- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 February 2018 16:08
- Hits: 562
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections: >> AOT, CENTEL, SIRI
Stock S R Comment
AOT 69.00 71.50 ตรุษจีน ปีนี้คึกคักซีทริปสำรวจยอดคนจีน มีเป้าหมายมาไทยเป็นอันดับ 2
CENTEL 48.00 50.50 ธุรกิจอาหารโต แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว
SIRI 2.08 2.18 Backlog หนุนยอดโอน JV หนุนกำไร
Buckle up! and look for opportunity
SET: ประเมินภาพ SET Index ปรับตัวลดลงในวันนี้ทดสอบระดับ 1770-1780 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ Imply จาก Performance ของ ETF หุ้นไทยเมื่อคืนนี้ โดยมีปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง ได้แก่
1) แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ภายหลังจากที่เมื่อคืนนี้ ETF หุ้นไทยปรับตัวลดลงถึง 2.7% ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ SET Index ปรับตัวลดลงเพียง 0.9% ไม่นับรวมการ Short สุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดล่วงหน้าเมื่อวานนี้กว่า 16,000 สัญญา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และเป็นการเปิดสถานะใหม่ส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ในช่วง 1 วันที่ผ่านมา เงินบาทถือเป็นสกุลเงินในเอเชียที่อ่อนค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ถือเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
2) แรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศ เนื่องจากต้นทุนดัชนีของนักลงทุนกลุ่มนี้นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 1812 จุด หาก SET Index ปรับตัวลดลงไปจากระดับนี้มาก คาดจะมี Active fund บางกองทุนที่ต้องขายหุ้นทิ้ง หลังจากถึงจุดกำหนด Stop loss
3) แรงขายจากธุรกรรม Block trade ที่ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนบางกลุ่มใช้เป็นเครื่องมือในการสะสม Long position ในหุ้นบางบริษัท เมื่อนักลงทุนมีการ Take profit และ Unwind position จะทำให้บล.ต้องมีการปิดสถานะโดยการขายหุ้นทิ้งในกระดานหลักด้วยเช่นกัน
4) แรงขาย Momentum selling จากกองทุนประเภท Robot trading ซึ่งมักมี Style เป็นแบบ Momentum trade หากราคาหุ้นบางตัวมีการปรับตัวลงแรง อาจเกิดการ Trigger sell ในกลุ่มกองทุนดังกล่าวได้
Wait for counter: ล่าสุดดัชนี VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนความผันผวนของตลาดปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป ถือเป็นการสะท้อนความกังวลของตลาดที่อยู่ในระดับสูงมากไปแล้วทั้งๆที่ในช่วงนี้ไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจใดๆ มองการปรับฐานปัจจุบันเป็นการปรับฐานในตลาด Bull market ซึ่งหากเกิด Panic sell ขึ้นจนทำให้ SET Index ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง มองเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาวที่ถือเงินสดมากกว่าระดับปกติมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา
Where to counter: มองแนวรับสำคัญสำหรับการเข้าซื้ออยู่ 2 ระดับ ดังนี้
1) แนวรับแรกที่ระดับ 1750-1760 จุด โดยระดับ 1750 จุดคือต้นทุนดัชนีของนักลงทุนสถาบันในประเทศหากนับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อหุ้นอย่างหนัก
2) แนวรับที่สองที่ระดับ 1700 จุด โดยระดับ 1700 จุดคือระดับที่น่าสนใจในแง่ของ Valuation เนื่องจากเป็นระดับที่ซื้อขายด้วย Forward PE ปี 2019 ที่ 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เราเคยกล่าวไว้ว่าค่อนข้างมีเสถียรภาพในเชิงของ Valuation
Where to hide: มองกลุ่มหุ้นที่เหมาะจะเป็นหลุมหลบภัยในระยะสั้นได้แก่ 2 กลุ่มเดิม กล่าวคือกลุ่มหุ้นปันผลสูง ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่มี Downside จำกัดกว่าตลาด ได้แก่
1) กลุ่มที่อยู่อาศัย (AP, LH, QH, SIRI)
2) กลุ่มหลักทรัพย์และ Hire Purchase (ASP, KKP, TCAP, TISCO, ASK)
3) กลุ่มโรงกลั่น (BCP, IRPC, SPRC, TOP)
และกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ที่มีโมเมนตัมของการปรับประมาณการกำไรเชิงบวกมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของราคา และเป็นหุ้นที่มีค่า Beta ต่ำกว่า 1 ได้แก่ TICON, PSL, DEMCO, EKH, TSR, HARN, GGC (นับเฉพาะหุ้นที่มีการ Upgrade EPS ขึ้นมากกว่า 10%)
ส่วนในวันนี้เราเพิ่มหุ้นแนะนำในกลุ่มส่งออกและมีระดับเงินปันผลสูง ที่น่าจะได้ Sentiment เชิงบวกจากเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าด้วยเช่นกัน ได้แก่ HANA, SMPC, VNG
แนวรับ 1,790 แนวต้าน 1,824
บทวิเคราะห์วันนี้
ADVANC (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 189 บาท) ผลดำเนินงาน Q4 ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่จำนวนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัว ยังขอรอดูหมัดเด็ดในปี 2018
Today's Event
IRC XD 0.8476 บาท
METCO XD 8.00 บาท
Stock S R Comment
AOT 69.00 71.50 ตรุษจีน ปีนี้คึกคักซีทริปสำรวจยอดคนจีน มีเป้าหมายมาไทยเป็นอันดับ 2
CENTEL 48.00 50.50 ธุรกิจอาหารโต แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว
SIRI 2.08 2.18 Backlog หนุนยอดโอน JV หนุนกำไร
Buckle up! and look for opportunity
SET: ประเมินภาพ SET Index ปรับตัวลดลงในวันนี้ทดสอบระดับ 1770-1780 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ Imply จาก Performance ของ ETF หุ้นไทยเมื่อคืนนี้ โดยมีปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง ได้แก่
1) แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ภายหลังจากที่เมื่อคืนนี้ ETF หุ้นไทยปรับตัวลดลงถึง 2.7% ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ SET Index ปรับตัวลดลงเพียง 0.9% ไม่นับรวมการ Short สุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดล่วงหน้าเมื่อวานนี้กว่า 16,000 สัญญา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และเป็นการเปิดสถานะใหม่ส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ในช่วง 1 วันที่ผ่านมา เงินบาทถือเป็นสกุลเงินในเอเชียที่อ่อนค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ถือเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
2) แรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศ เนื่องจากต้นทุนดัชนีของนักลงทุนกลุ่มนี้นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 1812 จุด หาก SET Index ปรับตัวลดลงไปจากระดับนี้มาก คาดจะมี Active fund บางกองทุนที่ต้องขายหุ้นทิ้ง หลังจากถึงจุดกำหนด Stop loss
3) แรงขายจากธุรกรรม Block trade ที่ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนบางกลุ่มใช้เป็นเครื่องมือในการสะสม Long position ในหุ้นบางบริษัท เมื่อนักลงทุนมีการ Take profit และ Unwind position จะทำให้บล.ต้องมีการปิดสถานะโดยการขายหุ้นทิ้งในกระดานหลักด้วยเช่นกัน
4) แรงขาย Momentum selling จากกองทุนประเภท Robot trading ซึ่งมักมี Style เป็นแบบ Momentum trade หากราคาหุ้นบางตัวมีการปรับตัวลงแรง อาจเกิดการ Trigger sell ในกลุ่มกองทุนดังกล่าวได้
Wait for counter: ล่าสุดดัชนี VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนความผันผวนของตลาดปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป ถือเป็นการสะท้อนความกังวลของตลาดที่อยู่ในระดับสูงมากไปแล้วทั้งๆที่ในช่วงนี้ไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจใดๆ มองการปรับฐานปัจจุบันเป็นการปรับฐานในตลาด Bull market ซึ่งหากเกิด Panic sell ขึ้นจนทำให้ SET Index ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง มองเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาวที่ถือเงินสดมากกว่าระดับปกติมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา
Where to counter: มองแนวรับสำคัญสำหรับการเข้าซื้ออยู่ 2 ระดับ ดังนี้
1) แนวรับแรกที่ระดับ 1750-1760 จุด โดยระดับ 1750 จุดคือต้นทุนดัชนีของนักลงทุนสถาบันในประเทศหากนับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อหุ้นอย่างหนัก
2) แนวรับที่สองที่ระดับ 1700 จุด โดยระดับ 1700 จุดคือระดับที่น่าสนใจในแง่ของ Valuation เนื่องจากเป็นระดับที่ซื้อขายด้วย Forward PE ปี 2019 ที่ 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เราเคยกล่าวไว้ว่าค่อนข้างมีเสถียรภาพในเชิงของ Valuation
Where to hide: มองกลุ่มหุ้นที่เหมาะจะเป็นหลุมหลบภัยในระยะสั้นได้แก่ 2 กลุ่มเดิม กล่าวคือกลุ่มหุ้นปันผลสูง ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่มี Downside จำกัดกว่าตลาด ได้แก่
1) กลุ่มที่อยู่อาศัย (AP, LH, QH, SIRI)
2) กลุ่มหลักทรัพย์และ Hire Purchase (ASP, KKP, TCAP, TISCO, ASK)
3) กลุ่มโรงกลั่น (BCP, IRPC, SPRC, TOP)
และกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ที่มีโมเมนตัมของการปรับประมาณการกำไรเชิงบวกมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของราคา และเป็นหุ้นที่มีค่า Beta ต่ำกว่า 1 ได้แก่ TICON, PSL, DEMCO, EKH, TSR, HARN, GGC (นับเฉพาะหุ้นที่มีการ Upgrade EPS ขึ้นมากกว่า 10%)
ส่วนในวันนี้เราเพิ่มหุ้นแนะนำในกลุ่มส่งออกและมีระดับเงินปันผลสูง ที่น่าจะได้ Sentiment เชิงบวกจากเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าด้วยเช่นกัน ได้แก่ HANA, SMPC, VNG
แนวรับ 1,790 แนวต้าน 1,824
บทวิเคราะห์วันนี้
ADVANC (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 189 บาท) ผลดำเนินงาน Q4 ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่จำนวนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัว ยังขอรอดูหมัดเด็ดในปี 2018
Today's Event
IRC XD 0.8476 บาท
METCO XD 8.00 บาท