาท ลดลง 20% YoY) ปัจจุบันเราแนะนำ ขาย ที่ราคาเป้าหมาย 85.50 บาท อย่างไรก็ตามเราอยู่ระหว่างการปรับประมาณการใหม่หลังงาน analyst meeting ในวันนี้
(+) SUN (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท)
เราชอบที่ SUN นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในด้านการเกษตร ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับ 4Q17 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256% YoY และ 15.7% QoQ จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังจากการปรับปรุงเครื่องจักร,Net profit margin ที่ขยายตัวและยอดขายต่างประเทศที่เติบโตโดดเด่น ในปี 2018 เราเชื่อมั่นว่า SUN จะสามารถ Deliver earnings growth +22%YoY ได้ตามที่เราคาดอยู่ที่ 183 ลบ. จาก 1) กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2) รายได้จากตลาดต่างประเทศที่ยังคงเติบโตสูง 3) แผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 ผลิตภัณฑ์ต่อปี เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 7.20 บาท (อิง PER ที่ 17.1x)
เราชอบที่ SUN นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในด้านการเกษตร ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับ 4Q17 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256% YoY และ 15.7% QoQ จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังจากการปรับปรุงเครื่องจักร,Net profit margin ที่ขยายตัวและยอดขายต่างประเทศที่เติบโตโดดเด่น ในปี 2018 เราเชื่อมั่นว่า SUN จะสามารถ Deliver earnings growth +22%YoY ได้ตามที่เราคาดอยู่ที่ 183 ลบ. จาก 1) กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2) รายได้จากตลาดต่างประเทศที่ยังคงเติบโตสูง 3) แผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 ผลิตภัณฑ์ต่อปี เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 7.20 บาท (อิง PER ที่ 17.1x)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (13 ก.พ.) – ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,800.03 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.58 จุด หรือ +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 53,849.73 ล้านบาท มองว่านักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งต้องติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนวันนี้ ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นขายสุทธิที่ 2,494 ล้านบาท
ปัจจัยต่างประเทศ
(-) ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก – หลังนักลงทุนเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่น
(-) IEA คาดโอเปกจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย - สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐ จะทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในไม่ช้า อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันตอบรับกับข่าวดังกล่าวไม่มาก โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 59.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
(+/-) ติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนวันนี้ - กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนี CPI ประจำเดือนม.ค.จะชะลอตัวสู่ระดับ 1.9% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งหากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าคาด จะสร้างความไม่แน่นอนต่อตลาด
ปัจจัยในประเทศ
(+) ภาษีอสังหาฯมีความชัดเจน – นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ... ขณะนี้มีความชัดเจนในหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราเพดานการจัดเก็บภาษีลง 40% การลดโทษทางกฎหมายอาญา เป็นต้น (โพสต์ทูเดย์, 14/02/2018)
(-) เม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค. ยังติดลบ – บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ยังลบ 8.51% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หรือมีเม็ดเงินประมาณ 7,429 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีเม็ดเงินประมาณ 8,120 ล้านบาท (โพสต์ทูเดย์, 14/02/2018)
Analyst
Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (13 ก.พ.) – ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,800.03 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.58 จุด หรือ +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 53,849.73 ล้านบาท มองว่านักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งต้องติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนวันนี้ ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นขายสุทธิที่ 2,494 ล้านบาท
ปัจจัยต่างประเทศ
(-) ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก – หลังนักลงทุนเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่น
(-) IEA คาดโอเปกจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย - สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐ จะทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในไม่ช้า อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันตอบรับกับข่าวดังกล่าวไม่มาก โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 59.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
(+/-) ติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนวันนี้ - กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนี CPI ประจำเดือนม.ค.จะชะลอตัวสู่ระดับ 1.9% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งหากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าคาด จะสร้างความไม่แน่นอนต่อตลาด
ปัจจัยในประเทศ
(+) ภาษีอสังหาฯมีความชัดเจน – นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ... ขณะนี้มีความชัดเจนในหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราเพดานการจัดเก็บภาษีลง 40% การลดโทษทางกฎหมายอาญา เป็นต้น (โพสต์ทูเดย์, 14/02/2018)
(-) เม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค. ยังติดลบ – บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ยังลบ 8.51% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หรือมีเม็ดเงินประมาณ 7,429 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีเม็ดเงินประมาณ 8,120 ล้านบาท (โพสต์ทูเดย์, 14/02/2018)
Analyst
Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]