- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 September 2014 16:05
- Hits: 2817
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ, FTSE +5.56, และ DAX +8.86 โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ในขณะที่สหภาพยุโรปเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย โดยจะให้เวลารัสเซีย 1 สัปดาห์เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน ก่อนที่จะออกมาตรการคว่ำบาตร ประกอบกับนักลงทุนรอผลการประชุมของ ECB ในสัปดาห์ และคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงอ่อนแอ
…..ราคาปิดน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$0.40 อยู่ที่ US$102.79 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อาจจะลดลง เนื่องจากภาคเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั้งในจีนและยุโรปในขณะที่อุตสาหกรรมน้ำมันยังคงมีอุปทานส่วนเกิน
....ทางด้านราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$0.3 อยู่ที่ US$1,287.7 ต่อออนซ์ โดยแนวโน้มที่อียูจะออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับเพิ่มขึ้น
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,505 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -23,365 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
(-) ดัชนี PMI ของจีนเดือน ส.ค. ลดลงมาอยู่ที่ 50.2 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงชะลอตัว แม้ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างเสถียรภาพ
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : คาดมีโอกาสปรับขึ้น จากความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่ ถึงแม้ว่าตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับปัจจัยบวกจาก Fund Flow หลังล่าสุดนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1,500 ล้านบาท โดยแรงซื้อจากต่างชาติยังมีความผันผวน อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็งค่า คาดว่าเงินต่างชาติจะยังคงมีแนวโน้มไหลเข้าต่อไป
....โดยคาดยังมีปัจจัยบวกจาก (1) ครม.ได้รับโปรดเกล้าฯแล้วเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยตลาดยังคงมีความคาดหวังในเชิงบวกว่าการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้จะนำพาประเทศไปสู่ความสงบ และการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
....ยังแนะติดตามประเด็น (1) การแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ต่อ สนช. ภายหลัง ครม.ได้รับการโปรดเกล้าแล้ว คาดช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะความชัดเจนในการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี (2) ประเด็นต่างประเทศ จากความเป็นไปได้ที่ ECB พิจารณาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดล่าสุดยังไม่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก
....รวมถึงความคืบหน้าในโครงการที่พร้อมเปิดประมูล หลังมีความชัดเจนแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางที่ผ่าน EIA ไปแล้วเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 2.36% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.07 อยู่ที่ 11.98
หุ้นแนะนำ : CPF, SCC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (2 - 5 กย.’57)
2/9/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต - สค. (2) ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง - กค.
(3) ดัชนีภาคการผลิต - สค.
3/9/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์ค - สค. (2) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน – ก.ค
4/9/57 : ประชุม ECB สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน - สค. (2) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - กค. (3) ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วย – 2Q/57 (4) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (5) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย – สค. (6) ดัชนี PMI ภาคบริการ - สค. (7) สต็อกน้ำมัน
5/9/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร – ส.ค.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789