- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 January 2018 18:17
- Hits: 2663
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นรายตัว / พักเงินใน Defensive
Smart Pick
สะสม ADVANC
ราคาปิด 193.00 บาท
ราคาเหมาะสม 230.00 บาท
คาดกำไรปกติ 4Q60 เติบโต +17% YoY เป็น 7.5 พันล้านบาท ขยายตัว YoY เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน จากรายได้ที่เร่งตัวขึ้นตามการใช้ Data และ SG&A ลดลง จากการแข่งขันด้านราคาที่บรรเทาลง
มี Sentiment เชิงบวก หากการประมูลคลื่น 850MHz เลื่อนออกไป และคาดเงินปันผล 2H60 หุ้นละ 3.58 บาท
เก็งกำไร RSP
ราคาปิด 6.35 บาท
ราคาเหมาะสม 7.20-7.80 บาท
คาดกำไรสุทธิ 4Q60 ฟื้นตัว QoQ และเติบโตโดดเด่น +33% YoY เป็น 280 ล้านบาทในปี 2561 จากแรงหนุนของภาคบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว
ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า เป็นผู้นำเข้ารองเท้า Converse มีต้นทุนเป็นสกุลเงิน USD แต่มีรายได้เป็นเงินบาท และฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net cash และเงินสดในมือ 1.3 พันล้านบาท
สะสม TPIPP
ราคาปิด 7.85 บาท
ราคาเหมาะสม 9.50 บาท
คาดกำไรปกติ 4Q60 ทำระดับสูงสุดใหม่เป็น 744 ล้านบาท จากแรงหนุนของโรงไฟฟ้า TG1, TG2 ที่ติดตั้ง Boiler เพิ่มเป็น 2 ตัว
ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER2561 ต่ำเพียง 10.2 เท่า คาดปันผลงวด 4Q60 หุ้นละ 0.08-0.10 บาท และปี 2561 หุ้นละ 0.39 บาท คิดเป็น Dividend Yield 4.9%
เก็งกำไร THE
ราคาปิด 4.06 บาท
ราคาเหมาะสม 5.45-6.55 บาท
กลุ่มเหล็กได้ประโยชน์โดยตรงจากเงินบาทที่แข็งค่า เนื่องจากนำเข้าวัตถุดิบในรูป USD และยอดขายในประเทศเป็นเงินบาททั้งจำนวน
คาดกำไรสุทธิ 4Q60 เติบโต +100% YoY เป็น 100-120 ล้านบาท ประเมินเบื้องต้น คาด EPS ปี 2561 ที่ 0.36-0.44 บาท
S-T Profit-Taking : n.a
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX วานนี้เคลื่อนไหวกว้างถึง 24 จุด ปิดหลุดแนว 1820 จุด ขณะที่สถาบันในประเทศ ขายสุทธิเพียง100 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.5 พันล้านบาท แต่มาจากรายการ Big Lot หุ้น KBANK-F มูลค่ารวม 1.2 พันล้านบาท ขณะที่ยอดสุทธิ YTD ของนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมามีสถานะ Long สุทธิใน SET50 Index Futures ครั้งแรกในรอบปีนี้ 2,050 สัญญา เราประเมินว่านักลงทุนทั้ง 2 กลุ่มนี้ รอจังหวะซื้อหุ้นหลักเมื่อราคาอ่อนตัวมากกว่าจะเป็นการเร่งลดน้ำหนักการลงทุนในช่วงนี้ เพียงแต่วันนี้เป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ SET INDEX อาจฟื้นตัวในช่วงเปิดได้บ้าง แต่เรามองว่า SET INDEX จะอ่อนตัวลงในท้ายที่สุด แนวรับ 1,800-1,810 จุด เราแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาสะสมหุ้นเป้าหมายราว 1 ใน 3 ของวงเงินที่จะเข้าลงทุนรอบนี้ มุ่งเน้นประเด็นผลการดำเนินงานใน 4Q60 เป็นสำคัญ รวมถึงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมัน / เหล็ก / ถ่านหิน
สำหรับประเด็นการเลือกตั้งในประเทศ คืนวานนี้ สนช.มีมติผ่านกฎหมายเลือกตั้งขยายเวลา 90 วัน ทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.2562 เรามองว่าเป็นกรอบเวลาที่นักลงทุนรับได้
ปัจจัยสำคัญวันนี้ ติดตามการประกาศงบ PTTEP หลังปิดตลาดเช้าวันนี้ เราคาดกำไรสุทธิราว 1.05 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 3Q60 และมีโอกาสที่กำไรจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่ง PTTEP เป็น 1 ใน 4 ของหุ้นกลุ่มน้ำมัน/ปิโตรเคมีที่เราชอบ (PTT / PTTGC / IRPC) หากราคาย่อตัวลงมาอาจเป็นโอกาสของการเข้าเก็งกำไรรอบสั้น
HOT Topic
1. สนช.มีมติผ่านกฎหมายเลือกตั้ง คาดเลือกตั้งในเดือน ก.พ.2562 เรามีมุมมองอย่างไร
2. PTTEP รายงานงบ 4Q60 หลังปิดตลาดเช้าวันนี้
3. ติดตามการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
4. เรามีอีก 1 หุ้นใหม่ที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า คือหุ้นตัวใด?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายที่บริเวณ 1848 จุด ก่อนเกิดแรงขายทำกำไรในช่วงบ่าย กดให้ SET INDEX หลุดแนว 1820 จุดมาปิดที่ 1819.29 จุด ลดลง 19.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.4 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.5 พันล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. ขายสุทธิเพียงเล็กน้อย 100 ล้านบาท และ 140 ล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 4 อีกราว 3.1 พันสัญญา รวมราว 2 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ราว 2.6 พันสัญญา รวม 3.5 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมามีสถานะ Long สุทธิ ครั้งแรกของปีที่ 2.1 พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิ 7.1 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการราว 7 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สนช. มีมติเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายเลือกตั้งให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจาฯ 90 วัน คาดเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ. 2562
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงนโยบายการเงินตามเดิม และส่งสัญญาณพร้อมขยายระยะเวลา QE ออกไปหากจำเป็น
ญี่ปุ่นรายงานเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. ขยายตัว 1% YoY ใกล้เคียงกับตลาดคาดที่ 1.1% YoY แต่เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.6% YoY และ เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.9%YoY เท่ากับที่ตลาดคาด
ติดตามการรายงาน GDP4Q60 สหรัฐ(รอบแรก) ตลาดคาดขยายตัว 3% วันที่ 26 ม.ค.
ติดตามผลการประชุม NAFTA คาดทราบผลภายในวันที่ 28 ม.ค.
ปัจจัยติดตามในสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงาน GDP EU 4Q60 วันที่ 30 ม.ค.
ติดตามการประชุม Fed ครั้งแรกของปี 2561 วันที่ 30-31 ม.ค.
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, เงินเฟ้อEU วันที่ 31 ม.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทย เดือน ม.ค. วันที่ 1 ก.พ.
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ วันที่ 2 ก.พ.
และติดตามการประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนต่อเนื่อง
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research ,662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO4913
Mayuree Chowvikran Head of Research ,662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO4913
