- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 February 2018 16:04
- Hits: 374
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ลงต่อ แต่เป็นวันที่ดีในการทยอยสะสมหุ้น
KGI คาด SET วันอังคารลงต่อ รับแรงกดดันจากหุ้นโลกที่ยังร่วงแรง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงหนักเมื่อคืนนี้ (ดาวโจนส์ลงเกือบ 1,200 จุด) โดยแรงขายตกใจ (panic sell) ยังคงเกิดจากความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เร็วกว่าที่ consensus คาด ผนวกกับภาวะกลัวเสี่ยง (risk off) ไปกดดันราคาน้ำมันให้ปรับลงด้วยอีกทางหนึ่ง ส่งผลลบต่อหุ้นพลังงานที่ขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี KGI ยังคงมุมมองว่าสาเหตุต่างๆ ข้างต้น เป็นเพียงเหตุผลที่ตลาดหยิบยกมาอธิบายการขายทำกำไรหุ้นโลกที่ขึ้นมาแรงนับจากปลายปี 2560 ...และเราพบว่าเครื่องชี้ต่างๆ ในตลาดการเงินสหรัฐฯ เริ่มดูดีขึ้น 1. บอนด์ยิลด์ 10 ปีกลับมาลงแล้ว เมื่อคืนลงถึง 10.3bps สู่ระดับ 2.734% และ 2. สัญญา CME เฟดฟันด์ฟิวเจอร์เมื่อคืนนี้ คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้เพียง 2 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI และ consensus คาดการณ์ด้วยซ้ำไป ดังนั้นเราคงมุมมองว่าการปรับฐานรอบนี้เป็น bull-market correction หรือการปรับลงในตลาดขาขึ้น เราคงอิงกับพีอีแบนด์โมเดลว่า ความเสี่ยงทางลงของ SET อยู่ที่ 1,770 จุด (PE เฉลี่ยระยะยาว – 0.50SD) เป็นระดับที่น่าสนใจในการสะสมหุ้น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SGP*, SIMAT
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) เราประเมิน i) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 โตเด่น QoQ และ YoY จากปริมาณขายที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในจีน + ราคาแก๊ซ LPG ปรับตัวขึ้น ii) รับอานิสงส์นโยบายสิ่งแวดล้อมของจีน ลดใช้พลังงานถ่านหิน (ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม) ทำให้ดีมานด์แก๊ซเพิ่มขึ้น 2) ประเมิน Valuation ถูกด้วย Trailing PE ที่ต่ำเพียง 10.4 เท่า และหากผลการดำเนินงาน 4Q60 โต QoQ และ YoY ตามที่เราคาด ประเมินมีโอกาสที่ Trailing PE จะลดลงไปอีก ... จากข้อมูลในอดีต PE เฉลี่ยอยู่ที่ 10.6 เท่า และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 4.5 เท่า (ข้อมูลรายสัปดาห์ตั้งแต่ปี 2554 – ปัจจุบัน โดยข้ามปี 2556 และ 2558 ที่ผลการดำเนินงานต่ำผิดปกติ ทำให้ PE สูงผิดปกติออกไป) 3) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ Uptrend แนวรับ – แนวต้าน 30 – 33 บาท (Stop loss 29 บาท) และกรณีผ่านแนวต้าน 33 บาทได้ เราประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 36 บาท
SIMAT (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินรูปแบบราคา Breakout แนวต้าน 3.48 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” (Trailing stop 3.40 บาท) 2) เราประเมินปีนี้ผลการดำเนินงานจะ Turnaround ต่อเนื่องจากปี 2560 จาก i) ธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบรนด์ ไม่ถ่วงผลการดำเนินงานธุรกิจอื่นๆ โดยคาดปีนี้จะมีจำนวนสมาชิกถึงจุดคุ้มทุน และอยู่ระหว่างขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าองก์กร (ห้าง, คอนโดฯ, โรงแรม ฯลฯ) ii) ธุรกิจอื่นๆ อาทิ Label, Software Logistic ทำกำไรอยู่แล้ว
หุ้นในกระแส
ตลาดพักฐาน คาด SET index แนวรับ 1,760 จุด โอกาสซื้อหุ้นเด่นของแต่ละกลุ่มรอบใหม่ เราประเมิน Sentiment ลบจากต่างประเทศ (พื้นฐาน และ Valuation หุ้นไทยไม่เปลี่ยนแปลง) จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเด่นรอบใหม่ ที่เราแนะนำขายล๊อกกำไรไปก่อนหน้าแล้ว โดยประเมินแนวรับ SET index 1,760 จุด (กรณีที่ผิดทาง ตลาดฯพักฐานแรงกว่าคาด แนะนำ "Wait&see" รอการสร้างฐานก่อน)
I. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ดอกเบี้ยขาขึ้น) เลือก BBL* แนวรับ 202 บาท และ 200 บาท
II. กลุ่มค้าปลีก (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. สูงสุดรอบ 36 เดือน) เลือก CPALL* แนวรับ 78.5 บาท และ 76 บาท, COM7* แนวรับ 16 บาท และ 15.8 บาท
III. กลุ่มสื่อ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q60) เลือก MONO* แนวรับ 4.3 บาท และ 4.0 บาท
IV. กลุ่มนิคมฯ (รับอานิสงส์โครงการ EEC) เลือก AMATA* แนวรับ 24.5 บาท และ 23.3 บาท
V. กลุ่มท่องเที่ยว (รับอานิสงส์การท่องเที่ยว) เลือก AOT* แนวรับ 69 บาท และ 66 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว ห้างยักษ์พบสัญญาณดีกว่าปีก่อน ดัชนีเชื่อมั่นขยับทุกรายการสูงสุดรอบ 36 เดือน (โพสต์ทูเดย์) ห้างสะท้อนภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคปีนี้เริ่มฟื้นตัว ดีขึ้น ผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดเผยว่า ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในปีนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากยอดการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเดือน ม.ค. ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเชื่อว่าภาพรวมกำลังซื้อปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
(+) เชื่อมั่นม.ค.สูงสุดรอบ 36 เดือน ห่วงบาทแข็ง-ขึ้นค่าแรงกระทบ SME จี้รัฐเร่งแก้ (ไทยโพสต์) ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สูงสุดในรอบ 36 เดือน เหตุเศรษฐกิจไทยปี 60 โตถึง 4% ส่งออกพุ่งเกือบ 10% สินค้าเกษตรเริ่มปรับตัวดีขึ้น เผยยังมั่นใจปี 61 GDP ยังโตต่อเนื่อง แนะจับตาเงินบาทแข็ง ขึ้นค่าแรง ที่ทำรายได้หด ค่าครองชีพพุ่ง แนะรัฐต้องเร่งเข้าไปแก้ไข
(+) SPPT มั่นใจปี 61 เทิร์นอะราวด์ (ข่าวหุ้น) ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ของบริษัท คาดว่าจะสามารถสร้างผลกำไรสุทธิได้สูงสุดในรอบหลายปี
(+) SUPER* ยันจีนหนุนกว่า2หมื่นล.สร้างโรงไฟฟ้าเวียดนามให้ IRR15-18% (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บิ๊กบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ" ระบุไม่มีปัญหาเรื่องเงินลงทุนสำหรับใช้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามขนาดกำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ ที่สำคัญ ไม่ต้องรบกวนเงินในกระเป๋าผู้ถือหุ้น เหตุพันธมิตรรับเหมาก่อสร้างจากจีนมาพร้อมกับการซัปพอร์ตด้านเงินทุนสำหรับก่อสร้าง 100% จนสามารถ COD ได้ คาดใช้เงินลงทุนก่อสร้างทั้งหมดราว 20,700 ล้านบาท เฟสแรกเปิดฉากกลางปี 61 ประเมินอัตราผลตอบแทนจาการลงทุนสูงถึง 15-18%
(+) SCC* ขายบอนด์วงเงิน 3 หมื่นล้าน (โพสต์ทูเดย์) SCC* จ่อขายหุ้นกู้ 3 หมื่นล้าน ด้าน SGP ขาย 2,000 ล้าน ทริสแจกเครดิต BBB บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท วงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท อายุ 3 ปี 11 เดือน 30 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2565
(0) 'GIC’ ขายบิ๊กล็อต LH* ฟันกำไรทะลัก 9 พันล. เหตุขาย 10.90 บาท ต้นทุนต่ำแค่ 1.40 บาท (ข่าวหุ้น) “GIC” กลุ่มทุนสิงคโปร์ ขายบิ๊กล็อตหุ้น LH* จำนวน 980 ล้านหุ้น ในราคาต่ำกว่ากระดานที่หุ้นละ 10.90 บาท ฟันกำไรเข้ากระเป๋าทะลักกว่า 9 พันล้านบาท เหตุต้นทุนถือ 19 ปี ต่ำแค่หุ้นละ 1.40 บาท ฟากราคาหุ้นดิ่งร่วงหนักกว่า 5%
(+) PTT* ลั่นระฆังตัดสินไตรมาส 2 นี้ ผู้ชนะประมูลงานสร้างท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 5 เฟส 2 (ข่าวหุ้น) “ปตท.” คาดคัดเลือกผู้ชนะประมูลงานสร้างท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 5 เฟส 2 ภายในไตรมาส 2/61 หลังมีผู้เข้าร่วมประมูล 4-6 ราย พร้อมชี้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติปีนี้พุ่ง 4,900 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ขณะที่ TRC ผนึกชิโนเปคร่วมชิงเค้ก
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SF (เป้า Consensus 9 บาท) แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนด Trailing stop 9.0 บาท / หากต่ำกว่า 9 บาท แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" รอซื้อคืนแนวรับถัดไปที่ 8.7 - 8.5 บาท
COM7* (เป้า Consensus 20.22 บาท) ประเมินแนวรับ 16 บาท และ 15.8 บาท แนะ "ซื้อแนวรับ"
GPI (เป้า Consensus 4.2 บาท) แนะนำ "Let profit run" กำหนด Trailing stop 3.2 บาท / หากต่ำกว่า 3.2 บาท แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" รอซื้อคืนแนวรับถัดไปที่ 3.1 - 3.0 บาท
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 6.95 บาท / หากต่ำกว่า 6.95 บาท แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" รอซื้อคืนแนวรับถัดไปที่ 6.5 - 6.4 บาท
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ลงต่อ แต่เป็นวันที่ดีในการทยอยสะสมหุ้น
KGI คาด SET วันอังคารลงต่อ รับแรงกดดันจากหุ้นโลกที่ยังร่วงแรง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงหนักเมื่อคืนนี้ (ดาวโจนส์ลงเกือบ 1,200 จุด) โดยแรงขายตกใจ (panic sell) ยังคงเกิดจากความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เร็วกว่าที่ consensus คาด ผนวกกับภาวะกลัวเสี่ยง (risk off) ไปกดดันราคาน้ำมันให้ปรับลงด้วยอีกทางหนึ่ง ส่งผลลบต่อหุ้นพลังงานที่ขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี KGI ยังคงมุมมองว่าสาเหตุต่างๆ ข้างต้น เป็นเพียงเหตุผลที่ตลาดหยิบยกมาอธิบายการขายทำกำไรหุ้นโลกที่ขึ้นมาแรงนับจากปลายปี 2560 ...และเราพบว่าเครื่องชี้ต่างๆ ในตลาดการเงินสหรัฐฯ เริ่มดูดีขึ้น 1. บอนด์ยิลด์ 10 ปีกลับมาลงแล้ว เมื่อคืนลงถึง 10.3bps สู่ระดับ 2.734% และ 2. สัญญา CME เฟดฟันด์ฟิวเจอร์เมื่อคืนนี้ คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้เพียง 2 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI และ consensus คาดการณ์ด้วยซ้ำไป ดังนั้นเราคงมุมมองว่าการปรับฐานรอบนี้เป็น bull-market correction หรือการปรับลงในตลาดขาขึ้น เราคงอิงกับพีอีแบนด์โมเดลว่า ความเสี่ยงทางลงของ SET อยู่ที่ 1,770 จุด (PE เฉลี่ยระยะยาว – 0.50SD) เป็นระดับที่น่าสนใจในการสะสมหุ้น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SGP*, SIMAT
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) เราประเมิน i) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 โตเด่น QoQ และ YoY จากปริมาณขายที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในจีน + ราคาแก๊ซ LPG ปรับตัวขึ้น ii) รับอานิสงส์นโยบายสิ่งแวดล้อมของจีน ลดใช้พลังงานถ่านหิน (ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม) ทำให้ดีมานด์แก๊ซเพิ่มขึ้น 2) ประเมิน Valuation ถูกด้วย Trailing PE ที่ต่ำเพียง 10.4 เท่า และหากผลการดำเนินงาน 4Q60 โต QoQ และ YoY ตามที่เราคาด ประเมินมีโอกาสที่ Trailing PE จะลดลงไปอีก ... จากข้อมูลในอดีต PE เฉลี่ยอยู่ที่ 10.6 เท่า และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 4.5 เท่า (ข้อมูลรายสัปดาห์ตั้งแต่ปี 2554 – ปัจจุบัน โดยข้ามปี 2556 และ 2558 ที่ผลการดำเนินงานต่ำผิดปกติ ทำให้ PE สูงผิดปกติออกไป) 3) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ Uptrend แนวรับ – แนวต้าน 30 – 33 บาท (Stop loss 29 บาท) และกรณีผ่านแนวต้าน 33 บาทได้ เราประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 36 บาท
SIMAT (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินรูปแบบราคา Breakout แนวต้าน 3.48 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” (Trailing stop 3.40 บาท) 2) เราประเมินปีนี้ผลการดำเนินงานจะ Turnaround ต่อเนื่องจากปี 2560 จาก i) ธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบรนด์ ไม่ถ่วงผลการดำเนินงานธุรกิจอื่นๆ โดยคาดปีนี้จะมีจำนวนสมาชิกถึงจุดคุ้มทุน และอยู่ระหว่างขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าองก์กร (ห้าง, คอนโดฯ, โรงแรม ฯลฯ) ii) ธุรกิจอื่นๆ อาทิ Label, Software Logistic ทำกำไรอยู่แล้ว
หุ้นในกระแส
ตลาดพักฐาน คาด SET index แนวรับ 1,760 จุด โอกาสซื้อหุ้นเด่นของแต่ละกลุ่มรอบใหม่ เราประเมิน Sentiment ลบจากต่างประเทศ (พื้นฐาน และ Valuation หุ้นไทยไม่เปลี่ยนแปลง) จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเด่นรอบใหม่ ที่เราแนะนำขายล๊อกกำไรไปก่อนหน้าแล้ว โดยประเมินแนวรับ SET index 1,760 จุด (กรณีที่ผิดทาง ตลาดฯพักฐานแรงกว่าคาด แนะนำ "Wait&see" รอการสร้างฐานก่อน)
I. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ดอกเบี้ยขาขึ้น) เลือก BBL* แนวรับ 202 บาท และ 200 บาท
II. กลุ่มค้าปลีก (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. สูงสุดรอบ 36 เดือน) เลือก CPALL* แนวรับ 78.5 บาท และ 76 บาท, COM7* แนวรับ 16 บาท และ 15.8 บาท
III. กลุ่มสื่อ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q60) เลือก MONO* แนวรับ 4.3 บาท และ 4.0 บาท
IV. กลุ่มนิคมฯ (รับอานิสงส์โครงการ EEC) เลือก AMATA* แนวรับ 24.5 บาท และ 23.3 บาท
V. กลุ่มท่องเที่ยว (รับอานิสงส์การท่องเที่ยว) เลือก AOT* แนวรับ 69 บาท และ 66 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว ห้างยักษ์พบสัญญาณดีกว่าปีก่อน ดัชนีเชื่อมั่นขยับทุกรายการสูงสุดรอบ 36 เดือน (โพสต์ทูเดย์) ห้างสะท้อนภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคปีนี้เริ่มฟื้นตัว ดีขึ้น ผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดเผยว่า ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในปีนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากยอดการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเดือน ม.ค. ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเชื่อว่าภาพรวมกำลังซื้อปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
(+) เชื่อมั่นม.ค.สูงสุดรอบ 36 เดือน ห่วงบาทแข็ง-ขึ้นค่าแรงกระทบ SME จี้รัฐเร่งแก้ (ไทยโพสต์) ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สูงสุดในรอบ 36 เดือน เหตุเศรษฐกิจไทยปี 60 โตถึง 4% ส่งออกพุ่งเกือบ 10% สินค้าเกษตรเริ่มปรับตัวดีขึ้น เผยยังมั่นใจปี 61 GDP ยังโตต่อเนื่อง แนะจับตาเงินบาทแข็ง ขึ้นค่าแรง ที่ทำรายได้หด ค่าครองชีพพุ่ง แนะรัฐต้องเร่งเข้าไปแก้ไข
(+) SPPT มั่นใจปี 61 เทิร์นอะราวด์ (ข่าวหุ้น) ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ของบริษัท คาดว่าจะสามารถสร้างผลกำไรสุทธิได้สูงสุดในรอบหลายปี
(+) SUPER* ยันจีนหนุนกว่า2หมื่นล.สร้างโรงไฟฟ้าเวียดนามให้ IRR15-18% (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บิ๊กบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ" ระบุไม่มีปัญหาเรื่องเงินลงทุนสำหรับใช้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามขนาดกำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ ที่สำคัญ ไม่ต้องรบกวนเงินในกระเป๋าผู้ถือหุ้น เหตุพันธมิตรรับเหมาก่อสร้างจากจีนมาพร้อมกับการซัปพอร์ตด้านเงินทุนสำหรับก่อสร้าง 100% จนสามารถ COD ได้ คาดใช้เงินลงทุนก่อสร้างทั้งหมดราว 20,700 ล้านบาท เฟสแรกเปิดฉากกลางปี 61 ประเมินอัตราผลตอบแทนจาการลงทุนสูงถึง 15-18%
(+) SCC* ขายบอนด์วงเงิน 3 หมื่นล้าน (โพสต์ทูเดย์) SCC* จ่อขายหุ้นกู้ 3 หมื่นล้าน ด้าน SGP ขาย 2,000 ล้าน ทริสแจกเครดิต BBB บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท วงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท อายุ 3 ปี 11 เดือน 30 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2565
(0) 'GIC’ ขายบิ๊กล็อต LH* ฟันกำไรทะลัก 9 พันล. เหตุขาย 10.90 บาท ต้นทุนต่ำแค่ 1.40 บาท (ข่าวหุ้น) “GIC” กลุ่มทุนสิงคโปร์ ขายบิ๊กล็อตหุ้น LH* จำนวน 980 ล้านหุ้น ในราคาต่ำกว่ากระดานที่หุ้นละ 10.90 บาท ฟันกำไรเข้ากระเป๋าทะลักกว่า 9 พันล้านบาท เหตุต้นทุนถือ 19 ปี ต่ำแค่หุ้นละ 1.40 บาท ฟากราคาหุ้นดิ่งร่วงหนักกว่า 5%
(+) PTT* ลั่นระฆังตัดสินไตรมาส 2 นี้ ผู้ชนะประมูลงานสร้างท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 5 เฟส 2 (ข่าวหุ้น) “ปตท.” คาดคัดเลือกผู้ชนะประมูลงานสร้างท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 5 เฟส 2 ภายในไตรมาส 2/61 หลังมีผู้เข้าร่วมประมูล 4-6 ราย พร้อมชี้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติปีนี้พุ่ง 4,900 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ขณะที่ TRC ผนึกชิโนเปคร่วมชิงเค้ก
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SF (เป้า Consensus 9 บาท) แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนด Trailing stop 9.0 บาท / หากต่ำกว่า 9 บาท แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" รอซื้อคืนแนวรับถัดไปที่ 8.7 - 8.5 บาท
COM7* (เป้า Consensus 20.22 บาท) ประเมินแนวรับ 16 บาท และ 15.8 บาท แนะ "ซื้อแนวรับ"
GPI (เป้า Consensus 4.2 บาท) แนะนำ "Let profit run" กำหนด Trailing stop 3.2 บาท / หากต่ำกว่า 3.2 บาท แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" รอซื้อคืนแนวรับถัดไปที่ 3.1 - 3.0 บาท
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 6.95 บาท / หากต่ำกว่า 6.95 บาท แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" รอซื้อคืนแนวรับถัดไปที่ 6.5 - 6.4 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ADVANC* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 220 บาท ADVANC* รายงานกำไรสุทธิ 4Q60 = 7.7 พันล้านบาท (+3% QoQ, +19% YoY) สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยฯและที่ตลาดฯ คาดราว 3% โดยกำไรหลักทรงตัว QoQ ใน 4Q60 เนื่องจากค่าตัดจำหน่ายโครงข่ายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบ YoY แล้วพบว่ากำไรใน 4Q60 เพิ่มขึ้นเพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดลดลง ยังคงแนะนำ ซื้อ ADVANC* เนื่องจาก i) ราคาหุ้นยังมี upside อีก 13.1%, ii) คาดว่า Dividend yield ปี 2561-62 ยังน่าสนใจอยู่ที่ 3.9% - 4.1% และ iii) ยังมี upside อีกจากการซื้อ CSL ซึ่งยังไม่ได้รวมเข้าไว้ในประมาณการฯ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1809 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1809 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1809-1823 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1809 จุดนั้น อาจคงแรกดลงในกรอบ 1809-1791 จุด
แนวรับวันนี้: 1803/1792 แนวต้านวันนี้: 1814/1822
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO5275
ADVANC* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 220 บาท ADVANC* รายงานกำไรสุทธิ 4Q60 = 7.7 พันล้านบาท (+3% QoQ, +19% YoY) สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยฯและที่ตลาดฯ คาดราว 3% โดยกำไรหลักทรงตัว QoQ ใน 4Q60 เนื่องจากค่าตัดจำหน่ายโครงข่ายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบ YoY แล้วพบว่ากำไรใน 4Q60 เพิ่มขึ้นเพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดลดลง ยังคงแนะนำ ซื้อ ADVANC* เนื่องจาก i) ราคาหุ้นยังมี upside อีก 13.1%, ii) คาดว่า Dividend yield ปี 2561-62 ยังน่าสนใจอยู่ที่ 3.9% - 4.1% และ iii) ยังมี upside อีกจากการซื้อ CSL ซึ่งยังไม่ได้รวมเข้าไว้ในประมาณการฯ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1809 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1809 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1809-1823 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1809 จุดนั้น อาจคงแรกดลงในกรอบ 1809-1791 จุด
แนวรับวันนี้: 1803/1792 แนวต้านวันนี้: 1814/1822
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO5275