- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 January 2018 16:27
- Hits: 13616
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ดอลลาร์อ่อน น้ำมันขึ้น สนับสนุนตลาดแกว่งขึ้นในกรอบ 1830-1850 จุด
การประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่คาดมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงที่จำกัด ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังคงให้ภาพที่เด่นชัดผ่านการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศสำคัญ อาทิเช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนที่ทำจุดสูงสุดในรอบ 12 ปี, ตัวเลขดุลการค้าญี่ปุ่นที่เกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งสอดคล้องกับการปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกของ IMF ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นปัจจัยหนุนราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบทำจุดสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 คาดหนุนหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีกลับมาช่วยผลักดันตลาด ขณะที่ระมัดระวังการปรับประมาณการกำไรลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากเงินบาทที่แข็งค่า และราคาวัตถุดิต้นทุนสำคัญอย่างทองคำ ทองแดง ปรับขึ้นต่อเนื่อง // กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงเน้นการ selective buy รายตัว หรือเลือกหุ้นที่ถูกปรับเพิ่มประมาณการขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ BANPU PTTGC COM7 AP LH BBL TMB (สวนทางกับตลาดที่ถูกปรับประมาณการลง) // ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ 1.การประชุม สนช. พิจารณาร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้ง, 2.การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB meeting), 3.ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯ
Investment Theme เน้น selective buy 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมี upside เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น SCC, BANPU, ROBINS, BJC*, ERW, MAJOR, STEC, CK, BCH, BDMS, PSH, AP, TK, AMANAH 3) EEC และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐาน AMATA*, STEC, EASTW* 4) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ HTC*, RSP*, MBK*, MONO*, TVO*, SPALI, MILL*, COM7*
ภาพรวมกลยุทธ์: ฟื้นตัวตามตลาดโลกแต่อาจผันผวนมาขึ้นจากแรงซื้อขายที่ชะลอตัวลง นักลงทุนควรตั้งจุดขายรักษากำไร (trailing stop) ในหุ้นที่มี นักเก็งกำไร เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับในหุ้นที่ Laggard หรือมีปัจจัยบวกชัดเจน // หุ้นแนะนำ BANPU, TTCL*, AMANAH*, SKE*
แนวรับ 1835 / แนวต้าน : 1850 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
การประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่คาดมีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงที่จำกัด ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังคงให้ภาพที่เด่นชัดผ่านการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศสำคัญ อาทิเช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนที่ทำจุดสูงสุดในรอบ 12 ปี, ตัวเลขดุลการค้าญี่ปุ่นที่เกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งสอดคล้องกับการปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกของ IMF ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นปัจจัยหนุนราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบทำจุดสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 คาดหนุนหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีกลับมาช่วยผลักดันตลาด ขณะที่ระมัดระวังการปรับประมาณการกำไรลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากเงินบาทที่แข็งค่า และราคาวัตถุดิต้นทุนสำคัญอย่างทองคำ ทองแดง ปรับขึ้นต่อเนื่อง // กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงเน้นการ selective buy รายตัว หรือเลือกหุ้นที่ถูกปรับเพิ่มประมาณการขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ BANPU PTTGC COM7 AP LH BBL TMB (สวนทางกับตลาดที่ถูกปรับประมาณการลง) // ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ 1.การประชุม สนช. พิจารณาร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้ง, 2.การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB meeting), 3.ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯ
Investment Theme เน้น selective buy 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมี upside เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น SCC, BANPU, ROBINS, BJC*, ERW, MAJOR, STEC, CK, BCH, BDMS, PSH, AP, TK, AMANAH 3) EEC และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐาน AMATA*, STEC, EASTW* 4) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ HTC*, RSP*, MBK*, MONO*, TVO*, SPALI, MILL*, COM7*
ภาพรวมกลยุทธ์: ฟื้นตัวตามตลาดโลกแต่อาจผันผวนมาขึ้นจากแรงซื้อขายที่ชะลอตัวลง นักลงทุนควรตั้งจุดขายรักษากำไร (trailing stop) ในหุ้นที่มี นักเก็งกำไร เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับในหุ้นที่ Laggard หรือมีปัจจัยบวกชัดเจน // หุ้นแนะนำ BANPU, TTCL*, AMANAH*, SKE*
แนวรับ 1835 / แนวต้าน : 1850 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมัน (WTI) ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งยืนเหนือ $65 ขานรับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯของ EIA ที่ลดลง / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,200 จุด (+3.72%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 106.95 เหรียญต่อตัน (+0.42%)
สหรัฐฯคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ – สหรัฐฯประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ โดยคว่ำบาตรบริษัท 9 แห่ง, จนท.เกาหลีเหนือ 16 ราย, และเรือ 6 ลำ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
สถานการณ์ภาคอุตสาหกรรมไทยเดือน ธ.ค. - ส.อ.ท.เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือน ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 89.1 สูงสุดในรอบ 35 เดือน เพิ่มขึ้นจาก 87.0 ในเดือน พ.ย. // ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ธ.ค. โต 11.28% yoy แต่ทั้งปี 60 ลดลง 4.11% yoy **ตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 61 ที่ 2 ล้านคัน หรือขยายตัว 0.56% yoy // ปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์เดือน พ.ย. หดตัว 1.6% yoy แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. รับอุปสงค์งานซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วม
ผู้ผลิตกว่า 100 ราย ยืนยันไม่ปรับเพิ่มราคาสินค้าหลังปรับค่าแรงขั้นต่ำ – รมว.พาณิชย์เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ผลิตสินค้ากว่า 100 ราย หลังรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกวันละ 5-22 บาท โดยกลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยืนยันว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า เพราะส่วนใหญ่จ่ายค่าจ้างแรงงานสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว และยังได้ปรับเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคน
ประเด็นติดตาม: 25 ม.ค. EU – ประชุม ECB, 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมัน (WTI) ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งยืนเหนือ $65 ขานรับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯของ EIA ที่ลดลง / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,200 จุด (+3.72%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 106.95 เหรียญต่อตัน (+0.42%)
สหรัฐฯคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ – สหรัฐฯประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ โดยคว่ำบาตรบริษัท 9 แห่ง, จนท.เกาหลีเหนือ 16 ราย, และเรือ 6 ลำ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
สถานการณ์ภาคอุตสาหกรรมไทยเดือน ธ.ค. - ส.อ.ท.เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือน ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 89.1 สูงสุดในรอบ 35 เดือน เพิ่มขึ้นจาก 87.0 ในเดือน พ.ย. // ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ธ.ค. โต 11.28% yoy แต่ทั้งปี 60 ลดลง 4.11% yoy **ตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 61 ที่ 2 ล้านคัน หรือขยายตัว 0.56% yoy // ปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์เดือน พ.ย. หดตัว 1.6% yoy แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. รับอุปสงค์งานซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วม
ผู้ผลิตกว่า 100 ราย ยืนยันไม่ปรับเพิ่มราคาสินค้าหลังปรับค่าแรงขั้นต่ำ – รมว.พาณิชย์เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ผลิตสินค้ากว่า 100 ราย หลังรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกวันละ 5-22 บาท โดยกลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยืนยันว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า เพราะส่วนใหญ่จ่ายค่าจ้างแรงงานสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว และยังได้ปรับเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคน
ประเด็นติดตาม: 25 ม.ค. EU – ประชุม ECB, 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน
OO4862
OO4862