- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 January 2018 19:55
- Hits: 1086
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ ความกังวลเรื่องเลื่อนเลือกตั้งน่าจะจบแล้ว
KGI คาด SET วันจันทร์ขึ้นต่อ แรงขายจากความกังวลเลื่อนเลือกตั้งจบแล้ว (เมื่อวันศุกร์ SET ย่อในวันใกล้ระดับจิตวิทยา/ระดับพีอีแบนด์ ที่ 1,800 ก่อนรีบาวด์แรง) เราคาดว่าหุ้นพลังงานและปิโตรเคมียังโดดเด่นและหนุนดัชนีฯ ต่อ หลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง และภาวะ ‘risk-on’ ในตลาดการเงินโลกยังดำรงอยู่ตามปัจจัยบวกนอกประเทศ ได้แก่ i) หุ้นสหรัฐฯ ทำนิวไฮอีกหลังงบไตรมาส 4/60 ของหุ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินแข็งแกร่งกว่า consensus คาด ขณะที่ GDP ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯ +2.6% QoQ (เทียบรายปี) ซึ่งแม้ต่ำกว่า consensus คาดแต่ไส้ในของ GDP สหรัฐฯ แข็งแกร่งมาก โดยการใช้จ่ายบริโภคพุ่งแรงสุดในรอบกว่า 2 ปี ii) เงินดอลล่าร์ฯ ร่วงต่อ (เงินบาทแข็งต่อ) หลังกรรมการ ECB นายคลาส น็อต ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ECB ควรยุติมาตรการ QE ให้เร็วที่สุด ดันสกุลเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่อง (เป็นบวกทางอ้อมต่อเงินบาท) ด้านปัจจัยภายใน ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทย ธ.ค. 60 ที่จะออกมาในวันที่ 30-31 ม.ค. นี้ เพื่อประเมิน GDP ไทยไตรมาส 4/60 ซึ่งจะรายงานกลาง ก.พ. นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PLANB, COM7*, SF
PLANB (เป้าพื้นฐาน 7.9 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 4Q60 โตเด่น +70% YoY เป็น 99 ล้านบาท (แต่ลดลง –34% QoQ จากอัตราการใช้สื่อโฆษณาที่ลดลงในช่วงงานพระราชพิธีฯ ในเดือน ต.ค.60) 2) คาดกำไรปี 2561 เติบโต +44% YoY เป็น 698 ล้านบาท จากอัตราการใช้สื่อที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฯ + การขยายพื้นที่ให้บริการสื่อ (คาด Capacity เพิ่ม 7 – 8%) อาทิ เพิ่มจอสื่อดิจิตอล 140 จอ ii) ขยายบริการสื่อโฆษณาบนรถโดยสาร ขสมก อีก 489 คัน 3) ล่าสุดประกาศซื้อหุ้น BMN 20% โดยใช้เงินลงทุน 262.2 ล้านบาท ทั้งนี้ BEM* เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บน BMN ในสัดส่วน 65.2% โดย BMN ทำธุรกิจบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT ได้แก่ i) การบริหารสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ii) การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ iii) การให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคม ... BMN ยังไม่อยู่ในประมาณการฯของฝ่ายวิจัยฯ 4) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท แนวต้าน 6.65 – 7.2 บาท (Trailing stop 6.3 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 20.22 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มกำไร 4Q60 โตเด่น QoQ และ YoY ทำจุดสูงสุดใหม่ (Consensus คาดกำไร 183.5 ล้านบาท +25.7% YoY และ +21.4% QoQ) และเราคาดเบื้องต้นแนวโน้มกำไร 1Q61 จะยังเดินหน้าเติบโตเด่น YoY จากการเปิดสาขาใหม่ + สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่การส่งมอบเริ่มขึ้นใน 1Q61 2) ปรับเปลี่ยนสัญญาการเข้าบริหาร True shop ตั้งแต่ 4Q60 คาดความสามารถกำไรดีขึ้น + ขยายสาขาผ่านทางแฟรนไชส์ เน้นพื้นที่ ที่ COM7* เข้าไม่ถึง 3) พิจารณาแนวราคา 17.3 บาท หากผ่านได้แนะนำ “เก็งกำไรตาม” ประเมินทดสอบแนวต้าน 17.9 บาท / แนวรับ 16.7 บาท (Trailing stop 16.1 บาท) ... คาดรับอานิสงส์ ค่าเงินบาทแข็งทางอ้อม เนื่องจากสินค้าอุปกรณ์ไอทีฯนำเข้า
SF (เป้า Consensus 9 บาท) 1) พิจารณาแนวราคา 8.65 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” ประเมินทดสอบแนวต้าน 8.9 บาท และถัดไปที่ 10 บาท / แนวรับ 8.3 บาท (Trailing stop 8.2 บาท) 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 โตเด่น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล และคาดโต YoY จากฐานต่ำ (ปีก่อนเป็นช่วงไว้อาลัยฯ) ขณะที่แนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไร 2 ปีข้างหน้าคาดเฉลี่ย +12.8% CAGR (เทียบกับ CPN* ที่คาดโตเพียง 5.6% CAGR) 3) PE ไม่แพง โดย Consensus คาด EPS 2561 – 62 ไว้ = 0.53 – 0.60 บาท/หุ้น ตามลำดับ คิดเป็น PE เพียง 15.9 – 14.1 เท่า ตามลำดับ ... ข้อมูลประมาณการฯ จาก Bloomberg consensus
หุ้นในกระแส
กลุ่มรับอานิสงส์บาทแข็ง เราประเมินค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในขณะนี้ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศ (แต่ขายสินค้าในไทย) เช่น กลุ่ม TVO (นำเข้าถั่วเหลืองมาผลิตกากถั่วเหลือง+น้ำมันขายในไทย), RSP (นำเข้ารองเท้า Converse มาขายในไทย), WINNER (นำเข้าสินค้าอาหารขายในไทย) เป็นต้น และกลุ่มขายสินค้าอุปกรณ์ไอที ที่ต้องนำเข้าสินค้า เช่น COM7*, SYNEX, JMART* เป็นต้น / ขณะเดียวกันแนะนำชะลอการลงทุนในกลุ่มส่งออกอย่าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ยอดผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์อาจชะลอตัวลงระยะสั้น เป็นต้น
กลุ่มอสังหาฯตัวเล็ก ลุ้นกำไร 4Q60 โตเด่น (CHEWA, RICHY) ข้อมูลจากที่ประชุมนักวิเคราะห์ เบื้องต้นเราประเมินแนวโน้มการรับรู้รายได้ของหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ตัวเล็กอย่าง CHEWA และ RICHY จะโตเด่น YoY และ QoQ ใน 4Q60 จากการโอนโครงการในมือที่สร้างเสร็จหลายแห่ง แนะนำ “เก็งกำไร” CHEWA กรอบแนวรับ – แนวต้าน 1.38 – 1.58 บาท / RICHY แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 1.90 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) PLANB ประกาศจะเข้าถือหุ้น 19.48% ใน บจ. แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ซึ่งเป็น บ. ลูกของ BEM หลังจากการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้แล้ว PLANB จะเข้าซื้อหุ้น BMN เพิ่มอีกให้ได้เกิน 20% เพื่อบันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก BMN ตามสัดส่วนการถือหุ้น เนื่องจากไม่ได้มีอำนาจในการบริหาร BMN โดยที่ BMN มีกำไรสุทธิราว 40 - 50 ล้านบาท/ปี ดังนั้นส่วนแบ่งกำไรที่ส่งต่อให้ PLANB จะมีจำนวนเพียง 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อ BMN ในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายบริการเข้าไปในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) เนื่องจาก BMN เป็นผู้ที่ได้สิทธิในการบริหารสื่อบนสถานี MRT และส่วนต่อขยายในอนาคต
(0) BBL* ขายบิ๊กล็อต JASIF ไม่กระทบพื้นฐานหุ้น 'บัวหลวง’ยันเจรจาซื้อขายสินทรัพย์เฟส 2 อยู่ (ข่าวหุ้น) แบงก์กรุงเทพ (BBL*) ขาย JASIF จำนวน 380 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 4.40 พันล้านบาท มีทั้งนักลงทุนสถาบัน ตปท. และบุคคลทั่วไปรับซื้อ ด้านโบรกฯมองไม่กระทบพื้นฐานกองทุนฯ และยังคงจ่ายเงินปันผลระดับสูงกว่า 8-9% ขณะที่ “บัวหลวง” ย้ำยังคงเจรจาซื้อขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ เฟส 2 อยู่ และจะได้ข้อยุติในไตรมาส 2 นี้ และพร้อมเข้าซื้อขายได้ในไตรมาส 3/61
(+) SGP* ย้ำปีนี้รายได้ 6.5 หมื่นล้าน คาดปริมาณขาย LPG โต 6-7% (ข่าวหุ้น) “SGP” ย้ำปี 2561 โกยรายได้ 6.5หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 คาดทำได้ 6 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปริมาณขาย LPG ปี 2561 โต 6-7% จากปี 2561 อยู่ที่ 3.2 ล้านต้น โบรกฯคาดงบไตรมาส 4/2560 แจ่ม อานิสงส์ไฮซีชั่นธุรกิจ-ดีมานด์จีนพุ่ง
(+) WHAUP-GULF ผนึกกำลัง MITG รุกธุรกิจจำหน่าย-ค้าปลีกก๊าซฯ (ข่าวหุ้น) “WHAUP-GULF” เปิดทางให้ MITG เข้าร่วมถือหุ้นใน “Gulf WHA MT” จำนวน 30% ผนึกกำลังเดินหน้าธุรกิจจัดจำหน่าย-ค้าปลีกก๊าชธรรมชาติเต็มกำลัง
(+) TPIPL* มั่นใจเทิร์นอะราวด์เชื่อบิ๊กโปรเจ็กต์ดันราคาปูน (ทันหุ้น) TPIPL* มั่นใจผลงานปี 2561 เทิร์นอะราวด์ หวังบิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ สร้างความเชื่อมั่นเอกชนดัน "ราคาปูน" กลับมา ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 5% จากปี 2560 ยอดขายปูนซีเมนต์และสีทาบ้านเพิ่มขึ้น 3%-5% คงกำลังการผลิตที่ 13.5 ล้านตันต่อปี และคงสัดส่วนการขายในประเทศ 70%-80% ส่งออก 20-30%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SIMAT (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินหากวันนี้ดีดพ้นแนวต้าน 3.5 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 3.32 บาท (Trailing stop 3.26 บาท)
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ Uptrend แนวรับ – แนวต้าน 28 – 32 บาท (Stop loss 27 บาท)
LH* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) ประเมินแนวรับ 11.4 บาท / แนวต้าน 11.7 บาท และถัดไปที่ 13.5 บาท (Stop loss 11 บาท)
MONO* (เป้าพื้นฐาน 5.75 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 4.60 บาท
TICON (เป้าพื้นฐาน 19.3 บาท) ประเมินแนวรับ 16.9 บาท / แนวต้าน 17.7 บาท (Stop loss 16.3 บาท)
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 6.4 บาท
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ ความกังวลเรื่องเลื่อนเลือกตั้งน่าจะจบแล้ว
KGI คาด SET วันจันทร์ขึ้นต่อ แรงขายจากความกังวลเลื่อนเลือกตั้งจบแล้ว (เมื่อวันศุกร์ SET ย่อในวันใกล้ระดับจิตวิทยา/ระดับพีอีแบนด์ ที่ 1,800 ก่อนรีบาวด์แรง) เราคาดว่าหุ้นพลังงานและปิโตรเคมียังโดดเด่นและหนุนดัชนีฯ ต่อ หลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง และภาวะ ‘risk-on’ ในตลาดการเงินโลกยังดำรงอยู่ตามปัจจัยบวกนอกประเทศ ได้แก่ i) หุ้นสหรัฐฯ ทำนิวไฮอีกหลังงบไตรมาส 4/60 ของหุ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินแข็งแกร่งกว่า consensus คาด ขณะที่ GDP ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯ +2.6% QoQ (เทียบรายปี) ซึ่งแม้ต่ำกว่า consensus คาดแต่ไส้ในของ GDP สหรัฐฯ แข็งแกร่งมาก โดยการใช้จ่ายบริโภคพุ่งแรงสุดในรอบกว่า 2 ปี ii) เงินดอลล่าร์ฯ ร่วงต่อ (เงินบาทแข็งต่อ) หลังกรรมการ ECB นายคลาส น็อต ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ECB ควรยุติมาตรการ QE ให้เร็วที่สุด ดันสกุลเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่อง (เป็นบวกทางอ้อมต่อเงินบาท) ด้านปัจจัยภายใน ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทย ธ.ค. 60 ที่จะออกมาในวันที่ 30-31 ม.ค. นี้ เพื่อประเมิน GDP ไทยไตรมาส 4/60 ซึ่งจะรายงานกลาง ก.พ. นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PLANB, COM7*, SF
PLANB (เป้าพื้นฐาน 7.9 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 4Q60 โตเด่น +70% YoY เป็น 99 ล้านบาท (แต่ลดลง –34% QoQ จากอัตราการใช้สื่อโฆษณาที่ลดลงในช่วงงานพระราชพิธีฯ ในเดือน ต.ค.60) 2) คาดกำไรปี 2561 เติบโต +44% YoY เป็น 698 ล้านบาท จากอัตราการใช้สื่อที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฯ + การขยายพื้นที่ให้บริการสื่อ (คาด Capacity เพิ่ม 7 – 8%) อาทิ เพิ่มจอสื่อดิจิตอล 140 จอ ii) ขยายบริการสื่อโฆษณาบนรถโดยสาร ขสมก อีก 489 คัน 3) ล่าสุดประกาศซื้อหุ้น BMN 20% โดยใช้เงินลงทุน 262.2 ล้านบาท ทั้งนี้ BEM* เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บน BMN ในสัดส่วน 65.2% โดย BMN ทำธุรกิจบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT ได้แก่ i) การบริหารสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ii) การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ iii) การให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคม ... BMN ยังไม่อยู่ในประมาณการฯของฝ่ายวิจัยฯ 4) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท แนวต้าน 6.65 – 7.2 บาท (Trailing stop 6.3 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 20.22 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มกำไร 4Q60 โตเด่น QoQ และ YoY ทำจุดสูงสุดใหม่ (Consensus คาดกำไร 183.5 ล้านบาท +25.7% YoY และ +21.4% QoQ) และเราคาดเบื้องต้นแนวโน้มกำไร 1Q61 จะยังเดินหน้าเติบโตเด่น YoY จากการเปิดสาขาใหม่ + สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่การส่งมอบเริ่มขึ้นใน 1Q61 2) ปรับเปลี่ยนสัญญาการเข้าบริหาร True shop ตั้งแต่ 4Q60 คาดความสามารถกำไรดีขึ้น + ขยายสาขาผ่านทางแฟรนไชส์ เน้นพื้นที่ ที่ COM7* เข้าไม่ถึง 3) พิจารณาแนวราคา 17.3 บาท หากผ่านได้แนะนำ “เก็งกำไรตาม” ประเมินทดสอบแนวต้าน 17.9 บาท / แนวรับ 16.7 บาท (Trailing stop 16.1 บาท) ... คาดรับอานิสงส์ ค่าเงินบาทแข็งทางอ้อม เนื่องจากสินค้าอุปกรณ์ไอทีฯนำเข้า
SF (เป้า Consensus 9 บาท) 1) พิจารณาแนวราคา 8.65 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” ประเมินทดสอบแนวต้าน 8.9 บาท และถัดไปที่ 10 บาท / แนวรับ 8.3 บาท (Trailing stop 8.2 บาท) 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 โตเด่น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล และคาดโต YoY จากฐานต่ำ (ปีก่อนเป็นช่วงไว้อาลัยฯ) ขณะที่แนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไร 2 ปีข้างหน้าคาดเฉลี่ย +12.8% CAGR (เทียบกับ CPN* ที่คาดโตเพียง 5.6% CAGR) 3) PE ไม่แพง โดย Consensus คาด EPS 2561 – 62 ไว้ = 0.53 – 0.60 บาท/หุ้น ตามลำดับ คิดเป็น PE เพียง 15.9 – 14.1 เท่า ตามลำดับ ... ข้อมูลประมาณการฯ จาก Bloomberg consensus
หุ้นในกระแส
กลุ่มรับอานิสงส์บาทแข็ง เราประเมินค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในขณะนี้ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศ (แต่ขายสินค้าในไทย) เช่น กลุ่ม TVO (นำเข้าถั่วเหลืองมาผลิตกากถั่วเหลือง+น้ำมันขายในไทย), RSP (นำเข้ารองเท้า Converse มาขายในไทย), WINNER (นำเข้าสินค้าอาหารขายในไทย) เป็นต้น และกลุ่มขายสินค้าอุปกรณ์ไอที ที่ต้องนำเข้าสินค้า เช่น COM7*, SYNEX, JMART* เป็นต้น / ขณะเดียวกันแนะนำชะลอการลงทุนในกลุ่มส่งออกอย่าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ยอดผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์อาจชะลอตัวลงระยะสั้น เป็นต้น
กลุ่มอสังหาฯตัวเล็ก ลุ้นกำไร 4Q60 โตเด่น (CHEWA, RICHY) ข้อมูลจากที่ประชุมนักวิเคราะห์ เบื้องต้นเราประเมินแนวโน้มการรับรู้รายได้ของหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ตัวเล็กอย่าง CHEWA และ RICHY จะโตเด่น YoY และ QoQ ใน 4Q60 จากการโอนโครงการในมือที่สร้างเสร็จหลายแห่ง แนะนำ “เก็งกำไร” CHEWA กรอบแนวรับ – แนวต้าน 1.38 – 1.58 บาท / RICHY แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 1.90 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) PLANB ประกาศจะเข้าถือหุ้น 19.48% ใน บจ. แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ซึ่งเป็น บ. ลูกของ BEM หลังจากการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้แล้ว PLANB จะเข้าซื้อหุ้น BMN เพิ่มอีกให้ได้เกิน 20% เพื่อบันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก BMN ตามสัดส่วนการถือหุ้น เนื่องจากไม่ได้มีอำนาจในการบริหาร BMN โดยที่ BMN มีกำไรสุทธิราว 40 - 50 ล้านบาท/ปี ดังนั้นส่วนแบ่งกำไรที่ส่งต่อให้ PLANB จะมีจำนวนเพียง 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อ BMN ในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายบริการเข้าไปในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) เนื่องจาก BMN เป็นผู้ที่ได้สิทธิในการบริหารสื่อบนสถานี MRT และส่วนต่อขยายในอนาคต
(0) BBL* ขายบิ๊กล็อต JASIF ไม่กระทบพื้นฐานหุ้น 'บัวหลวง’ยันเจรจาซื้อขายสินทรัพย์เฟส 2 อยู่ (ข่าวหุ้น) แบงก์กรุงเทพ (BBL*) ขาย JASIF จำนวน 380 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 4.40 พันล้านบาท มีทั้งนักลงทุนสถาบัน ตปท. และบุคคลทั่วไปรับซื้อ ด้านโบรกฯมองไม่กระทบพื้นฐานกองทุนฯ และยังคงจ่ายเงินปันผลระดับสูงกว่า 8-9% ขณะที่ “บัวหลวง” ย้ำยังคงเจรจาซื้อขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ เฟส 2 อยู่ และจะได้ข้อยุติในไตรมาส 2 นี้ และพร้อมเข้าซื้อขายได้ในไตรมาส 3/61
(+) SGP* ย้ำปีนี้รายได้ 6.5 หมื่นล้าน คาดปริมาณขาย LPG โต 6-7% (ข่าวหุ้น) “SGP” ย้ำปี 2561 โกยรายได้ 6.5หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 คาดทำได้ 6 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปริมาณขาย LPG ปี 2561 โต 6-7% จากปี 2561 อยู่ที่ 3.2 ล้านต้น โบรกฯคาดงบไตรมาส 4/2560 แจ่ม อานิสงส์ไฮซีชั่นธุรกิจ-ดีมานด์จีนพุ่ง
(+) WHAUP-GULF ผนึกกำลัง MITG รุกธุรกิจจำหน่าย-ค้าปลีกก๊าซฯ (ข่าวหุ้น) “WHAUP-GULF” เปิดทางให้ MITG เข้าร่วมถือหุ้นใน “Gulf WHA MT” จำนวน 30% ผนึกกำลังเดินหน้าธุรกิจจัดจำหน่าย-ค้าปลีกก๊าชธรรมชาติเต็มกำลัง
(+) TPIPL* มั่นใจเทิร์นอะราวด์เชื่อบิ๊กโปรเจ็กต์ดันราคาปูน (ทันหุ้น) TPIPL* มั่นใจผลงานปี 2561 เทิร์นอะราวด์ หวังบิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ สร้างความเชื่อมั่นเอกชนดัน "ราคาปูน" กลับมา ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 5% จากปี 2560 ยอดขายปูนซีเมนต์และสีทาบ้านเพิ่มขึ้น 3%-5% คงกำลังการผลิตที่ 13.5 ล้านตันต่อปี และคงสัดส่วนการขายในประเทศ 70%-80% ส่งออก 20-30%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SIMAT (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินหากวันนี้ดีดพ้นแนวต้าน 3.5 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 3.32 บาท (Trailing stop 3.26 บาท)
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ Uptrend แนวรับ – แนวต้าน 28 – 32 บาท (Stop loss 27 บาท)
LH* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) ประเมินแนวรับ 11.4 บาท / แนวต้าน 11.7 บาท และถัดไปที่ 13.5 บาท (Stop loss 11 บาท)
MONO* (เป้าพื้นฐาน 5.75 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 4.60 บาท
TICON (เป้าพื้นฐาน 19.3 บาท) ประเมินแนวรับ 16.9 บาท / แนวต้าน 17.7 บาท (Stop loss 16.3 บาท)
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 6.4 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
DCC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 3.48 บาท (Re-initiate) การฟื้นตัวของภาคเกษตรในต่างจังหวัดที่เพิ่งเริ่ม ทำให้ฝ่ายวิจัยฯประเมินการฟื้นตัวของดีมานด์กระเบื้องจะฟื้นตัวแบบช้าๆในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น คาดจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนแก็ซที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยปันผลเฉลี่ยปีละ 5.5% จึงแนะนำ “ถือ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่ต้าน 1831 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1831 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1831-1843 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1831 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดราคาลงในกรอบ 1831-1799 จุด
แนวรับวันนี้: 1819/1805 แนวต้านวันนี้: 1831/1840
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
DCC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 3.48 บาท (Re-initiate) การฟื้นตัวของภาคเกษตรในต่างจังหวัดที่เพิ่งเริ่ม ทำให้ฝ่ายวิจัยฯประเมินการฟื้นตัวของดีมานด์กระเบื้องจะฟื้นตัวแบบช้าๆในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น คาดจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนแก็ซที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยปันผลเฉลี่ยปีละ 5.5% จึงแนะนำ “ถือ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่ต้าน 1831 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1831 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1831-1843 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1831 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดราคาลงในกรอบ 1831-1799 จุด
แนวรับวันนี้: 1819/1805 แนวต้านวันนี้: 1831/1840
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO4982