- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 January 2018 19:52
- Hits: 984
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดค่อนข้างผันผวน โดยมีแรงขายในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อกดดันไหลไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1806 จุด หลังจากนั้นเริ่มมีแรงซื้อกลับเน้นหนักในหุ้นพลังงาน นำโดย PTTEP ที่รายงานกำไรออกมาดีกว่าคาด รวมถึงแรงหนุนในตัวอื่นๆ ทั้ง PTT, PTTGC, BANPU ผลักดันตลาดแกว่งขึ้น โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่จุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,828.88 จุด (+9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท (มี Big lot JASIF 4,408 ล้านบาท @11.6บ) มากขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อมากถึง 5,373 ล้านบาท และเปิดสถานะ Long SET50 index future ต่อเนื่องอีก 4,840 สัญญา
Investment theme
แรงเก็งกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ช่วยหนุน SET: วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนมาก แต่ท้ายที่สุดก็สามารถกลับมาปิดในแดนบวกทำจุดสูงสุดของวันได้ โดยเห็นสัญญาณขับเคลื่อนหลักจากการแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี นำโดย PTTEP, PTT, PTTGC, BANPU ขานรับแนวโน้มราคาพลังงาน (น้ำมัน, ถ่านหิน) ที่แกว่งตัวในระดับสูง รวมถึงจิตวิทยาเชิงบวกจากการรายงานผลประกอบการของ PTTEP ซึ่งกำไรปกติออกมาเติบโตดีใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ (เติบโตทั้งราคาขาย และยอดขาย) ซึ่งถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเพิ่มเติมต่อการเก็งผลประกอบการบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มพลังงานที่คาดจะออกมาดีด้วย คาดจะช่วยหนุน SET มีโอกาสแกว่งขึ้นต่อได้ โดยในช่วงถัดไปยังคงแนะให้จับตาการรายงานกำไรของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Real Sector อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือ Key สำคัญที่บ่งชี้ถึงการปรับตัวขึ้นของดัชนีรอบนี้จะยืนได้แข็งแกร่งเพียงใด
Investment theme: SET กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 5 และ 10 วันได้ (1826, 1820 จุด) พร้อมทั้งมีการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาดหุ้น และ Long S50 ในตลาด TFEX ถือเป็นจิตวิทยาบวกต่อ SET โดยประเมินแนวต้านถัดไปบริเวณ 1850 จุด แต่อย่างไรก็ดีบริเวณดังกล่าวก็ถือว่า SET อยู่ใน Zone ที่ไม่ได้ถูกมากนัก ดังนั้นจึงแนะใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1820 จุด เป็นแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุด การเก็งกำไรเน้นพลังงาน & ปิโตรเคมี รวมถึงทยอยสะสมหุ้นคาดกำไร 4Q60 เด่น และมีอัตราปันผลเด่น
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – 4Q60 US GDP ที่ 2.6%QoQ ต่ำคาดที่ 3.0%QoQ / ดัชนียอดสั้งซื้อสินค้าคงทน US เดือนธค. ที่ 2.9%MoM ดีกว่าคาดที่ 0.8% / 4Q60 UK GDP ที่ 0.5%QoQ, 1.5%YoY ดีกว่าคาด
บทวิเคราะห์วันนี้ : PRM (เริ่มคำแนะนำ Buy, TP16.1) / ORI (Hold, TP22.5) ปีแห่งการขยาย JV และแนวราบ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดค่อนข้างผันผวน โดยมีแรงขายในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อกดดันไหลไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1806 จุด หลังจากนั้นเริ่มมีแรงซื้อกลับเน้นหนักในหุ้นพลังงาน นำโดย PTTEP ที่รายงานกำไรออกมาดีกว่าคาด รวมถึงแรงหนุนในตัวอื่นๆ ทั้ง PTT, PTTGC, BANPU ผลักดันตลาดแกว่งขึ้น โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่จุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,828.88 จุด (+9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท (มี Big lot JASIF 4,408 ล้านบาท @11.6บ) มากขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อมากถึง 5,373 ล้านบาท และเปิดสถานะ Long SET50 index future ต่อเนื่องอีก 4,840 สัญญา
Investment theme
แรงเก็งกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ช่วยหนุน SET: วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนมาก แต่ท้ายที่สุดก็สามารถกลับมาปิดในแดนบวกทำจุดสูงสุดของวันได้ โดยเห็นสัญญาณขับเคลื่อนหลักจากการแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี นำโดย PTTEP, PTT, PTTGC, BANPU ขานรับแนวโน้มราคาพลังงาน (น้ำมัน, ถ่านหิน) ที่แกว่งตัวในระดับสูง รวมถึงจิตวิทยาเชิงบวกจากการรายงานผลประกอบการของ PTTEP ซึ่งกำไรปกติออกมาเติบโตดีใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ (เติบโตทั้งราคาขาย และยอดขาย) ซึ่งถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเพิ่มเติมต่อการเก็งผลประกอบการบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มพลังงานที่คาดจะออกมาดีด้วย คาดจะช่วยหนุน SET มีโอกาสแกว่งขึ้นต่อได้ โดยในช่วงถัดไปยังคงแนะให้จับตาการรายงานกำไรของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Real Sector อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือ Key สำคัญที่บ่งชี้ถึงการปรับตัวขึ้นของดัชนีรอบนี้จะยืนได้แข็งแกร่งเพียงใด
Investment theme: SET กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 5 และ 10 วันได้ (1826, 1820 จุด) พร้อมทั้งมีการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาดหุ้น และ Long S50 ในตลาด TFEX ถือเป็นจิตวิทยาบวกต่อ SET โดยประเมินแนวต้านถัดไปบริเวณ 1850 จุด แต่อย่างไรก็ดีบริเวณดังกล่าวก็ถือว่า SET อยู่ใน Zone ที่ไม่ได้ถูกมากนัก ดังนั้นจึงแนะใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1820 จุด เป็นแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุด การเก็งกำไรเน้นพลังงาน & ปิโตรเคมี รวมถึงทยอยสะสมหุ้นคาดกำไร 4Q60 เด่น และมีอัตราปันผลเด่น
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – 4Q60 US GDP ที่ 2.6%QoQ ต่ำคาดที่ 3.0%QoQ / ดัชนียอดสั้งซื้อสินค้าคงทน US เดือนธค. ที่ 2.9%MoM ดีกว่าคาดที่ 0.8% / 4Q60 UK GDP ที่ 0.5%QoQ, 1.5%YoY ดีกว่าคาด
บทวิเคราะห์วันนี้ : PRM (เริ่มคำแนะนำ Buy, TP16.1) / ORI (Hold, TP22.5) ปีแห่งการขยาย JV และแนวราบ
Stock pick : PRM
PRM : เริ่มคำแนะนำซื้อ เป้าหมาย 16.1 บาทต่อหุ้น (Upside 50.5%)
ก้าวเข้าสู่ Growth Stage ตั้งแต่ปี 2561 กลับมาเติบโต +36% YoY สู่ระดับ 890 ล้านบาท จาก 1) กองเรือ Tanker และ FSU ที่ระดมซื้อเพิ่มระหว่างปี 2559-60 จำนวน 6 ลำ ทำงานเต็มที่ 2) AOT ขยายสนามบินภูเก็ต กระตุ้นการใช้น้ำมันภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของ PRM 3) ราคาน้ำมันดิบขาขึ้น ส่งผลบวกต่อความต้องการใช้เรือสนับสนุนแท่นขุดน้ำมัน
แนะนำ “ซื้อ” ลงทุนระยะยาว เป้าหมาย 16.1 บาท/หุ้น (DCF WACC 7.0%, g 1.5%) เติบโตก้าวกระโดด 29% CAGR ระหว่างปี 2561-2564 ได้ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 16.10 บาท/ หุ้น ใกล้เคียงกับการอิง EV/ EBITDA 14.4x ตามค่าเฉลี่ยกลุ่มเรือที่ซื้อขายใน SET
Trading idea – – เก็งกำไรกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP) & ปิโตรเคมี (PTTGC, IVL) ตอบรับราคาน้ำมันดิบขาขึ้น / หุ้นกำไรดี ปันผลเด่น (SF, TISCO) CPALL
Technical View
รูปแบบ Hammer คล้ายกันที่แนวรับ: ตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งผันผวน โดยในช่วงเช้าปรับตัวลงแรงจากแรงขายต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร ก่อนจะปรับตัวขึ้นแรงทันทีจากแรงซื้อกลุ่มพลังงาน ทำให้เกิดแท่งเทียนในลักษณะ Hammer ที่แนวรับกรอบ Uptrend ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับในอดีต จึงมองว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อในลักษณะเช่นเดียว มองแนวต้านถัดไปที่ 1837 และ 1848 จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมที่แนวรับกลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1820-1837 , ลงทุนระยะกลาง ถือหุ้นต่อ หรือสะสมหุ้นเพิ่มที่แนวรับ 2) ไม่มีหุ้น: ทยอยสะสมหุ้นที่แนวรับ
แนวรับ : 1824, 1820 แนวต้าน : 1837, 1848
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : คืนวันที่ 31 มค. ประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
ปัจจัยในประเทศ : 31 มค. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย ธค. คาด +2.3%YoY
แนวรับ : 1824, 1820 แนวต้าน : 1837, 1848
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : คืนวันที่ 31 มค. ประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
ปัจจัยในประเทศ : 31 มค. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย ธค. คาด +2.3%YoY
หุ้นเทคนิค:
BANPU (B 21.40-21.60, Tp 22.40//23.00, Cut 21.20)
PTTGC (B 95.50, Tp 99.00, Cut 94.00)
BANPU (B 21.40-21.60, Tp 22.40//23.00, Cut 21.20)
PTTGC (B 95.50, Tp 99.00, Cut 94.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
Research Department Tel. 02-658-5000
OO4980