WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงในช่วงในช่วงเช้าลงไปทดสอบแนวรับ 1,820 จุดตามคาดจาก Sentiment เชิงลบทั้งราคาน้ำมันที่ปรับลงและตลาดหุ้นสหรัฐฯทีปรับฐาน ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับและดันดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นมาในแดนบวกก่อนจะปิดทรงตัวได้ ณ สิ้นวัน สถาบันในยังขายสุทธิในตลาดหุ้นอีกเล็กน้อย 228 ลบ. ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังขายหนัก 2,048 ลบ. (แต่ Net Long ใน Index Futures 8,482 สัญญา)
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้นหลัง FED คงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและให้ความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อทียังไม่ได้น่ากังวล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้บ้างหลังปรับลง 2 วันติดต่อกัน เราเชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนดัชนีในระยะนี้คือการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q17 ซึ่งหากไม่ได้ออกมาดีกว่าคาดจนนำไปสู่การปรับประมาณการขึ้น เราเชื่อว่าการปรับขึ้นของ SET จะยังคงจำกัดและมียังโอกาสเกิดการพักฐานระยะสั้น
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่ง
  หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$813ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$783ล้าน และไทย US$65ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$141ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค การประชุม FOMC สิ้นสุดเมื่อคืนนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณการปรับขึ้นในเดือนมี.ค.
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SVOA <<
คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 29 ลบ. โตแรงเมื่อเทียบ 4Q16 ที่ทำได้เพียง 2 ลบ. จากการส่งมอบงานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ให้สนง.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการรับรู้กำไรของ IT ที่เป็น High Season และเป็นช่วงเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ของ SPVI (IT ถือ 29%)
SVOA เป็นผู้วางระบบไอทีให้กับภาครัฐฯและเอกชน ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งจากการลงทุนเพื่อรับเศรษกิจดิจิทัลของหน่วยงานรัฐฯ และ Digital Banking ของกลุ่มสถาบันการเงิน เราคาดกำไรสุทธิปีนี้โตต่อเนื่อง 13% Y-Y อยู่ที่ 176 ลบ. จากปีก่อนที่โตสูง 114% Y-Y อยู่ที่ 156 ลบ.
Valuation ยังเป็นจุดเด่น เราคาดบริษัทลูกทั้งในและนอกตลาดมีมูลค่ารวมกัน 1.80-1.90 บาท/หุ้น บวกเงินสดในมือ 0.30 บาท/หุ้น จะเป็น 2.10 บาท/หุ้น เท่ากับตลาดแทบไม่ให้มูลค่าของธุรกิจหลัก Downside ที่ราคานี้จึงจำกัดมาก แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท คาดปันผล 3% ต่อปี (จ่ายปีละครั้ง)
ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) มุมมองตลาดเดือน ก.พ. แม้ว่าสถิติตลาดหุ้นเดือน ก.พ. จะสดใส ย้อนหลังไป 10 ปี มีเพียง 2 ปีที่ปรับลงและปรับลงเพียง 1.0-1.4% M-M แต่เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยเดือนนี้มีโอกาสพักฐานชั่วคราว เพราะ SET ปรับขึ้นติดต่อกัน 6 เดือนแล้ว ตอบรับปัจจัยบวกไปพอสมควร ค่าเงินบาทมีโอกาสกลับข้างตลอดเวลา และกำไรบจ.อาจดีไม่เท่าที่คาด แต่เป็นการพักในรอบขาขึ้น และมีการประกาศจ่ายปันผลของบจ.คอยประคองดัชนี เรายังคง SET Target ปีนี้ที่ 1,900 จุดซึ่งน่าจะได้เห็นก่อนสิ้นปี การอ่อนตัวจึงเป็นโอกาสซื้อเช่นเดิม  หุ้นเดือนนี้แนะนำ AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
  (+) เศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. ดีต่อเนื่อง จากการส่งออกและท่องเที่ยว ส่วนการจับจ่ายใช้สอยขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน การลงทุนยังทรงตัวระดับต่ำ ธปท.มองภาพรวมทั้งปีเศรษฐกิจมีโอกาสโต 4% และคาดปีนี้ +3.9% แต่เราคิดว่ามีโอกาสเห็น GDP ปี 2018 ขยายตัวมากกว่า 4% โดยเราคาด +4.3% ในปีนี้      
  (0) TCAP ผู้บริหารเปิดเผยเป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 2018 โดยมองการเติบโตของสินเชื่อในเชิงรุกและคาดการณ์การเติบโตที่ >5% สูงสุดในรอบ 6 ปี เราคาดว่า 2018 PPOP จะ +9% Y-Y แต่กำไรสุทธิน่าจะทรงตัวและชะลอในปีนี้-ปีหน้า เนื่องจากการกลับมาจ่ายภาษีในอัตราปกติตั้งแต่ 2H18 และฐานกำไรจากเงินลงทุนที่สูงในปี 2017 เราคงราคาเหมาะสมที่ 55 บาท ราคาหุ้นเต็มมูลค่า แต่คาด Final Dividend อีกราว 1.40 บาทต่อหุ้น หรือ Yield ราว 2.4% และปีละ 3.9% จึงแนะนำถือ หรือ Switch เป็น TISCO KKP ซึ่งเราคาดการณ์เงินปันผลต่อปีในอัตราที่สูงกว่าและคาดการณ์การเติบโตของกำไรมากกว่า TCAP
  (+) ATP30 แม้ 4Q17 จะเป็น Low Season แต่ถูกชดเชยด้วยรายได้จากการเช่ารถพิเศษตามงานรื่นเริงที่เพิ่มขึ้น บวกกับมีการรับรู้รายได้จาก Autoliv และ SCCC ด้วยรถบัสรวม 28 คันเต็มไตรมาส ทำให้คาดกำไร 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ +20% Q-Q, +190% Y-Y สำหรับปี 2018 เราปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 13% เป็น 40 ลบ. (+67% Y-Y) สะท้อนจำนวนรถที่ผ่อนและตัดค่าเสื่อมหมดที่มากกว่าคาด ทำให้ราคาเหมาะสมปรับขึ้นเป็น 2.30 บาท คงคำแนะนำซื้อ โดย ATP30 ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์ตรงจาก EEC
  (-) THCOM ผลการดำเนินงาน 4Q17 ขาดทุนสุทธิ 3,190 ลบ. ลดลงอย่างมีนัยยะทั้ง Q-Q และ Y-Y โดยมีการตั้งด้อยค่าดาวเทียม IPSTAR 3,309 ลบ. หากตัดรายการดังกล่าวออกกำไรปกติจะอยู่ที่ 115 ลบ. แม้จะฟื้นทั้ง Q-Q และ Y-Y แต่ยังเป็นระดับทีอ่อนแอมาก ทั้งนี้ THCOM ประกาศจ่ายปันผลพิเศษ 1.36 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ถึง 11.6% เพราะมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น CSL เราไม่ได้มองบวกในประเด็นนี้ เพราะตัวธุรกิจไม่ได้อยู่ในสถานะที่ควรจ่ายปันผลมาก เราปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 11 บาท แนะนำขาย
  (0) ILINK ราคาหุ้นปรับตัวลง 20% นับจากปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเราได้เตือนถึงประเด็นการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ 175 ลบ. ใน 4Q17 ไปแล้วล่วงหน้า ผลกระทบเบื้องต้นประเมินไว้ที่ 5-7 บาทต่อหุ้น แต่เนื่องจากเป็นรายการที่เกิดขึ้นแล้วจบ ขณะที่ Backlog กว่า 3.2 พันลบ. ที่จะรับรู้ตั้งแต่ปีนี้คาดว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนอดีต อีกทั้ง ยังมีมูลค่าของ ITEL คอยจำกัด Downside ซึ่งเมื่อคิดกลับเป็น ILINK จะอยู่ที่ 8.5-9.5 บาท/หุ้น นอกจากนี้ ในทางเทคนิค เราพบว่าราคาหุ้นเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 สัปดาห์มากถึง 20% แย่สุดตั้งแต่เข้าตลาดมา จึงเป็นไปได้สูงที่จะเกิด Cover Short ในอนาคตอันใกล้ ที่ราคาปัจจุบันเราจึงไม่แนะนำให้ขายแล้ว โดยถ้ามีอยู่ให้ถือรอฟื้นไปขายที่ 12-13 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 ก.พ.- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค. 18)
           - จีน: Caixin PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18) 
2 ก.พ. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค. 18)  
          - สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ม.ค. 18)
5 ก.พ.- อินโดนีเซีย: 4Q17 GDP ตลาดคาด 5.15% Y-Y
           - ยูโรโซน: Final PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18) ยอดค้าปลีก (ธ.ค. 17)

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกกลับมาเป็นบวกได้หลัง FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและย้ำจุดยืนว่าจะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
(-) ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ปิดในแดนลบตอบรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและรอดูผลการประชุม FED
(+) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกได้จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้นหลัง FED คงดอกเบี้ยและไม่ได้ให้ความเห็นที่น่ากังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยมีจังหวะลงไปแตะระดับ 31.25 บาท/ดอลลาร์ก่อนที่จะอ่อนลงมาเล็กน้อย
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 0.23 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 64.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบและเบนซินของสหรัฐฯปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,343.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า รวมถึงจับตาดูผลการประชุม FED ที่จะออกมาหลังตลาดปิดทำการ
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO5122

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!