- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 January 2018 19:23
- Hits: 2850
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Investment Related Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ปรับฐาน” ต้าน 1843/1848จุด รับ 1830/1823จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุน Fed Fund Future Rate ขยับขึ้น สะท้อนโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย4ครั้งในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 26% จาก 23% กดดัน US Bond Yield 10ปี พุ่งขึ้นทะลุ 2.7% สูงสุดรอบ44เดือน เป็นตัวแปรกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์เสี่ยงโลกอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่ปัจจัยในประเทศเชิงบวก คมนาคมเตรียมเสนอรถไฟทางคู่เฟส2เข้าครม. วงเงิน 3แสนลบ. ทำให้หุ้นอิงการลงทุนโครงสร้างภายในเด่น กลยุทธ์วันนี้ แนะนำลดน้ำหนักหุ้นไทยลงอีก 5% สู่ 60% เน้น Theme “Investment Related Play” : STEC, CK, TOA
Nomura : Key Factors
(-) US: FED Fund Future Rate ให้โอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้เพิ่มขึ้นสู่ 26%
(-) US: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ10ปี ปรับตัวขึ้นทะลุ 2.7% สูงสุดในรอบ 3ปี 8เดือน
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.88% สู่ $65.56/bbl / BRT -1.50% สู่ $69.46/bbl
(-) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น-358ลบ,Short Future -1,564สัญญา,ขายBond-1,776ลบ.
(+) US: ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(PCE)พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2%m-m
(+) US: ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจาก Dallas ปรับตัวขึ้นสู่ 33.4 จุด สูงสุดในรอบ12ปี
(+) TH: กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันรถไฟทางคู่เฟส 2 เข้าครม. วงเงินกว่า 3 แสนล้านบาท
(+) TH: สศค.ปรับคาดการณ์ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.2% จากปี2017ที่โต 4.0%
Nomura Daily Top Picks: STEC, CK, TOA
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ปรับฐาน” แนวต้าน 1843/1848จุด รับ 1830/1823จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตอย่างต่อเนื่อง นำโดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% m-m ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจาก Dallas ปรับตัวขึ้นสู่ 33.4 จุด สูงสุดในรอบ12ปี ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ FED Fund Future Rate ขยับตัวขึ้น สะท้อนโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้เพิ่มขึ้นสู่ 26% จากเดิม 23% ในวันศุกร์ และ 10%ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่เร่งตัวกว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะขึ้นเพียง 3 ครั้ง กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10ปี ปรับตัวขึ้นทะลุ 2.7% สูงสุดในรอบ 3ปี 8เดือน เป็นปัจจัยกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยงโลกผันผวน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันรถไฟทางคู่เฟส 2 เข้าครม. วงเงินกว่า 3แสนล้านบาท เพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมา ซึ่งการลงทุนจากภาครัฐฯที่ต่อเนื่องนี้ ส่งผลให้ สศค.ปรับคาดการณ์ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.2% จากปี2017ที่โต 4.0% เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในไทย คาดช่วยจำกัด downside ตลาดได้
Asset allocation : ถือหุ้น 60% และเงินสด 22.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นเป็นครั้งที่ 2 ลดลงอีก 5% สู่ 60% เพื่อกระชับพอร์ต โดยวันนี้ให้ระวังการขายทำกำไรของกลุ่มที่ Outperform อย่างโรงไฟฟ้า SPP กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มน้ำมัน กลุ่มนิคมฯ และกลุ่มชินส่วนฯ ส่วนวันนี้เน้นหุ้นในประเทศ Theme การลงทุนวงจรใหม่
ครม เตรียมนำรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 3 แสนลบ เข้าพิจารณา หนุน CK, STEC
Domestic Play : กลุ่ม BANK จะกลับมานำตลาดรับวงจรการลงทุนปี 2018 เน้น KBANK, BBL และกลุ่มรับเหมาฯ คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่ราคาตอบรับล่วงหน้าไปแล้ว มากลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน CK, STEC, TASCO, TOA เด่น
Dividend 2H17 Play หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และ พื้นฐานดี และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% โดย Big Cap High Yield เลือก KKP, TISCO, SC, IRPC และ Mid-Small Cap High Yield แนะนำ NYT, BLAND, PM
Baht Strengthening Play: 1) TVO ทุกๆเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ประมาณการจะเพิ่มจากเดิม 2.5% 3) กลุ่มนำเข้าสินค้าทุน TOA, CK, STEC และ 4) กลุ่ม Net Import SNC
2018 Top picks : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
STEC (TP 33.5*): Support: 24.4/24.0 Resistant: 25.0/26.0
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
Valuation: ปัจจุบันซื้อขาย P/BV18F 2.98 เท่า มองเป็นจุดน่าซื้อสะสมรับการลงทุนรอบใหม่ แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ (2.1 เท่า) แต่ยังเหมาะสมจากการได้งานถึงปัจจุบัน (รวมงานรอลงนามฯ) เป็นไปตามคาดดีที่สุดในกลุ่ม, ความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
Catalyst: กท.คมนาคมเตรียมเสนอครม.รถไฟฟ้าทางคู่เฟส 2 วงเงินกว่า 3แสนลบ.+ครม.เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาฯที่ได้ประโยชน์สูงจากการเปิดประมูลงานรัฐใน 2018-19F ที่คาดมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท (Vs. 2016-17F ที่ราว 3.6 แสนล้านบาท)+ มี Hidden assets จากถือหุ้น GULF 40 ล้านหุ้น ผลตอบแทนรวม 970 ลบ.
CK (TP 40*): Support: 26.5/26.0 Resistant: 27.5/29.0
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไร 4Q17F เติบโต y-y ตามรายได้ก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากงานใหม่ในปี 2017 ที่เข้ามาหนุนและแนวโน้ม GPM ที่ดีขึ้น ต่อเนื่องในปี 2018F คาดกำไรสุทธิโตโดดเด่น +70.5%y-y สู่ระดับ 2.48 พันลบ.
Valuation: ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV18F 1.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 2.1 เท่า + upside สูงถึง 48% ขณะที่มีแนวโน้มเป็นผู้ ได้รับงานรัฐมากที่สุดในกลุ่ม + มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ
Catalyst: กท.คมนาคมเตรียมเสนอครม.รถไฟฟ้าทางคู่เฟส 2 วงเงินกว่า 3แสนลบ.+เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาฯที่ได้ประโยชน์สูงจากการเปิดประมูลงานรัฐใน 2018-19F ที่คาดมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท (Vs. 2016-17F ที่ราว 3.6 แสนล้านบาท) โดยคาดบริษัทมีแนวโน้มเป็นผู้ได้รับงานรัฐมากที่สุดในกลุ่ม
TOA (TP 40*): Support: 30.5/30.0 Resistant: 32.0/33.0
Theme: Investment Related
Earnings Outlook: เป็นผู้นำอุตสาหกรรมสีในไทยด้วย Market share กว่า 48% และมีการเปิดตลาดต่างประเทศมานาน (CLMV + Indonesia + Malay) จะเติบโตไปตาม การเพิ่มจำนวนร้านค้าและเพิ่มสินค้า High margin โดยคาดกำไร 2018F จะกลับมาโตแรง 34% จากการปรับราคาครั้งแรกรอบ 3 ปี ราว 4% และจากการเพิ่มกำลังการผลิต 16% ใน 2H18F (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว) โดยระยะสั้นคาดกำไร 4Q17F 464 ลบ. (+32% q-q, -12% y-y) ซึ่งเห็นการฟื้นตัวของรายได้ y-y ครั้งแรกในรอบปี
Valuation: เป็นอุตสาหกรรมที่ดี Margin สูง, ลงทุนต่ำ, ROE สูง 24% จึงมี Premium กว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างทั่วไป โดยมี 18F PER 27.4x แต่ยังต่ำกว่าผู้ประกอบการในต่างประเทศเล็กน้อย ที่ซื้อขายเฉลี่ยสูง 31.5x
Catalyst: ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า (เป็น Net import $ 3% ของต้นทุนผลิต) + ประกาศปรับราคาสินค้าตั้งแต่ม.ค. - ก.พ. + ตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่าตัวรายได้ ช่วยผลักดัน Growth ต่อผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวสูง
“Investment Related Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ปรับฐาน” ต้าน 1843/1848จุด รับ 1830/1823จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุน Fed Fund Future Rate ขยับขึ้น สะท้อนโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย4ครั้งในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 26% จาก 23% กดดัน US Bond Yield 10ปี พุ่งขึ้นทะลุ 2.7% สูงสุดรอบ44เดือน เป็นตัวแปรกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์เสี่ยงโลกอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่ปัจจัยในประเทศเชิงบวก คมนาคมเตรียมเสนอรถไฟทางคู่เฟส2เข้าครม. วงเงิน 3แสนลบ. ทำให้หุ้นอิงการลงทุนโครงสร้างภายในเด่น กลยุทธ์วันนี้ แนะนำลดน้ำหนักหุ้นไทยลงอีก 5% สู่ 60% เน้น Theme “Investment Related Play” : STEC, CK, TOA
Nomura : Key Factors
(-) US: FED Fund Future Rate ให้โอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้เพิ่มขึ้นสู่ 26%
(-) US: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ10ปี ปรับตัวขึ้นทะลุ 2.7% สูงสุดในรอบ 3ปี 8เดือน
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.88% สู่ $65.56/bbl / BRT -1.50% สู่ $69.46/bbl
(-) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น-358ลบ,Short Future -1,564สัญญา,ขายBond-1,776ลบ.
(+) US: ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(PCE)พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2%m-m
(+) US: ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจาก Dallas ปรับตัวขึ้นสู่ 33.4 จุด สูงสุดในรอบ12ปี
(+) TH: กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันรถไฟทางคู่เฟส 2 เข้าครม. วงเงินกว่า 3 แสนล้านบาท
(+) TH: สศค.ปรับคาดการณ์ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.2% จากปี2017ที่โต 4.0%
Nomura Daily Top Picks: STEC, CK, TOA
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ปรับฐาน” แนวต้าน 1843/1848จุด รับ 1830/1823จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตอย่างต่อเนื่อง นำโดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% m-m ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจาก Dallas ปรับตัวขึ้นสู่ 33.4 จุด สูงสุดในรอบ12ปี ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ FED Fund Future Rate ขยับตัวขึ้น สะท้อนโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้เพิ่มขึ้นสู่ 26% จากเดิม 23% ในวันศุกร์ และ 10%ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่เร่งตัวกว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะขึ้นเพียง 3 ครั้ง กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10ปี ปรับตัวขึ้นทะลุ 2.7% สูงสุดในรอบ 3ปี 8เดือน เป็นปัจจัยกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยงโลกผันผวน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันรถไฟทางคู่เฟส 2 เข้าครม. วงเงินกว่า 3แสนล้านบาท เพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมา ซึ่งการลงทุนจากภาครัฐฯที่ต่อเนื่องนี้ ส่งผลให้ สศค.ปรับคาดการณ์ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.2% จากปี2017ที่โต 4.0% เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในไทย คาดช่วยจำกัด downside ตลาดได้
Asset allocation : ถือหุ้น 60% และเงินสด 22.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นเป็นครั้งที่ 2 ลดลงอีก 5% สู่ 60% เพื่อกระชับพอร์ต โดยวันนี้ให้ระวังการขายทำกำไรของกลุ่มที่ Outperform อย่างโรงไฟฟ้า SPP กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มน้ำมัน กลุ่มนิคมฯ และกลุ่มชินส่วนฯ ส่วนวันนี้เน้นหุ้นในประเทศ Theme การลงทุนวงจรใหม่
ครม เตรียมนำรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 3 แสนลบ เข้าพิจารณา หนุน CK, STEC
Domestic Play : กลุ่ม BANK จะกลับมานำตลาดรับวงจรการลงทุนปี 2018 เน้น KBANK, BBL และกลุ่มรับเหมาฯ คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่ราคาตอบรับล่วงหน้าไปแล้ว มากลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน CK, STEC, TASCO, TOA เด่น
Dividend 2H17 Play หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และ พื้นฐานดี และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% โดย Big Cap High Yield เลือก KKP, TISCO, SC, IRPC และ Mid-Small Cap High Yield แนะนำ NYT, BLAND, PM
Baht Strengthening Play: 1) TVO ทุกๆเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ประมาณการจะเพิ่มจากเดิม 2.5% 3) กลุ่มนำเข้าสินค้าทุน TOA, CK, STEC และ 4) กลุ่ม Net Import SNC
2018 Top picks : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
STEC (TP 33.5*): Support: 24.4/24.0 Resistant: 25.0/26.0
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
Valuation: ปัจจุบันซื้อขาย P/BV18F 2.98 เท่า มองเป็นจุดน่าซื้อสะสมรับการลงทุนรอบใหม่ แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ (2.1 เท่า) แต่ยังเหมาะสมจากการได้งานถึงปัจจุบัน (รวมงานรอลงนามฯ) เป็นไปตามคาดดีที่สุดในกลุ่ม, ความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
Catalyst: กท.คมนาคมเตรียมเสนอครม.รถไฟฟ้าทางคู่เฟส 2 วงเงินกว่า 3แสนลบ.+ครม.เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาฯที่ได้ประโยชน์สูงจากการเปิดประมูลงานรัฐใน 2018-19F ที่คาดมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท (Vs. 2016-17F ที่ราว 3.6 แสนล้านบาท)+ มี Hidden assets จากถือหุ้น GULF 40 ล้านหุ้น ผลตอบแทนรวม 970 ลบ.
CK (TP 40*): Support: 26.5/26.0 Resistant: 27.5/29.0
Theme: Infrastructure Spending
Earnings Outlook: คาดกำไร 4Q17F เติบโต y-y ตามรายได้ก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากงานใหม่ในปี 2017 ที่เข้ามาหนุนและแนวโน้ม GPM ที่ดีขึ้น ต่อเนื่องในปี 2018F คาดกำไรสุทธิโตโดดเด่น +70.5%y-y สู่ระดับ 2.48 พันลบ.
Valuation: ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV18F 1.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 2.1 เท่า + upside สูงถึง 48% ขณะที่มีแนวโน้มเป็นผู้ ได้รับงานรัฐมากที่สุดในกลุ่ม + มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ
Catalyst: กท.คมนาคมเตรียมเสนอครม.รถไฟฟ้าทางคู่เฟส 2 วงเงินกว่า 3แสนลบ.+เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาฯที่ได้ประโยชน์สูงจากการเปิดประมูลงานรัฐใน 2018-19F ที่คาดมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท (Vs. 2016-17F ที่ราว 3.6 แสนล้านบาท) โดยคาดบริษัทมีแนวโน้มเป็นผู้ได้รับงานรัฐมากที่สุดในกลุ่ม
TOA (TP 40*): Support: 30.5/30.0 Resistant: 32.0/33.0
Theme: Investment Related
Earnings Outlook: เป็นผู้นำอุตสาหกรรมสีในไทยด้วย Market share กว่า 48% และมีการเปิดตลาดต่างประเทศมานาน (CLMV + Indonesia + Malay) จะเติบโตไปตาม การเพิ่มจำนวนร้านค้าและเพิ่มสินค้า High margin โดยคาดกำไร 2018F จะกลับมาโตแรง 34% จากการปรับราคาครั้งแรกรอบ 3 ปี ราว 4% และจากการเพิ่มกำลังการผลิต 16% ใน 2H18F (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว) โดยระยะสั้นคาดกำไร 4Q17F 464 ลบ. (+32% q-q, -12% y-y) ซึ่งเห็นการฟื้นตัวของรายได้ y-y ครั้งแรกในรอบปี
Valuation: เป็นอุตสาหกรรมที่ดี Margin สูง, ลงทุนต่ำ, ROE สูง 24% จึงมี Premium กว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างทั่วไป โดยมี 18F PER 27.4x แต่ยังต่ำกว่าผู้ประกอบการในต่างประเทศเล็กน้อย ที่ซื้อขายเฉลี่ยสูง 31.5x
Catalyst: ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า (เป็น Net import $ 3% ของต้นทุนผลิต) + ประกาศปรับราคาสินค้าตั้งแต่ม.ค. - ก.พ. + ตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่าตัวรายได้ ช่วยผลักดัน Growth ต่อผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวสูง
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO5028