- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 February 2018 17:12
- Hits: 1283
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว
Smart Pick
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.35 บาท
ราคาเหมาะสม 8.25 บาท
คาดกลุ่มสื่อสารจะตอบรับเชิงบวกวันนี้ ล่าสุดรองนายกฯ สนับสนุนใช้มาตรา 44 เพื่อช่วยผู้ชนะประมูลคลื่น 900MHz แบ่งจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดที่ 4 จำนวน 60,000 ลบ. เป็น 3-5 งวด
ปัจจัยบวกระยะสั้น คาดงบ 4Q60 จะทำกำไรสูงถึง 5.4 พันล้านบาท ด้วยกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF ราว 6 พันล้านบาท
เก็งกำไร IRPC
ราคาปิด 7.40 บาท
ราคาเหมาะสม 8.40 บาท
รายงานงบ 4Q60 วันนี้ คาดกำไรสุทธิเติบโต +128% YoY และ +19% QoQ เป็น 3.8 พันล้านบาท จากแรงหนุนกำไรจากสต็อกน้ำมัน และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ทรงตัวในระดับสูง
นอกจากนี้คาดการณ์เงินปันผลงวดปี 2560 เท่ากับ 0.23 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.1%
สะสม LPN
ราคาปิด 11.60 บาท
ราคาเหมาะสม 16.00 บาท
รายงานงบ 4Q60 วันพรุ่งนี้ คาดกำไรปกติ 4Q60 ที่ 342 ล้านบาท +21% YoY และ +69% QoQ ทำระดับสูงสุดของปี 2560 และคาดเงินปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.6%
คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 โดยคาดว่ากำไรจะเติบโตสูงถึง +59% YoY เป็น 1,761 ล้านบาท และมี Backlog รองรับแล้ว 56% เป็นรองแค่ ORI เท่านั้น
เก็งกำไร LPH
ราคาปิด 7.40 บาท
ราคาเหมาะสม 10.00 บาท
ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ กำไรปกติ 4Q60 คาดเติบโต +25% YoY เป็น 40 ล้านบาท และอาจมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินอีกราว 60 ล้านบาท (ก่อนภาษี) ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเติบโต YoY สูงกว่าเท่าตัว
Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ EV/EBITDA เพียง 15.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ ที่ 22 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอราว 3% ต่อปี
S-T Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
แม้ว่า DJIA จะฟื้นตัวได้เป็นวันที่ 2 แต่ปัจจัยสำคัญที่สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังไม่เห็นสัญญาณบวก ทั้ง VIX Index ที่สูงถึง 25 จุด ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีคืนวานนี้แตะระดับ 2.9% ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.84% อีกทั้งเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยหนาแน่นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เรามองว่า SET INDEX จะฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ด่าน 1,810 จุด +/- เป็นบริเวณที่นักลงทุนควรพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นออกมาก่อน
สำหรับการปรับดัชนี MSCI รอบไตรมาสไม่พบการเข้า - ออกของดัชนี MSCI Thailand Index ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นกลางสำหรับวันนี้ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ หากออกมาในอัตราเร่ง อาจกลายเป็นปัจจัยลบกดดันจิตวิทยาการลงทุนในช่วงสั้นๆ ได้อีกครั้งต่อโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
ดังนั้นกลยุทธ์โดยรวม เราแนะนำ "ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ" ประเมินกรอบแกว่ง 1,780-1,810 จุดต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยการนักลงทุนสามารถ "เข้าเก็งกำไร" หุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 4Q60 เด่น เช่น BJC/ CPALL / IRPC/ LPN/ LPH/ MINT/ MILL / THE/ TRUE เป็นต้น รวมถึงกลุ่ม ICT ที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวอย่าง ADVANC / TRUE
HOT Topic
1. MSCI ประกาศทบทวนดัชนรอบไตรมาสเช้าวันนี้ ไม่มีหุ้นไทยเข้า/ออก
2. กลุ่มสื่อสารช่วยหนุนตลาด หลังรัฐฯ มีแนวโน้มใช้มาตรา 44 เพื่อช่วยผู้ประกอบการให้แบ่งจ่ายค่าธรรมเนียมงวดสุดท้ายของคลื่น 900MHz
3. แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแรง แต่ Bond Yield 10 ปียังสูงกว่า 2.8% ปัจจัยที่ต้องติดตามคือตัวเลขเงินเฟ้อในวันพุธ
4. กลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงนี้ เราชอบหุ้นตัวไหน?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปิดที่ 1799.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 7 ราว 5.1 พันล้านบาท รวม 7 วันขายสุทธิสะสมราว 2.9 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 วันราว 4.4 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิสะสมราว 6.3 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อีกราว 4.2 พันสัญญา รวม 6 วัน Short สุทธิทั้งหมด 5.9 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 3.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 2.9 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล.มีสถานะ Long สุทธิราว 2.7 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 12 วันราว 1.4 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คสช.เตรียมออกมาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการยืดระยะเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัล-คลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมหารือกับนักกฎหมายในประเด็นจำกัดการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมว่าเป็นผลดีกับเศรษฐกิจสหรัฐฯหรือไม่
MSCI ปรับดัชนีรอบ ก.พ.2561 ไม่มีหุ้นไทยเข้าหรือออกในรอบนี้
ติดตามการรายงาน GDP 4Q60 ของญี่ปุ่นและ EU วันที่ 14 ก.พ.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ม.ค. วันที่ 14 ก.พ.
ติดตามการประชุม กนง. วันที่ 14 ก.พ.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO5450
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.35 บาท
ราคาเหมาะสม 8.25 บาท
คาดกลุ่มสื่อสารจะตอบรับเชิงบวกวันนี้ ล่าสุดรองนายกฯ สนับสนุนใช้มาตรา 44 เพื่อช่วยผู้ชนะประมูลคลื่น 900MHz แบ่งจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดที่ 4 จำนวน 60,000 ลบ. เป็น 3-5 งวด
ปัจจัยบวกระยะสั้น คาดงบ 4Q60 จะทำกำไรสูงถึง 5.4 พันล้านบาท ด้วยกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF ราว 6 พันล้านบาท
เก็งกำไร IRPC
ราคาปิด 7.40 บาท
ราคาเหมาะสม 8.40 บาท
รายงานงบ 4Q60 วันนี้ คาดกำไรสุทธิเติบโต +128% YoY และ +19% QoQ เป็น 3.8 พันล้านบาท จากแรงหนุนกำไรจากสต็อกน้ำมัน และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ทรงตัวในระดับสูง
นอกจากนี้คาดการณ์เงินปันผลงวดปี 2560 เท่ากับ 0.23 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.1%
สะสม LPN
ราคาปิด 11.60 บาท
ราคาเหมาะสม 16.00 บาท
รายงานงบ 4Q60 วันพรุ่งนี้ คาดกำไรปกติ 4Q60 ที่ 342 ล้านบาท +21% YoY และ +69% QoQ ทำระดับสูงสุดของปี 2560 และคาดเงินปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.6%
คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 โดยคาดว่ากำไรจะเติบโตสูงถึง +59% YoY เป็น 1,761 ล้านบาท และมี Backlog รองรับแล้ว 56% เป็นรองแค่ ORI เท่านั้น
เก็งกำไร LPH
ราคาปิด 7.40 บาท
ราคาเหมาะสม 10.00 บาท
ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ กำไรปกติ 4Q60 คาดเติบโต +25% YoY เป็น 40 ล้านบาท และอาจมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินอีกราว 60 ล้านบาท (ก่อนภาษี) ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเติบโต YoY สูงกว่าเท่าตัว
Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ EV/EBITDA เพียง 15.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ ที่ 22 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอราว 3% ต่อปี
S-T Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
แม้ว่า DJIA จะฟื้นตัวได้เป็นวันที่ 2 แต่ปัจจัยสำคัญที่สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังไม่เห็นสัญญาณบวก ทั้ง VIX Index ที่สูงถึง 25 จุด ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีคืนวานนี้แตะระดับ 2.9% ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.84% อีกทั้งเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยหนาแน่นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เรามองว่า SET INDEX จะฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ด่าน 1,810 จุด +/- เป็นบริเวณที่นักลงทุนควรพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นออกมาก่อน
สำหรับการปรับดัชนี MSCI รอบไตรมาสไม่พบการเข้า - ออกของดัชนี MSCI Thailand Index ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นกลางสำหรับวันนี้ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ หากออกมาในอัตราเร่ง อาจกลายเป็นปัจจัยลบกดดันจิตวิทยาการลงทุนในช่วงสั้นๆ ได้อีกครั้งต่อโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
ดังนั้นกลยุทธ์โดยรวม เราแนะนำ "ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ" ประเมินกรอบแกว่ง 1,780-1,810 จุดต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยการนักลงทุนสามารถ "เข้าเก็งกำไร" หุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 4Q60 เด่น เช่น BJC/ CPALL / IRPC/ LPN/ LPH/ MINT/ MILL / THE/ TRUE เป็นต้น รวมถึงกลุ่ม ICT ที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวอย่าง ADVANC / TRUE
HOT Topic
1. MSCI ประกาศทบทวนดัชนรอบไตรมาสเช้าวันนี้ ไม่มีหุ้นไทยเข้า/ออก
2. กลุ่มสื่อสารช่วยหนุนตลาด หลังรัฐฯ มีแนวโน้มใช้มาตรา 44 เพื่อช่วยผู้ประกอบการให้แบ่งจ่ายค่าธรรมเนียมงวดสุดท้ายของคลื่น 900MHz
3. แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแรง แต่ Bond Yield 10 ปียังสูงกว่า 2.8% ปัจจัยที่ต้องติดตามคือตัวเลขเงินเฟ้อในวันพุธ
4. กลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงนี้ เราชอบหุ้นตัวไหน?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปิดที่ 1799.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 7 ราว 5.1 พันล้านบาท รวม 7 วันขายสุทธิสะสมราว 2.9 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 วันราว 4.4 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิสะสมราว 6.3 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อีกราว 4.2 พันสัญญา รวม 6 วัน Short สุทธิทั้งหมด 5.9 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 3.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 2.9 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล.มีสถานะ Long สุทธิราว 2.7 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 12 วันราว 1.4 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คสช.เตรียมออกมาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการยืดระยะเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัล-คลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมหารือกับนักกฎหมายในประเด็นจำกัดการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมว่าเป็นผลดีกับเศรษฐกิจสหรัฐฯหรือไม่
MSCI ปรับดัชนีรอบ ก.พ.2561 ไม่มีหุ้นไทยเข้าหรือออกในรอบนี้
ติดตามการรายงาน GDP 4Q60 ของญี่ปุ่นและ EU วันที่ 14 ก.พ.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ม.ค. วันที่ 14 ก.พ.
ติดตามการประชุม กนง. วันที่ 14 ก.พ.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO5450
