- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 February 2018 16:15
- Hits: 942
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Investment Related Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1804/1813จุด รับ 1774/1767จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Rebound +2.33% หลังลงแรง2วันติด โดยนายมนูชิน รมว.คลังเผยการซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้าเป็นสาเหตุ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ผสานสหรัฐฯขาดดุลการค้า -5.3หมื่นล้านเหรียญ มากสุดรอบ 9 ปี กดดันให้ค่าเงินดอลล่าร์พลิกกลับมาอ่อนค่า หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้นตัว ส่วนปัจจัยในประเทศ มาตรการ EEC จะเข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ คาดเพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มอิงการลงทุนต่อเนื่อง ดังนั้น วันนี้เน้น Theme “Investment Related Play” : CK, STEC, GLOBAL
Nomura : Key Factors
(+) US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น +2.33% หลังปรับตัวลงแรงติดต่อกัน 2 วัน
(+) US: มนูชิน รมว.คลังเผย การซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า เป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯลงแรง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง
(+) US: สหรัฐฯขาดดุลต่อเนื่อง -5.3 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 9 ปี
(+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์พลิกกลับมาอ่อนค่า หนุนค่าเงินเอเชียและบาทแข็งค่าเด่น
(+) TH: ครม.เห็นชอบมาตรการพิเศษสำหรับส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรระดับท้องถิ่น
(+) TH: มาตรการ EEC จะเข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายวันพรุ่งนี้ คาดหนุนกลุ่มอิงการลงทุนต่อเนื่อง
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.18% สู่ $63.39/bbl / BRT -1.12% สู่ $66.86/bbl
(-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-2,198ลบ,Short Future-28,348สัญญา,ขายBond-3,341ลบ.
Nomura Daily Top Picks: CK, STEC, GLOBAL
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1804/1813จุด รับ 1774/1767จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น +2.33% หลังปรับตัวลงแรงติดต่อกัน 2 วัน โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวว่า การปรับตัวลงดังกล่าว เป็นผลมาจากการซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า ขณะที่ภาพเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง ผสานกับรายงานดุลการค้าของสหรัฐฯเดือนธค. ยังคงขาดดุลต่อเนื่องราว -5.3 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งปัจจัยดังกล่าว กดดันให้ค่าเงินดอลล่าร์ หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้น และค่าเงินเอเชียแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ เพิ่ม Sentiment บวกต่อตลาดเอเชียและไทยสามารถ Rebound ได้ นอกจากนี้ แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐฯ ล่าสุด ครม.เห็นชอบมาตรการพิเศษสำหรับส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรระดับท้องถิ่น ตามการเสนอของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อส่งเสริมและยกระดับสินค้าเกษตร คาดกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผสานมาตรการ EEC จะเข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายวันพรุ่งนี้ คาดหนุนกลุ่มอิงการลงทุนต่อเนื่อง
Asset allocation : ถือหุ้น 60% และเงินสด 22.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : วานนี้เราแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นขึ้นมา 5% สู่ 65% หลัง SET ปรับฐานในกรอบซื้อ 1770-1760จุด วันนี้ยังแนะนำเลี่ยงกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มน้ำมัน กลุ่มนิคมฯ และกลุ่มชินส่วนฯ และให้มาซื้อสะสมหุ้นในประเทศ อิงการลงทุนรอบใหม่รับ EEC เข้าที่ประชุมรอบสุดท้ายวันพรุ่งนี้ ผสานกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่ม SET 100 พื้นฐานดีที่ลงแรงกว่าตลาด วันนี้เน้น “Theme Investment Related Play”
EEC เข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายพรุ่งนี้ คาดหนุนหุ้นอิงวงจรการลงทุนรอบใหม่ กลุ่ม BANK เน้น KBANK, BBL, TMB และกลุ่มรับเหมาฯ คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่ราคาตอบรับล่วงหน้าแล้ว มากลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน CK, STEC, TASCO, TOA เด่น
Rebound Play : หุ้น SET100 ที่ลงแรงกว่าตลาดตั้งแต่ 24 มค ถึงปัจจุบัน(SET -2.7%) พื้นฐานดี แนะนำ กลุ่มที่ลดลง 10% คือ GLOBAL, MONO และกลุ่มที่ลดลง 8-6% ได้แก่ LH, IVL, ROBINS, HMPRO, SIRI, SPALI, TASCO, TVO, STEC, CK
ครม เตรียมนำรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 3 แสนลบ เข้าพิจารณา ผสานดร. สมคิด เตรียมเสนอแผนรถไฟเชื่อมต่อเมืองรอง 14 สายใหม่ วงเงิน 5แสนล้านบาท หนุน CK, STEC
Dividend Play : หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% Dividend Play ได้แก่ KKP(Interim Yield 4.83%), NYT(Interim Yield 4.6%), TISCO(Interim Yield 4.53%), BLAND(Interim Yield 4.57%), PM(Interim Yield 3.46%), SC(Interim Yield 3.41%), IRPC(Interim Yield 3.27%)
FEB 2018 Top picks : CK STEC TOA BH PM NYT
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CK (TP 40*): Support 25.0/24.7 Resistant 27.0/27.5
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไร 4Q17F เติบโต y-y ตามรายได้ก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากงานใหม่ในปี 2017 ที่เข้ามาหนุนและแนวโน้ม GPM ที่ดีขึ้น ต่อเนื่องในปี 2018F คาดกำไรสุทธิโตโดดเด่น +70.5%y-y สู่ระดับ 2.48 พันลบ.
Valuation: ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV18F 1.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 2.1 เท่า + upside สูงถึง 57% ขณะที่มีแนวโน้มเป็นผู้ ได้รับงานรัฐมากที่สุดในกลุ่ม + มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ
Catalyst: ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่าตลาดจาก วันที่ 24 ม.ค. (peak ที่ผ่านมา) โดย CK -5.56% vs SET -2.75% + เตรียมยื่นร่างพรบ. EEC เข้าพิจารณาวาระสุดท้ายต่อ สนช.ในวันพรุ่งนี้ หนุน sentiment วงจรการลงทุนรอบใหญ่
STEC (TP 33.5*): Support: 23.0/22.6 Resistant: 24.0/24.5
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
Valuation: ปัจจุบันซื้อขาย P/BV18F 2.87 เท่า มองเป็นจุดน่าซื้อสะสมรับการลงทุนรอบใหม่ แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ (2.1 เท่า) แต่ยังเหมาะสมจากการได้งานถึงปัจจุบัน (รวมงานรอลงนามฯ) เป็นไปตามคาดดีที่สุดในกลุ่ม, ความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
Catalyst: ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่าตลาดจาก วันที่ 24 ม.ค. (peak ที่ผ่านมา) โดย STEC -5.62% vs SET -2.75% + เตรียมยื่นร่างพรบ. EEC เข้าพิจารณาวาระสุดท้ายต่อ สนช.ในวันพรุ่งนี้ หนุน sentiment วงจรการลงทุนรอบใหญ่
GLOBAL (TP 17*): Support: 16.2/15.7 Resistant: 17.0/17.4
Theme: Consumer Spending Recovery
Earning Outlook: คาดแนวโน้มกำไร 2H17F ต่ำกว่า 1H17F จากผลของฤดูกาล คาดกำไร 17F โต +8%y-y และจะเร่งตัวขึ้นในปี 18F +17% y-y จากแนวโน้มการบริโภคในประเทศทยอยฟื้นตัว
Valuation : ซื้อขายที่ระดับ PER18F 29.6x คิดเป็น PEG 1.58x ใกล้เคียงกลุ่มฯที่ 1.5x
Catalyst : ปัจจุบัน GLOBAL -15%YTD Laggard กลุ่มฯ -2.6%YTD และมีแนวโน้มฟื้นตัวของผลกำไรในปี 18F จากแนวโน้มการบริโภคในประเทศทยอยฟื้นตัว
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO5329
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1804/1813จุด รับ 1774/1767จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Rebound +2.33% หลังลงแรง2วันติด โดยนายมนูชิน รมว.คลังเผยการซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้าเป็นสาเหตุ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ผสานสหรัฐฯขาดดุลการค้า -5.3หมื่นล้านเหรียญ มากสุดรอบ 9 ปี กดดันให้ค่าเงินดอลล่าร์พลิกกลับมาอ่อนค่า หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้นตัว ส่วนปัจจัยในประเทศ มาตรการ EEC จะเข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ คาดเพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มอิงการลงทุนต่อเนื่อง ดังนั้น วันนี้เน้น Theme “Investment Related Play” : CK, STEC, GLOBAL
Nomura : Key Factors
(+) US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น +2.33% หลังปรับตัวลงแรงติดต่อกัน 2 วัน
(+) US: มนูชิน รมว.คลังเผย การซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า เป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯลงแรง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง
(+) US: สหรัฐฯขาดดุลต่อเนื่อง -5.3 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 9 ปี
(+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์พลิกกลับมาอ่อนค่า หนุนค่าเงินเอเชียและบาทแข็งค่าเด่น
(+) TH: ครม.เห็นชอบมาตรการพิเศษสำหรับส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรระดับท้องถิ่น
(+) TH: มาตรการ EEC จะเข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายวันพรุ่งนี้ คาดหนุนกลุ่มอิงการลงทุนต่อเนื่อง
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.18% สู่ $63.39/bbl / BRT -1.12% สู่ $66.86/bbl
(-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-2,198ลบ,Short Future-28,348สัญญา,ขายBond-3,341ลบ.
Nomura Daily Top Picks: CK, STEC, GLOBAL
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1804/1813จุด รับ 1774/1767จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น +2.33% หลังปรับตัวลงแรงติดต่อกัน 2 วัน โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวว่า การปรับตัวลงดังกล่าว เป็นผลมาจากการซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า ขณะที่ภาพเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง ผสานกับรายงานดุลการค้าของสหรัฐฯเดือนธค. ยังคงขาดดุลต่อเนื่องราว -5.3 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งปัจจัยดังกล่าว กดดันให้ค่าเงินดอลล่าร์ หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้น และค่าเงินเอเชียแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ เพิ่ม Sentiment บวกต่อตลาดเอเชียและไทยสามารถ Rebound ได้ นอกจากนี้ แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐฯ ล่าสุด ครม.เห็นชอบมาตรการพิเศษสำหรับส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรระดับท้องถิ่น ตามการเสนอของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อส่งเสริมและยกระดับสินค้าเกษตร คาดกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผสานมาตรการ EEC จะเข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายวันพรุ่งนี้ คาดหนุนกลุ่มอิงการลงทุนต่อเนื่อง
Asset allocation : ถือหุ้น 60% และเงินสด 22.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : วานนี้เราแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นขึ้นมา 5% สู่ 65% หลัง SET ปรับฐานในกรอบซื้อ 1770-1760จุด วันนี้ยังแนะนำเลี่ยงกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มน้ำมัน กลุ่มนิคมฯ และกลุ่มชินส่วนฯ และให้มาซื้อสะสมหุ้นในประเทศ อิงการลงทุนรอบใหม่รับ EEC เข้าที่ประชุมรอบสุดท้ายวันพรุ่งนี้ ผสานกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่ม SET 100 พื้นฐานดีที่ลงแรงกว่าตลาด วันนี้เน้น “Theme Investment Related Play”
EEC เข้าบอร์ดขั้นสุดท้ายพรุ่งนี้ คาดหนุนหุ้นอิงวงจรการลงทุนรอบใหม่ กลุ่ม BANK เน้น KBANK, BBL, TMB และกลุ่มรับเหมาฯ คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่ราคาตอบรับล่วงหน้าแล้ว มากลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน CK, STEC, TASCO, TOA เด่น
Rebound Play : หุ้น SET100 ที่ลงแรงกว่าตลาดตั้งแต่ 24 มค ถึงปัจจุบัน(SET -2.7%) พื้นฐานดี แนะนำ กลุ่มที่ลดลง 10% คือ GLOBAL, MONO และกลุ่มที่ลดลง 8-6% ได้แก่ LH, IVL, ROBINS, HMPRO, SIRI, SPALI, TASCO, TVO, STEC, CK
ครม เตรียมนำรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 3 แสนลบ เข้าพิจารณา ผสานดร. สมคิด เตรียมเสนอแผนรถไฟเชื่อมต่อเมืองรอง 14 สายใหม่ วงเงิน 5แสนล้านบาท หนุน CK, STEC
Dividend Play : หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% Dividend Play ได้แก่ KKP(Interim Yield 4.83%), NYT(Interim Yield 4.6%), TISCO(Interim Yield 4.53%), BLAND(Interim Yield 4.57%), PM(Interim Yield 3.46%), SC(Interim Yield 3.41%), IRPC(Interim Yield 3.27%)
FEB 2018 Top picks : CK STEC TOA BH PM NYT
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CK (TP 40*): Support 25.0/24.7 Resistant 27.0/27.5
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไร 4Q17F เติบโต y-y ตามรายได้ก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากงานใหม่ในปี 2017 ที่เข้ามาหนุนและแนวโน้ม GPM ที่ดีขึ้น ต่อเนื่องในปี 2018F คาดกำไรสุทธิโตโดดเด่น +70.5%y-y สู่ระดับ 2.48 พันลบ.
Valuation: ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV18F 1.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 2.1 เท่า + upside สูงถึง 57% ขณะที่มีแนวโน้มเป็นผู้ ได้รับงานรัฐมากที่สุดในกลุ่ม + มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ
Catalyst: ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่าตลาดจาก วันที่ 24 ม.ค. (peak ที่ผ่านมา) โดย CK -5.56% vs SET -2.75% + เตรียมยื่นร่างพรบ. EEC เข้าพิจารณาวาระสุดท้ายต่อ สนช.ในวันพรุ่งนี้ หนุน sentiment วงจรการลงทุนรอบใหญ่
STEC (TP 33.5*): Support: 23.0/22.6 Resistant: 24.0/24.5
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
Valuation: ปัจจุบันซื้อขาย P/BV18F 2.87 เท่า มองเป็นจุดน่าซื้อสะสมรับการลงทุนรอบใหม่ แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ (2.1 เท่า) แต่ยังเหมาะสมจากการได้งานถึงปัจจุบัน (รวมงานรอลงนามฯ) เป็นไปตามคาดดีที่สุดในกลุ่ม, ความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
Catalyst: ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่าตลาดจาก วันที่ 24 ม.ค. (peak ที่ผ่านมา) โดย STEC -5.62% vs SET -2.75% + เตรียมยื่นร่างพรบ. EEC เข้าพิจารณาวาระสุดท้ายต่อ สนช.ในวันพรุ่งนี้ หนุน sentiment วงจรการลงทุนรอบใหญ่
GLOBAL (TP 17*): Support: 16.2/15.7 Resistant: 17.0/17.4
Theme: Consumer Spending Recovery
Earning Outlook: คาดแนวโน้มกำไร 2H17F ต่ำกว่า 1H17F จากผลของฤดูกาล คาดกำไร 17F โต +8%y-y และจะเร่งตัวขึ้นในปี 18F +17% y-y จากแนวโน้มการบริโภคในประเทศทยอยฟื้นตัว
Valuation : ซื้อขายที่ระดับ PER18F 29.6x คิดเป็น PEG 1.58x ใกล้เคียงกลุ่มฯที่ 1.5x
Catalyst : ปัจจุบัน GLOBAL -15%YTD Laggard กลุ่มฯ -2.6%YTD และมีแนวโน้มฟื้นตัวของผลกำไรในปี 18F จากแนวโน้มการบริโภคในประเทศทยอยฟื้นตัว
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO5329