- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 February 2018 16:10
- Hits: 5637
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เน้นปัจจัยบวกหุ้นรายตัว
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ช่วงแรกมีทิศทางปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศและราคาน้ำมันลงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่หลังจาก PTTEP ประกาศดีลการเข้าซื้อแหล่ง บงกชเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มอีก 22.22% เป็น 66.67% ทำให้หุ้น PTTEP และ PTT ดีดกลับ ดึงดัชนีตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวปิดในแดนบวก เราคาดกรอบดัชนีวันนี้ 1,814-1,841 จุด ปัจจัยสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาบวก จากการคลายวิตกกังวลที่เฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ (31 ม.ค.) แต่คาดว่าเฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบหน้า (21 มี.ค.) ดังนั้นเราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะเริ่มผันผวนในเดือน ก.พ. ทั้งทิศทางการปรับขึ้นและปรับตัวลง อีกทั้งหลังการประกาศงบการเงินรายปี 2560 ของ บจ.ซึ่งมี Deadline สิ้นเดือน ก.พ. นี้ จะตามมาด้วยการประกาศจ่ายเงินปันผล และช่วง XD ของบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นเราให้กรอบดัชนีเดือน ก.พ. ไว้ที่ 1,780-1,860 จุด หุ้นเด่นเดือน ก.พ. IRPC, PSL, BANPU และ SAWAD โดย Theme หลักเน้นไปที่หุ้นที่มีผลประกอบการปี 2561 มีอัตราการเติบโตเด่น
Stock Comment
AJ เลือกเป็น Pick of the day
TTCL คาดดีลขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้า Ahlone อีก 356 MW หรือเกือบ 3 เท่าของเดิม ทำให้ TTCL มี Fair Value เพิ่มขึ้น 7-10 บาทต่อหุ้น อยู่ระหว่างปรับประมาณการ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายล่าสุดคือ 25 บาท
TU รับผลบวกราคาวัตถุดิบปลาทูน่าในเดือน ม.ค. 61 ปรับลดลงเหลือ 1,550 เหรียญสหรัฐฯ / ตัน หรือลดลง -13.9% MoM และ -8.8% YoY ช่วยให้กำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ราคาเป้าหมาย 23 บาท
หุ้นเด่นวันนี้ : AJ (ปิด 14.30 บาท; ซื้อ; AWS TP 19.50 บาท)
AJ : Spread ของผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ BOPP, BOPET และ BOPA ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณขายปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ทำให้คาดได้ว่าจะมีกำไรสุทธิที่ดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/60 และ 1/61 ทั้งนี้ AJ วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตของ BOPA ประมาณ 60% ในไตรมาส 1/62 จาก 18,000 ตันต่อปี ขณะที่ BOPA เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสเปรดดีที่สุดในสามผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เราคาดว่ากำไรปกติในปี 2561-2562 จะโต 40.5% และ 20.2% ตามลำดับ กำไรสุทธิโต 16.3% และ 20.2% ตามลำดับ เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 19.50 บาทอิง PEG ปี 2561 ที่ 1.0 เท่า
Price Pattern ของ AJ กลับมามีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily & Monthly Buy Signal รอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal โดยการปิดตลาดรายสัปดาห์เหนือ 14.90 บาทให้ได้ โดยเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 18 บาท ทั้งนี้ AJ มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 11.90 บาท (Resistance: 14.50, 14.80, 15.00; Support: 14.10, 13.90, 13.60
ปัจจัยในประเทศ :
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.35% YoY ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หนุนโดยการผลิตที่เพิ่มขึ้นของยางพารา รถยนต์ เครื่องยนต์ และปิโตรเลียม ขณะที่ดัชนีปี 2560 เพิ่มขึ้น 1.58% (บางกอกโพสต์) ความเห็น: แม้ตัวเลขในปี 2560 จะต่ำกว่าที่กระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่าจะเติบโตที่ 2% แต่เรามองว่าดัชนีดังกล่าวจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ตามภาคส่งออกที่เติบโตและเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว
ธปท. อาจปรับประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจปี 2561 ขึ้นจาก 3.9% หนุนโดยการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่ประมาณการปัจจุบันยังไม่รวมงบเพิ่มเติมกลางปีของรัฐบาลจำนวน 1.5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธปท.จะรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน ก.พ. และมี.ค. อีกครั้งหนึ่งเพื่อตัดสินใจว่าจะปรับคาดการณ์ขึ้นหรือไม่ (บางกอกโพสต์)
AWN คงแผนการเพิกถอน CSL ออกจากตลาดหลักทรัพย์: AWN บริษัทย่อยของ ADVANC มีความประสงค์จะเพิกถอน CSL ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 12 เดือนหลังจากสิ้นสุดระยะเวลา tender offer ตามคำชี้แจงของบริษัท (Bangkok Post) ความเห็น: การเพิกถอนจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น CSL โดยบริษัทจะยังคงดำเนินกิจการตามปกติและยังคงดำรงสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัดภายใต้ ADVANC
PTTEP ได้ลงนามในสัญญาการโอนสิทธิสัมปทาน เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุน 22.22% ในโครงการบงกช ซึ่งได้แก่ แปลง B15 แปลง B16 และแปลง B17 จากบริษัท Shell และแปลง G12/48 จากบริษัท Thai Energy Company Limited (Shell ถือหุ้น 100%) ด้วยมูลค่าก่อนภาษีประมาณ 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2/61 ภายหลังการเข้าซื้อ PTTEP จะมีสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 66.67% จาก 44.45% ทั้งนี้โครงการบงกชมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 860 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปริมาณขายคอนเดนเสทประมาณ 26,000 บาร์เรลต่อวัน ความเห็น: เราคาดว่าจะช่วยทำให้รายได้และกำไรของ PTTEP ดีขึ้นจากคาดการณ์เดิม EPS 8.94 บาทต่อหุ้น อีกราว 5-10% นอกจากนี้ยังส่งผลบวกไปยัง PTT ซึ่งถือหุ้น 65.29% ด้วย อยู่ระหว่างปรับประมาณการราคาเป้าหมายของ PTTEP และ PTT เพิ่มขึ้น แนะนำซื้อ PTT แนะนำถือ PTTEP
TU (ปิด 20.70 บาท, “ซื้อ”, AWS TP 23.00 บาท) ราคาวัตถุดิบปลาทูน่าในเดือน ม.ค. 61 ปรับลดลงเหลือ 1,550 เหรียญสหรัฐฯ / ตัน หรือลดลง -13.9% MoM และ -8.8% YoY ช่วยให้กำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 1/61 นอกจากนี้บริษัทหันมาเน้นการออกสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Ready to Eat (RTE) และกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงบริษัทเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่ลงทุนไว้ คาดปี 2561 บริษัทจะรับรู้กำไรจากการดำเนินงานปกติ 5,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%YoY
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ดาวโจนส์ปิดบวก 72.50 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุดซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับย้ำจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้
สหรัฐฯ : คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.25-1.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ คณะกรรมการ FOMC ยังมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบการแต่งตั้งให้นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 3 ก.พ. หลังจากเป็นประธานเฟดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 57
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาทองคำ : ทั้งเดือน ม.ค.พบว่า ราคาทองพุ่งขึ้น 3.1% และเป็นการทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ดีดตัวขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.36% สู่ระดับ 1,344.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาน้ำมันดิบ : WTI เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 64.73 ดอลลาร์/บาร์เรล; เบรนท์ ขยับขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 69.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 2 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล หลังจากร่วงลงเป็นเวลา 10 สัปดาห์ติดต่อกัน
ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,152.00 จุด ลดลง 39.00 จุด
ราคาถ่านหิน New Castle ปรับตัวลง 2.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน มาที่ 104.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน
Thailand Research Department
Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 0-2680-5094
OO5127