- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 January 2018 19:25
- Hits: 3380
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“อ่อนแต่ไม่หลุด1825 ยังเลือกซื้อ/ถือต่อได้”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ปัจจัยภายใน & ต่างประเทศ : เมื่อวานนี้ SET Index ปรับขึ้น 8.61 จุดปิดที่ 1837.49 โดยยังคงมีแรงซื้อหุ้น Big cap ต่อเนื่อง นอกจากนั้นการที่เงินบาทอ่อนลง (เพราะเงิน US$ แข็งขึ้นก่อนการประชุมเฟด 31 ธ.ค.นี้) ทำให้หุ้นกลุ่มส่งออกคึกคักขึ้น ซึ่งหุ้นเด่นในช่วงนี้เป็น HANA, DELTA เพราะจ่ายปันผลดี ให้ Yield ประมาณ 5+/-% ต่อปี นักลงทุนสถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ 2.4 พันล้านบาท ส่วนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อ 356 ล้านบาท
สำหรับภายนอกวันนี้ Sentiment ค่อนไปทางลบ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงแรงเมื่อคืนนี้ เพราะ Bond yield พุ่งขึ้น จากโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งที่เพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทำให้อัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้น ส่วนตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดซื้อขายเช้าวันนี้ก็ลดลงตาม
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดจะยังไม่ร่วงแรงในช่วงนี้ เพราะมีปัจจัยเรื่องรายงานผลประกอบการ 4Q60 และปี 60 รวมทั้งการประกาศจ่ายปันผลช่วยพยุงไว้อยู่ ทั้งนี้บจ.ไทยจะทยอยรายงานกำไรปี 60 ออกมาถึงสิ้นเดือนก.พ.นี้
ปัจจัยจับตา คือ 1. ผลประกอบการ & เงินปันผลบจ., 2. ถ้อยแถลงเฟดหลังจบการประชุม 31 ม.ค.นี้ และ 3. การแถลงนโยบายทรัมป์ต่อสภาคองเกรสเกรส ซึ่งตรงกับเช้าวันที่ 31 ม.ค. (เวลาไทย)
กลยุทธ์ทางพื้นฐาน : แนะเลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยธีมเด่นหุ้นดีจาก DBS รอบนี้เลือก 1. Investment recovery play (หุ้นเด่น AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท), 2. Dividend play (หุ้นเด่น KKP ราคาพื้นฐาน 88 บาท) และ 3. Growth play (หุ้นเด่น IVL ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากตลาดเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังควรระวังการแกว่ง เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือเส้น SMA10 แต่ถ้าต่ำกว่าก็ควรลดพอร์ตตามแนวต้าน SET ให้ไว้ที่ 1840-1850 ถ้าหลุด 1825 ควร Stop loss
สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New high ได้แก่ ROJNA, BANPU, MONO, M, KTC, SF, ICHI ส่วนหุ้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น TTCL, PSL, PLAT, TRUE หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TASCO, AP, JKN, AH, TOP, THG, TVO หุ้นหลุด List -ไม่มี-
ปัจจัยต่างประเทศ
•/- ญี่ปุ่น : อัตราว่างงานเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น
# อัตราว่างงานของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.8% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ย. สำหรับตลอดทั้งปี 60 อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 2.8% จาก 3.1% ในปีก่อนหน้า ปัจจัยหนุน คือ การบริโภคภาคเอกชนที่คิดเป็น 60% ของจีดีพีปรับตัวดีขึ้น
• สหรัฐ : ประชุม FOMC 30-31 ม.ค.นี้... DBS คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% และมองว่าศก.ยังขยายตัวได้ดีต่อปีนี้
# คณะกรรมการ FOMC สหรัฐจะประชุมรอบแรกของปี 61 วันที่ 30-31 ม.ค.นี้ ซึ่งทาง DBS คาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed fund rate) ไว้ที่ 1.5% ต่อไปก่อน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้กดดันมากนัก ส่วนมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้คาดว่าจะเป็นไปทางบวก การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะค่อยเป็นค่อยไป โดยความเร็วและความถี่ขึ้นกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อ
+ สหรัฐ : ทรัมป์เตรียมแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาวันที่ 30 ม.ค.นี้ คาดจะเปิดเผยโครงการลงทุนครั้งใหญ่
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 30 ม.ค. เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันที่ 31 ม.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
# หัวข้อการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสของปธน.ทรัมป์คือ "การสร้างอเมริกาที่ปลอดภัย แข็งแกร่ง และน่าภาคภูมิใจ" โดยจะเน้นหนักใน 5 ประเด็นหลัก ซึ่งได้แก่ การจ้างงานและเศรษฐกิจ, การก่อสร้างโครงการพื้นฐานของประเทศ, นโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ, การค้า และความมั่นคงแห่งชาติ
# ตลาดคาดการณ์ว่าทรัมป์จะเปิดเผยโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคครั้งใหญ่วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ และอาจกล่าวถึง
# การจะทำแผนลงทุนวงเงิน 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะให้รัฐบาลของมลรัฐและภาคเอกชนสนับสนุนเงินทุนในการสร้างและซ่อมสะพาน, ทางหลวง และสาธารณูปโภคทั่วประเทศ
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดร่วงหลัง Bond yield พุ่ง
# ดัชนี DJIA ปิด 26,439.48 จุด -177.23 จุด หรือ -0.67% ดัชนี S&P500 ปิด -19.34 จุด หรือ -0.67% และดัชนี Nasdaq ปิด 7,466.51 จุด -39.27 จุด หรือ -0.52% แรงกดดันมาจาก Bond yield-10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.716% CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐพบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 26% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 23% ในวันศุกร์ และ 10% ในเดือนที่แล้ว
# หุ้นแอปเปิล -2.1% หลังแอปเปิล อิงค์จะปรับลดเป้าการผลิต iPhone X สำหรับไตรมาสแรกในปีนี้ลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 20 ล้านเครื่อง เนื่องจากยอดขายที่ต่ำกว่าคาดในยุโรป สหรัฐ และจีน
- ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลง…IEA คาดสหรัฐอาจจะผลิตน้ำมันดิบเป็นอันดับ 1 ของโลกในปีนี้
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 65.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่ม 12 แท่น สู่ระดับ 759 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
# สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่าสหรัฐมีแนวโน้มครองอันดับประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกในปี 61 แซงหน้ารัสเซียที่เป็นอันดับ 1 โดยขณะนี้สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันเทียบเท่ากับซาอุดิอาระเบียแล้วที่ 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน (สูงสุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐ)
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : เงินดอลล์แข็งฉุดราคาร่วง 11.8 ดอลลาร์
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 11.8 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,340.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยดัชนีดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลเพิ่มขึ้น 0.42% แตะระดับ 89.42 เมื่อคืนนี้
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ ไทย : กระทรวงการคลังลุ้นจีดีพีไทยปี 61 โต 4.2%
# กระทรวงการคลังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งที่ดีต่อเนื่องในปี 61 ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ ท่องเที่ยว และส่งออกประเมินว่ามีโอกาสที่จีดีพีปีนี้จะเติบโตสูงกว่า 4% ทั้งนี้ทางสคร.กล่าวว่าในช่วง 3 เดือนแรกปีงบประมาณ 61 รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 1.8 หมื่นล้านบาท (ส่วนปี 60 มีการเบิกจ่ายงบลงทุน 2.8 แสนล้านบาท)
+/- ROJNA (ราคาปิด 7.60 บาท) : จะขายหุ้น TICON ที่ถือทั้งหมด...คาดบันทึกกำไรหลังภาษี 1.4 พันล้านบาท
# เตรียมขายหุ้น TICON 478.7 ล้านหุ้น หรือ 26.1% ให้กับกลุ่มเฟรเซอร์ส ของกลุ่มคุณเจริญ ราคาหุ้นละ 18 บาท (ต้นทุน 14.27 บาท)
# ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : หากขายออกไปจริง ทาง ROJNA จะบันทึกกำไรหลังภาษี 1,428.4 ล้านบาท คิดเป็น 0.71 บาท/หุ้น ROJNA อย่างไรก็ตาม ในงบการเงินก็จะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจาก TICON เข้ามาอีก ซึ่งในงวด 9M60 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรทั้งหมด 960 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิในงวดดังกล่าวที่ 863 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO5031