WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน


Today Selections  >>  LPN, TKN, WHA
Stock          S          R          Comment
LPN          12.00      12.50        คาดยอดโอนปี 2561 โตกว่า 50% YoY เน้นรุกตลาดกลาง-บน
TKN          22.50      23.50        ขยายรายได้ต่างประเทศเป็น 60-65% และเพิ่มสาขาในประเทศ อีก 10 สาขา
WHA           4.16       4.32        สมคิดเร่งลงทุนโลจิสติกส์ EEC 1.73 แสนล้านบาท
A nice start of the week
          SET : บรรยากาศการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยยังคงได้แรงหนุนสำคัญจากการอ่อนค่าของเงิน USD ราคาน้ำมันที่ยังคงยืนในระดับสูง รวมไปถึงเทศกาลประกาศผลประกอบการที่นักลงทุนคาดว่าจะออกมาแข็งแกร่ง ถึงแม้เมื่อวันศุกร์ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯจะออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดไว้ก็ตาม (2.6% QoQ vs. 3.0%) คาด SET Index จะได้อานิสงส์จากปัจจัยข้างต้นดังกล่าว และมีโอกาสปรับตัวทดสอบบริเวณ 1840-1850 จุดได้ในสัปดาห์นี้
          Fund flow : โดยถึงแม้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังคงไม่มีพัฒนาการในเชิงบวก (เนื่องจาก EPS ยังคงไม่ถูกปรับขึ้น) แต่ล่าสุดกระแส Fund flow เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง โดยเมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นถึง 5,300 ล้านบาท ถือเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ SET Index พลิกจากติดลบขึ้นมาปิดบวกได้อย่างแข็งแกร่ง
          Factors : ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
          1) การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนมกราคม ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 51.6 เท่ากับเดือนก่อน
          2) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 30-31 มกราคม ซึ่งเราคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในฐานะประธาน Fed ของนาง Janet Yellen
          3) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยประจำเดือนธันวาคมในวันที่ 31 มกราคม โดยมีตัวเลขที่น่าติดตามได้แก่ Private consumption Index (PCI), Private Investment Index (PII), M2 growth เป็นต้น
          PTTEP : แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 125 บาท จากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ จาก 57 เป็น 63 เหรียญฯ/บาร์เรล ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/60 ออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ไว้ โดยหากราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวสูงขึ้นอีก จะทำให้ราคาเป้าหมายของเรามี Upside risk เพิ่มขึ้นอีก (ราคาเฉลี่ยที่ 65 เหรียญฯ = ราคาเป้าหมาย 130 บาท / ราคาเฉลี่ยที่ 70 เหรียญฯ = ราคาเป้าหมาย 140 บาท)
          กลยุทธ์การลงทุน : SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1840-1850 จุดได้ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ด้วยการที่ Valuation ยังคงไม่สนับสนุน มองว่าการลงทุนในภาวะปัจจุบันยังคงจำเป็นที่จะต้อง Selective ต่อไป ซึ่งกลุ่มที่เรายังคงแนะนำได้แก่
          1) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงินปันผลในระดับน่าสนใจได้แก่ AP, LH, QH, SIRI
          2) กลุ่มสื่อสารที่ได้ประโยชน์จากการลดข้อจำกัดต่างๆของภาครัฐ ได้แก่ ADVANC, TRUE
          3) หุ้นพื้นฐานดีที่ปีที่แล้วเป็นหนึ่งใน The most laggards จึงมี Downside ที่จำกัด ได้แก่ CK, TU
          4) หุ้นกลุ่ม Small cap ที่เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ได้แก่ JMT, PRM
          5) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า, ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และ Seasonal effect ของค่าการกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
          6) กลุ่มค้าปลีกที่อาจได้อานิสงส์ในระยะสั้นจากประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าฐานรากเป็นสำคัญ ได้แก่ GLOBAL, ROBINS, SINGER, TNP
ส่วนกลุ่มที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือ Underweight ได้แก่ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร
          แนวรับ  1,813  แนวต้าน 1,844
บทวิเคราะห์วันนี้ :
PTTEP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 125 บาท) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 4 อยู่ที่ 9,441 ล้านบาท
Today's Event :
SPALI ลูกหุ้นเข้า 141,032,584 หุ้น
         
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
          E-mail: [email protected]
  OO4988

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!