- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 January 2018 16:26
- Hits: 13223
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตลาดยังสดใส
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ปัจจัยตลาดหุ้นไทยวันนี้ ค่าเงินบาทแข็ง เป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าจากถ้อยแถลงของ รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศ เช่น PTTGC, IRPC,PTT และผู้นำเข้าวัตถุดิบ เช่น TVO, GIFT, DDD และผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า ราคาข้าวดี เป็นผลบวกต่อธุรกิจลิสซิ่ง และผู้ให้บริการสินเชื่อ เช่น TK, MTLS, SINGER การลงทุนภาคเอกชนเดินหน้าในกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ทำให้ TTCL ได้รับงานเพิ่มจากสองผู้ประกอบการใหญ่คือทั้ง SCC และ PTTGC ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2560 เติบโตดีขึ้น 13.4% YoY คาดปี 2561 เติบโตต่ออีก 3.3% YoY เป็นผลบวกกับหุ้นกลุ่มยานยนต์
Stock
Comment
TK
เราคาดว่าเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาข้าวที่ดีขึ้น และเชื่อว่าราคาพืชผลการเกษตรอื่นจะมีราคาดีขึ้นในปี 2561 นี้
TTCL
การลงทุนภาคเอกชนเดินหน้าในกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ทำให้ TTCL ได้รับงานเพิ่มจากสองผู้ประกอบการใหญ่คือทั้ง SCC และ PTTGC นอกจากนี้คาดว่าจะโรงไฟฟ้าในเมียนมาร์ขนาดใหญ่ เริ่มมีความคืบหน้า คาดรู้ผลภายใน 1H61แม้จะล่าช้ากว่ากำหนดเดิม ณ สิ้นปี 2560
SAT
ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2560 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและสภาวะตลาดยานยนต์ที่ดีขึ้น เป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
หุ้นเด่นวันนี้ : TK (ราคาปิด 15.90 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าของ AWS 18.50 บาท)
เราคาดสินเชื่อของ TK จะเติบโตต่อเนื่องในระดับสูงที่ 15% ในปี 2561 ตามตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนโดยสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ภาคการเกษตรที่ขยายตัว ราคาพืชผลการเกษตรที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะข้าว และภาคส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง นอกเหนือจากตลาดในประเทศ สัดส่วนสินเชื่อในตลาดต่างประเทศของ TK คาดเร่งตัวเป็น 10% ในปีนี้ จาก 5% ในปี 2560 และ TK ตั้งเป้าในเชิงรุกจะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวเป็น 50% ในปี 2565 เราประมาณการ EPS จะเติบโต 17.2% ในปี 2560 และ 15.8% ในปี 2561
Price Pattern ของ TK ยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal รอเพียงความแข็งแกร่งระยะสั้นและกลางที่จะกลับมาอีกครั้งเท่านั้น โดย Price Pattern ของ TK จะกลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะสั้นจากการกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่หากปิดตลาดเหนือ 16 บาท และจะกลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะกลางจากการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่หากปิดตลาดรายสัปดาห์เหนือ 16 บาทเช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TK มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 16.20 บาท โดยหาก Price Pattern ของ TK สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 16.20 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 18.50 บาทเป็นลำดับต่อไป (Resistance: 16.00, 16.10, 16.30; Support: 15.80, 15.60, 15.50)
ปัจจัยในประเทศ :
ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ธ.ค. แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ 104,302 คัน เพิ่มขึ้น 20.1% YoY หนุนโดยงานมหกรรมยานยนต์ปี 2560 และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้ยอดขายรถยนต์รวมปี 2560 อยู่ที่ 871,650 คัน เพิ่มขึ้น 13.4% YoY นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2561 อยู่ที่ 900,000 คัน (+3.3%) และคาดการณ์จำนวนการผลิตรถยนต์ปีนี้ที่ 2 ล้านคัน (+0.6%) (ไทยโพสต์/บางกอกโพสต์) ความเห็น: ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2560 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและสภาวะตลาดยานยนต์ที่ดีขึ้น เป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. แตะระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน ที่ 89.1 เพิ่มขึ้นจาก 87.0 ในเดือน พ.ย. หนุนโดยยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งของขวัญและของฝากปีใหม่ เป็นไปตามช่วงไฮซีซั่นของการจับจ่ายช่วงสิ้นปี (ไทยโพสต์)
ราคาข้าวไทยโดยเฉพาะหอมมะลิปรับตัวตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้: เมื่อปี 2560 พ่อค้า-โรงสี รับซื้อข้าวสดจากเกษตรกรที่ราคาตันละ 7,000 – 8,000.- บาท แต่ตั้งแต่ต้นปี 2561 พ่อค้า-โรงสีปรับราคารับซื้อข้าวสดสูงถึงตันละ 11,000 บาท แต่พอมาช่วงวานนี้ มีการประกาศเปิดรับซื้อข้าวโดยสหกรณ์ของธนาคาร ธกส.ให้ราคาตันละ 17,000.-บาท แล้ว (กรุงเทพธุรกิจ) ความเห็น: ราคาข้าวที่ดีขึ้นคาดว่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นในปี 2561 หุ้นแนะนำสำหรับกรณีนี้ เลือกเป็น TK, MTLS, SINGER
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งรวมถึงหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ขณะที่ ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ได้กล่าวออกมาส่งสัญญาณว่า สหรัฐอาจใช้มาตรการเพื่อตอบโต้จีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งรวมถึงสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดหุ้นยุโรป : ปิดลบได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจาก รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้ การแข็งค่าของยูโรส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ
ตลาดหุ้นลอนดอน : ปิดร่วงลง หลังจากเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : ปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 65.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2557น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 70.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2557
ราคาทองคำ : ปิดพุ่งขึ้น 19.6 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 1,356.30 ดอลลาร์/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ : อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอสเมื่อวานนี้ว่า การที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
BDI: ดัชนีค่าระวางเรือ ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,200 จุด เพิ่มขึ้น 43 จุด เป็นการปรับตัวขึ้น 3 วันทำการติดต่อกัน
Thailand Research Department
Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 0-2680-5094
OO4861