- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 February 2018 15:39
- Hits: 318
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในกรอบแคบตลอดทั้งวันและปิดทรงตัวซึ่งถือว่า Underperform ตลาดหุ้นภูมิภาค โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ สถาบันในประเทศยังเป็นฝ่ายซื้อสุทธิถึง 4,180 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีก 2,472 ลบ. (และพลิกมา Net Long ใน Index Futures 9,578 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯซึ่งจะประกาศคืนวันนี้ ซึ่งหากออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดเชื่อว่าจะสร้างแรงกดดันแก่ตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง เพราะจะทำให้ Bond Yield ยืนในระดับสูงต่อเนื่องจากความกังวลที่ FED อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เราจึงมองว่าหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและคาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่งยังดูน่าสนใจและเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในระยะนี้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$644ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$747ล้าน และไทย US$78ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$241ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดชะลอการซื้อขายก่อนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้ หากสูงกว่าคาดตลาดน่าจะกลับมากังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CENTEL <<
คาดกำไรปกติ 4Q17 ที่ 491 ลบ. +33.2% Q-Q, +18% Y-Y จาก High Season ของการท่องเที่ยว และธุรกิจอาหารที่ฟื้นตัวตามกำลังซื้อ ส่งผลให้คาดกำไรปกติปี 2017 +10.7% Y-Y
แนวโน้มปี 2018 คาดโตสดใสต่อเนื่อง +16.2% Y-Y จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นขาขึ้น และแรงหนุนจากการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงธุรกิจอาหารที่ฟื้นเต็มที่
แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 54 บาท โดยตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น CENTEL ลง 12% แย่กว่ากลุ่มท่องเที่ยวที่ลง 6% ทั้งที่งบ 4Q17 จะออกมาดี จึงน่าจะกลับมา Outperform ในสัปดาห์นี้ที่เรามองว่ากลุ่มท่องเที่ยวจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่ากลุ่มอื่น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) รอดูอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ งวด ม.ค. 18 ตลาดคาด Core Inflation ทรงตัวกับงวดก่อนที่ 1.8% หากเร่งตัวเข้าใกล้ 2% ที่เป็นเป้านโยบายการเงินระยะยาวของเฟด อาจหนุน Bond Yield ขึ้นและกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา Core Inflation เคยทะลุ 2% มาแล้วในปี 2016-17 แต่เฟดก็ไม่ได้รีบขึ้นดอกเบี้ย เพราะเฟ้อแค่ชั่วคราว แต่ครั้งนี้ตลาดมองว่าจะเฟ้อนาน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ
(0) คาดกนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ในการประชุมครั้งแรกของปี แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นแต่ยังไม่กระจายตัวในทุกส่วน ขณะที่เงินเฟ้อของไทยยังต่ำ และเชื่อว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยในระดับนี้ต่อไปอย่างน้อยในครึ่งปีแรก ส่วนการปรับขึ้นของ Bond yield สหรัฐที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นบ้างในระยะนี้ เป็นผลดีที่ช่วยลดการแข็งค่าของเงินบาทและช่วยกลุ่มส่งออกได้บ้าง
(+) IRPC รายงานกำไรสุทธิ 4.5 พันลบ.ใน 4Q17 +39% Q-Q, +166% Y-Y ดีกว่าเราและตลาดคาดเพราะมีกำไรจากการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนในอดีต 562 ลบ. หากตัดรายการดังกล่าวออก เป็นกำไรปกติ 3.95 พันลบ. ตามคาดและเป็นกำไรที่ดีที่สุดของปี ทั้งนี้ IRPC ประกาศจ่ายปันผล 0.29 บ./หุ้น (Yield 3.9%) แนวโน้มปีนี้สดใส คาดโตสูงสุดในกลุ่มจากกำลังการผลิตส่วนขยายและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท
(-) KCE กำไรสุทธิ 4Q17 ต่ำสุดในรอบ 10 ไตรมาสที่ 598 ลบ. (-2.3% Q-Q, -13.3% Y-Y) หากไม่รวมกำไร fx จะมีกำไรปกติที่ 535 ลบ. (-5.6% Q-Q, -19.1% Y-Y) ถูกกดดันจากทั้ง Low Season, ต้นทุนทองแดงขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y และบาทแข็ง กำไรสุทธิทั้งปี 2017 -16.2% Y-Y ถ้าไม่รวม fx -20.2% Y-Y บ่ายวันนี้จะมีประชุมนักวิเคราะห์ เรามีแนวโน้มปรับกำไรและราคาเป้าหมายปี 2018 ลง (เดิมทำไว้ 84 บาท) แนะนำเพียงถือ
(+) PT คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 73 ลบ. +57% Q-Q, +8% Y-Y (ประกาศงบ 16 ก.พ.) จากการเร่งรับมอบงานของลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงิน และด้วยกำไรทั้งปี 2017 ที่คาดจบด้วยการทำสถิติสูงสุดใหม่ 170 ลบ. +4% Y-Y ทำให้เราคาดว่าปันผลงวด 2H17 จะจ่ายสูงถึง 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 3% ขณะที่ แนวโน้มปีนี้คาดกำไร +10% Y-Y จากงานวางระบบไอทีให้แบงก์และอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากบาทแข็ง คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
(0) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 4Q17 วันนี้ PLANB, AOT
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ก.พ. - ไทย: ประชุม กนง.
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อและยอดค้าปลีก (ม.ค. 18)
- ญี่ปุ่น: 4Q17 GDP
- ยูโรโซน: 4Q17 GDP
15-21 ก.พ.- ตรุษจีน: จีนหยุด 15-21 ก.พ., ฮ่องกงและไต้หวันหยุดถึง 19 ก.พ., เกาหลีหยุดถึง 16 ก.พ., สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ และอินโดนีเซียหยุดเฉพาะ 16 ก.พ.
16 ก.พ.- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ม.ค. 18)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มธนาคารและจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยนักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขเงินเฟ้อที่กำลังจะประกาศในคืนนี้
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศอังกฤษที่ปรับตัวสูงขึ้น เพิ่มความกังวลในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของBOE
( )ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสาน โดยตลาดฟิวเจอร์ฮ่องกงและตลาดเกาหลีใต้ปรับขึ้น 0.5-1% ในขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวลงเล็กน้อย
(-) ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากประธานเฟดคนใหม่ยืนยันว่าจะขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ล่าสุดเคลื่อนไหวอยูที่ 31.4-31.5 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 59.19 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ของกลุ่ม OPEC หลังสหรัฐได้เพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,330.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในกรอบแคบตลอดทั้งวันและปิดทรงตัวซึ่งถือว่า Underperform ตลาดหุ้นภูมิภาค โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ สถาบันในประเทศยังเป็นฝ่ายซื้อสุทธิถึง 4,180 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีก 2,472 ลบ. (และพลิกมา Net Long ใน Index Futures 9,578 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯซึ่งจะประกาศคืนวันนี้ ซึ่งหากออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดเชื่อว่าจะสร้างแรงกดดันแก่ตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง เพราะจะทำให้ Bond Yield ยืนในระดับสูงต่อเนื่องจากความกังวลที่ FED อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เราจึงมองว่าหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและคาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่งยังดูน่าสนใจและเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในระยะนี้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$644ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$747ล้าน และไทย US$78ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$241ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดชะลอการซื้อขายก่อนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้ หากสูงกว่าคาดตลาดน่าจะกลับมากังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CENTEL <<
คาดกำไรปกติ 4Q17 ที่ 491 ลบ. +33.2% Q-Q, +18% Y-Y จาก High Season ของการท่องเที่ยว และธุรกิจอาหารที่ฟื้นตัวตามกำลังซื้อ ส่งผลให้คาดกำไรปกติปี 2017 +10.7% Y-Y
แนวโน้มปี 2018 คาดโตสดใสต่อเนื่อง +16.2% Y-Y จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นขาขึ้น และแรงหนุนจากการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงธุรกิจอาหารที่ฟื้นเต็มที่
แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 54 บาท โดยตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น CENTEL ลง 12% แย่กว่ากลุ่มท่องเที่ยวที่ลง 6% ทั้งที่งบ 4Q17 จะออกมาดี จึงน่าจะกลับมา Outperform ในสัปดาห์นี้ที่เรามองว่ากลุ่มท่องเที่ยวจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่ากลุ่มอื่น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) รอดูอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ งวด ม.ค. 18 ตลาดคาด Core Inflation ทรงตัวกับงวดก่อนที่ 1.8% หากเร่งตัวเข้าใกล้ 2% ที่เป็นเป้านโยบายการเงินระยะยาวของเฟด อาจหนุน Bond Yield ขึ้นและกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา Core Inflation เคยทะลุ 2% มาแล้วในปี 2016-17 แต่เฟดก็ไม่ได้รีบขึ้นดอกเบี้ย เพราะเฟ้อแค่ชั่วคราว แต่ครั้งนี้ตลาดมองว่าจะเฟ้อนาน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ
(0) คาดกนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ในการประชุมครั้งแรกของปี แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นแต่ยังไม่กระจายตัวในทุกส่วน ขณะที่เงินเฟ้อของไทยยังต่ำ และเชื่อว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยในระดับนี้ต่อไปอย่างน้อยในครึ่งปีแรก ส่วนการปรับขึ้นของ Bond yield สหรัฐที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นบ้างในระยะนี้ เป็นผลดีที่ช่วยลดการแข็งค่าของเงินบาทและช่วยกลุ่มส่งออกได้บ้าง
(+) IRPC รายงานกำไรสุทธิ 4.5 พันลบ.ใน 4Q17 +39% Q-Q, +166% Y-Y ดีกว่าเราและตลาดคาดเพราะมีกำไรจากการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนในอดีต 562 ลบ. หากตัดรายการดังกล่าวออก เป็นกำไรปกติ 3.95 พันลบ. ตามคาดและเป็นกำไรที่ดีที่สุดของปี ทั้งนี้ IRPC ประกาศจ่ายปันผล 0.29 บ./หุ้น (Yield 3.9%) แนวโน้มปีนี้สดใส คาดโตสูงสุดในกลุ่มจากกำลังการผลิตส่วนขยายและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท
(-) KCE กำไรสุทธิ 4Q17 ต่ำสุดในรอบ 10 ไตรมาสที่ 598 ลบ. (-2.3% Q-Q, -13.3% Y-Y) หากไม่รวมกำไร fx จะมีกำไรปกติที่ 535 ลบ. (-5.6% Q-Q, -19.1% Y-Y) ถูกกดดันจากทั้ง Low Season, ต้นทุนทองแดงขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y และบาทแข็ง กำไรสุทธิทั้งปี 2017 -16.2% Y-Y ถ้าไม่รวม fx -20.2% Y-Y บ่ายวันนี้จะมีประชุมนักวิเคราะห์ เรามีแนวโน้มปรับกำไรและราคาเป้าหมายปี 2018 ลง (เดิมทำไว้ 84 บาท) แนะนำเพียงถือ
(+) PT คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 73 ลบ. +57% Q-Q, +8% Y-Y (ประกาศงบ 16 ก.พ.) จากการเร่งรับมอบงานของลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงิน และด้วยกำไรทั้งปี 2017 ที่คาดจบด้วยการทำสถิติสูงสุดใหม่ 170 ลบ. +4% Y-Y ทำให้เราคาดว่าปันผลงวด 2H17 จะจ่ายสูงถึง 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 3% ขณะที่ แนวโน้มปีนี้คาดกำไร +10% Y-Y จากงานวางระบบไอทีให้แบงก์และอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากบาทแข็ง คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
(0) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 4Q17 วันนี้ PLANB, AOT
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ก.พ. - ไทย: ประชุม กนง.
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อและยอดค้าปลีก (ม.ค. 18)
- ญี่ปุ่น: 4Q17 GDP
- ยูโรโซน: 4Q17 GDP
15-21 ก.พ.- ตรุษจีน: จีนหยุด 15-21 ก.พ., ฮ่องกงและไต้หวันหยุดถึง 19 ก.พ., เกาหลีหยุดถึง 16 ก.พ., สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ และอินโดนีเซียหยุดเฉพาะ 16 ก.พ.
16 ก.พ.- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ม.ค. 18)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มธนาคารและจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยนักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขเงินเฟ้อที่กำลังจะประกาศในคืนนี้
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศอังกฤษที่ปรับตัวสูงขึ้น เพิ่มความกังวลในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของBOE
( )ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสาน โดยตลาดฟิวเจอร์ฮ่องกงและตลาดเกาหลีใต้ปรับขึ้น 0.5-1% ในขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวลงเล็กน้อย
(-) ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากประธานเฟดคนใหม่ยืนยันว่าจะขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ล่าสุดเคลื่อนไหวอยูที่ 31.4-31.5 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 59.19 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ของกลุ่ม OPEC หลังสหรัฐได้เพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,330.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO5514
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO5514