- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 February 2018 16:10
- Hits: 378
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา ในช่วงเช้า SET ปรับตัวลงกว่า 50 จุดในช่วงเช้านำโดยแรงขายจากกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายเกิด Technical rebound บริเวณแนวรับ 1,760 ประกอบกับ DJ future พลิกกลับมาเป็นบวกส่งผลให้เกิดแรงซื้อกลับในหุ้นหลายตัว โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า และ พลังงานทดแทนอย่าง GPSC, BGRIM และ EA ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,788.4 จุด (-21.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 1.24 แสนล้านบาท (สูงที่สุดในรอบ 16 เดือน) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.6 หมื่นล้านบาท (มี Biglot PTTEP และ AMATA รวมประมาณ 1.0 พันล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,198 ล้านบาท และคงสถานะ Short SET50 index future อีกสูงกว่า 28,348 สัญญา
Investment theme
สำหรับนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงแนะซื้อไม้แรก 1,760 สำหรับความเสี่ยงต่ำ แนะรอวันที่ 8 ก.พ. : ใน 3 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น คาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก Liquidity driven ที่ถูก Switch จากพันธบัตรเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามภายหลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาดซึ่งส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกอาจพิจารณาปรับพอร์ตและสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่นลดสัดส่วนการถือหุ้น 5-10% , เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตร , ทองคำ โดยระหว่างการปรับพอร์ตนี้ เราไม่แนะนำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำเข้าลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากมองว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่ยังไม่แน่นอน และแนะนำนักลงทุนยอมซื้อเมื่อเริ่มเห็นสัญญาเช่น รอผลการประชุมสภาสหรัฐประเด็น Government shutdown, ติดตามการแถลงนโยบายคุณ Powell รอสัญญาเทคนิคกลับตัว และอื่นๆ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ต้นทุนแพงขึ้น แต่เรามองว่าคุ้มค่าความเสี่ยง โดยอีกหนึ่งสัญญาณที่แนะนักลงทุนจับตาคือ ระบบเทรด และ Margin (%) ของการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในระดับสูง อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ยากต่อการประเมินผลลัพธ์
Investment theme: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะทยอยซื้อหุ้นส่วนหนึ่งบริเวณ 1,760 (เป็นระดับ +1S.D. เฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี) โดยแนะทยอยสะสม PRM, MACO, BGRIM และ CK ในขณะที่นักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะรอดูความชัดเจนหลังวันที่ 8ก.พ.
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ปูตินลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย ในวันที่ 18 มี.ค. / VIX INDEX ปรับตัวลงจากระดับ 50 จุดลงมาเหลือ 29 จุด / Dow Jones ปรับตัวขึ้น 567 จุด / SIRI ยกเลิกซื้อโครงการจาก PACE /สหรัฐขาดดุลการค้าเดือนธ.ค. 5.3% สูงสุดตั้งแต่ปี 2551 (ทั้งปีขาดดุล 12.1% ) ที่ 5.66 แสนล้านดอลลาร์
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา ในช่วงเช้า SET ปรับตัวลงกว่า 50 จุดในช่วงเช้านำโดยแรงขายจากกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายเกิด Technical rebound บริเวณแนวรับ 1,760 ประกอบกับ DJ future พลิกกลับมาเป็นบวกส่งผลให้เกิดแรงซื้อกลับในหุ้นหลายตัว โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า และ พลังงานทดแทนอย่าง GPSC, BGRIM และ EA ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,788.4 จุด (-21.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 1.24 แสนล้านบาท (สูงที่สุดในรอบ 16 เดือน) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.6 หมื่นล้านบาท (มี Biglot PTTEP และ AMATA รวมประมาณ 1.0 พันล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,198 ล้านบาท และคงสถานะ Short SET50 index future อีกสูงกว่า 28,348 สัญญา
Investment theme
สำหรับนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงแนะซื้อไม้แรก 1,760 สำหรับความเสี่ยงต่ำ แนะรอวันที่ 8 ก.พ. : ใน 3 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น คาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก Liquidity driven ที่ถูก Switch จากพันธบัตรเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามภายหลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาดซึ่งส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกอาจพิจารณาปรับพอร์ตและสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่นลดสัดส่วนการถือหุ้น 5-10% , เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตร , ทองคำ โดยระหว่างการปรับพอร์ตนี้ เราไม่แนะนำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำเข้าลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากมองว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่ยังไม่แน่นอน และแนะนำนักลงทุนยอมซื้อเมื่อเริ่มเห็นสัญญาเช่น รอผลการประชุมสภาสหรัฐประเด็น Government shutdown, ติดตามการแถลงนโยบายคุณ Powell รอสัญญาเทคนิคกลับตัว และอื่นๆ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ต้นทุนแพงขึ้น แต่เรามองว่าคุ้มค่าความเสี่ยง โดยอีกหนึ่งสัญญาณที่แนะนักลงทุนจับตาคือ ระบบเทรด และ Margin (%) ของการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในระดับสูง อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ยากต่อการประเมินผลลัพธ์
Investment theme: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะทยอยซื้อหุ้นส่วนหนึ่งบริเวณ 1,760 (เป็นระดับ +1S.D. เฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี) โดยแนะทยอยสะสม PRM, MACO, BGRIM และ CK ในขณะที่นักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะรอดูความชัดเจนหลังวันที่ 8ก.พ.
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ปูตินลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย ในวันที่ 18 มี.ค. / VIX INDEX ปรับตัวลงจากระดับ 50 จุดลงมาเหลือ 29 จุด / Dow Jones ปรับตัวขึ้น 567 จุด / SIRI ยกเลิกซื้อโครงการจาก PACE /สหรัฐขาดดุลการค้าเดือนธ.ค. 5.3% สูงสุดตั้งแต่ปี 2551 (ทั้งปีขาดดุล 12.1% ) ที่ 5.66 แสนล้านดอลลาร์
Stock pick : BGRIM
BGRIM : ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 34.0 บาท/หุ้น
เราเลือก BGRIM เป็น Stock pick ของกลุ่มโรงไฟฟ้า และปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 34.0 บาท/หุ้น โดยคาดผลประกอบการเติบโตสูงกว่า 38% และ 25% ในปี 61/62 จากโครงการ SPP 3 แห่ง
มี Catalyst เชิงบวกจากการลงนามสัญญา PPA โรงไฟฟ้า SPP ต่ออายุ 3 โครงการ ตามแผนของ ERC ในช่วงกลางปี 2561 และแนวโน้ม Ft ปรับขึ้นในรอบเดือน พ.ค-ส.ค. 2561 ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น เราคาดทุก 1 สตางค์/ kWh ต่อปีที่ปรับขึ้นจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการ 10 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ในปีที่ 2560 มีการปรับขึ้น Ft สุทธิ 17.4 สตางค์ต่อ kWh หาก ค่า Ft ปี 2561 ปรับขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อน BGRIM จะได้ผลบวกประมาณ 170 ล้านบาท คิดเป็น Upside 6.5% ของประมาณการปี 2561
Technical View l
สร้างฐาน เด้งที่แนวรับสุดท้ายแบบ Hammer : ดัชนีเปิดโดดลงหลุดแนวรับ 1780 จากนั้นแกว่ง Sideway Down ลงสู่แนวรับถัดไปที่ 1760 ซึ่งถือเป็นแนวรับของกรอบ Uptrend ระยาว จากนั้นสร้างฐานที่แนวรับดังกล่าว แล้วดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย ทำให้เกิดเป็นแท่งเทียนกลับตัวที่แนวรับแบบ Hammer พร้อมกับ RSI ที่ปรับตัวลงสู่โซนแนวรับ จึงมองว่าระยะสั้นดัชจะเริ่มหยุดลงและแกว่งตัวออกข้างเพื่อสร้างฐาน ช่วง 1760-1800
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1780-1800 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ, ลงทุนระยะกลาง หากมีทุนบริเวณ 1760 แนะนำถือหุ้นต่อ หรือทยอยสะสมหุ้นเพิ่มตามแนวรับ2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1780-1800
แนวรับ : 1780, 1775 แนวต้าน : 1795, 1880
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 8 กพ. จับตาเส้นตายการขยายเพดานหนี้ US
BGRIM : ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 34.0 บาท/หุ้น
เราเลือก BGRIM เป็น Stock pick ของกลุ่มโรงไฟฟ้า และปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 34.0 บาท/หุ้น โดยคาดผลประกอบการเติบโตสูงกว่า 38% และ 25% ในปี 61/62 จากโครงการ SPP 3 แห่ง
มี Catalyst เชิงบวกจากการลงนามสัญญา PPA โรงไฟฟ้า SPP ต่ออายุ 3 โครงการ ตามแผนของ ERC ในช่วงกลางปี 2561 และแนวโน้ม Ft ปรับขึ้นในรอบเดือน พ.ค-ส.ค. 2561 ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น เราคาดทุก 1 สตางค์/ kWh ต่อปีที่ปรับขึ้นจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการ 10 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ในปีที่ 2560 มีการปรับขึ้น Ft สุทธิ 17.4 สตางค์ต่อ kWh หาก ค่า Ft ปี 2561 ปรับขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อน BGRIM จะได้ผลบวกประมาณ 170 ล้านบาท คิดเป็น Upside 6.5% ของประมาณการปี 2561
Technical View l
สร้างฐาน เด้งที่แนวรับสุดท้ายแบบ Hammer : ดัชนีเปิดโดดลงหลุดแนวรับ 1780 จากนั้นแกว่ง Sideway Down ลงสู่แนวรับถัดไปที่ 1760 ซึ่งถือเป็นแนวรับของกรอบ Uptrend ระยาว จากนั้นสร้างฐานที่แนวรับดังกล่าว แล้วดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย ทำให้เกิดเป็นแท่งเทียนกลับตัวที่แนวรับแบบ Hammer พร้อมกับ RSI ที่ปรับตัวลงสู่โซนแนวรับ จึงมองว่าระยะสั้นดัชจะเริ่มหยุดลงและแกว่งตัวออกข้างเพื่อสร้างฐาน ช่วง 1760-1800
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1780-1800 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ, ลงทุนระยะกลาง หากมีทุนบริเวณ 1760 แนะนำถือหุ้นต่อ หรือทยอยสะสมหุ้นเพิ่มตามแนวรับ2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1780-1800
แนวรับ : 1780, 1775 แนวต้าน : 1795, 1880
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 8 กพ. จับตาเส้นตายการขยายเพดานหนี้ US
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
PTT (B 480.00, Tp 494.00//500.00, Cut 476.00)
AOT (B 68.00, Tp 71.00, Cut 67.00)
หุ้นเทคนิค:
PTT (B 480.00, Tp 494.00//500.00, Cut 476.00)
AOT (B 68.00, Tp 71.00, Cut 67.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5322
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5322