- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 January 2018 18:57
- Hits: 5394
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 4Q17 ทำ All Time High
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways สลับบวกลบตลอดทั้งวันเนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยตลาดยังจับตาการลงมติผ่านร่วงกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของฝั่งสหรัฐฯเพื่อหยุดการปิดหน่วยงานราชการ ขณะที่กลุ่มธนาคารบ้านเรายังกดดันตลาดหลังผลการดำเนินงานโดยรวมแย่กว่าคาด นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 459 ลบ. (แต่ Net Long ใน Index Futures 9,483 สัญญา) ขณะที่สถาบันพลิกมาซื้อสุทธิ 1,199 ลบ.หลังจากขายค่อนข้างหนักในวันก่อนหน้า
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้นหลังสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวและยุติการปิดหน่วยงานราชการจนถึง 8 ก.พ. ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดยังคงต้องจับตาผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ในฝั่ง Real Sector ที่จะทยอยประกาศว่าจะเป็นไปตามคาดหรือไม่ ซึ่งหากยังคงสร้างความผิดหวังเช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารเชื่อว่าน่าจะเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมากดดันและทำให้ตลาดพักฐาน ซึ่งเรามองเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่คืน ส่วนระยะนี้เรายังมองว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีแนวโน้มกำไร 4Q17 แข็งแกร่งน่าจะ Outperform ตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดมีกำไร 4Q17 ทำ All Time High//ทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$109ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$234ล้าน และไทย US$14ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$131ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาคหลังสภาฯสหรัฐได้ร่างกฏหมายงบประมาณสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า BOJ ที่จะประชุมในวันนี้จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTLS <<
คาดกำไร 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 680-700 ลบ. +5-8% Q-Q, +40-45% Y-Y จาก High Season ของการปล่อยสินเชื่อ เพราะเป็นทั้งฤดูเก็บเกี่ยวและการใช้จ่ายปลายปี
คาดกำไรทั้งปี 2017 +67% Y-Y อยู่ที่ 2.44 พันลบ. ส่วนปีนี้คาด 3.4 พันลบ. +40% Y-Y จากสินเขื่อที่คาด +50% Y-Y ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเปิดสาขาใหม่ที่ยังเป็นเชิงรุก โดยคาดว่าจะหนุนให้ ROE ยืนเหนือ 30% ในปี 2018-2020 สูงสุดในกลุ่ม ส่วน NPL ยังต่ำเพียง 1%
MTLS เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่เราคาดกำไรทั้ง 4Q17 และปี 2017 จะทำ All Time High แต่ราคาหุ้นยังไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะนี้ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 48 บาท
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 4Q17 ทำ All Time High
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways สลับบวกลบตลอดทั้งวันเนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยตลาดยังจับตาการลงมติผ่านร่วงกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของฝั่งสหรัฐฯเพื่อหยุดการปิดหน่วยงานราชการ ขณะที่กลุ่มธนาคารบ้านเรายังกดดันตลาดหลังผลการดำเนินงานโดยรวมแย่กว่าคาด นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 459 ลบ. (แต่ Net Long ใน Index Futures 9,483 สัญญา) ขณะที่สถาบันพลิกมาซื้อสุทธิ 1,199 ลบ.หลังจากขายค่อนข้างหนักในวันก่อนหน้า
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้นหลังสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวและยุติการปิดหน่วยงานราชการจนถึง 8 ก.พ. ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดยังคงต้องจับตาผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ในฝั่ง Real Sector ที่จะทยอยประกาศว่าจะเป็นไปตามคาดหรือไม่ ซึ่งหากยังคงสร้างความผิดหวังเช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารเชื่อว่าน่าจะเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมากดดันและทำให้ตลาดพักฐาน ซึ่งเรามองเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่คืน ส่วนระยะนี้เรายังมองว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีแนวโน้มกำไร 4Q17 แข็งแกร่งน่าจะ Outperform ตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดมีกำไร 4Q17 ทำ All Time High//ทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$109ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$234ล้าน และไทย US$14ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$131ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาคหลังสภาฯสหรัฐได้ร่างกฏหมายงบประมาณสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า BOJ ที่จะประชุมในวันนี้จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTLS <<
คาดกำไร 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 680-700 ลบ. +5-8% Q-Q, +40-45% Y-Y จาก High Season ของการปล่อยสินเชื่อ เพราะเป็นทั้งฤดูเก็บเกี่ยวและการใช้จ่ายปลายปี
คาดกำไรทั้งปี 2017 +67% Y-Y อยู่ที่ 2.44 พันลบ. ส่วนปีนี้คาด 3.4 พันลบ. +40% Y-Y จากสินเขื่อที่คาด +50% Y-Y ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเปิดสาขาใหม่ที่ยังเป็นเชิงรุก โดยคาดว่าจะหนุนให้ ROE ยืนเหนือ 30% ในปี 2018-2020 สูงสุดในกลุ่ม ส่วน NPL ยังต่ำเพียง 1%
MTLS เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่เราคาดกำไรทั้ง 4Q17 และปี 2017 จะทำ All Time High แต่ราคาหุ้นยังไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะนี้ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 48 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) หุ้นที่คาดกำไร 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ เราประเมินว่าหุ้นที่กำไร 4Q17 และกำไรทั้งปี 2017 ทำ All Time High จะ Outperform ตลาดในระยะนี้ได้ ซึ่งได้แก่ CPALL HMPRO M ASAP K TK ATP30 ORI TACC และ MTLS โดยหุ้นที่ราคายังไม่ทำ All Time High และ Valuation ยังไม่ตึงตัวคือ K TK ATP30 TACC และ MTLS
(+) SCB การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารสร้างเซอร์ไพรส์ให้เราผ่านกลยุทธ์ Upside Down หรือ กลับหัวตีลังกา ซึ่งจะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของระบบธนาคารอย่างมีนัยสำคัญในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยเน้นการเดินหน้าสู่ Digital Banking การทำธุรกรรมผ่านสาขาน้อยลง และปรับเปลี่ยนเป็น Service center และ Business Center รวมถึงการปรับรูปแบบการทำธุรกิจเป็น Banking Platform กระบวนการดังกล่าวทำให้ต้นทุนการดำเนินงานจะลดลงอย่างมาก ผ่านการลดสาขาลงเหลือเพียง 1 ใน 4 และลดจำนวนพนักงานลงครึ่งหนึ่ง เรามองเป็นบวกต่อแนวทางดังกล่าว แต่ในระยะสั้นยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนระบบ IT เราจึงคงประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมที่ 160 บาท คงคำแนะนำถือ
(-) KTB รายงานกำไร 4Q17 น่าผิดหวังที่ 4.82 พันลบ. -18% Q-Q, -35% Y-Y เนื่องจากการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาด NPL ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่หากไม่นับการ Write-off แล้วจะเห็น NPL ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการเป็นหนี้ NPL ในกลุ่มลูกหนี้ขนาดใหญ่รายหนึ่ง การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารระบุถึงเป้าหมายทางการเงินที่เป็นกลาง เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 2.4 หมื่นลบ. +7.6% Y-Y โดยคาดว่าการตั้งสำรองฯในปี 2018 ยังอยู่ในระดับสูงต่อไปจากปริมาณ NPL ที่ยังสูงกว่ากลุ่ม คงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 22 บาท แนะนำถือ หรือ Switch เป็น BBL และ KBANK
(+) TKN คาดกำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 185 ลบ. (+15.6% Q-Q, -21% Y-Y) ที่คาดโตดี Q-Q จากทั้งปัจจัยฤดูกาล และการทยอยเพิ่มการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ แต่ที่คาดชะลอ Y-Y เพราะต้นทุนสาหร่ายที่ปรับขึ้น และโรงงานใหม่ยังไม่ได้ Economies of Scale เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2017 - 2018 ลง 3% และ 8% เป็น -16.7% Y-Y และ +42.6% Y-Y ตามลำดับ จากการเพิ่มการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่และการขยายกำลังการผลิตเฟส 3 ที่ช้ากว่าคาด ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลงลงเป็น 24 บาท จาก 27 บาท แต่ด้วยแนวโน้มกำไรปีนี้ที่จะฟื้นกลับเร็วตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อและต้นทุนสาหร่ายที่ลดลง อีกทั้ง ราคาหุ้นยังมี Upside 17% จึงคงคำแนะนำซื้อ
(+) PT-SVOA แผนการลงทุนที่เข้มข้นของ SCB ซึ่งสะท้อนภาพการลงทุนของกลุ่มสถาบันการเงินทั้งแบงก์ ประกัน และลิซซิ่งที่น่าจะเหมือนกันทั้งระบบ เป็นบวกต่อผู้วางระบบไอทีโดยตรง ซึ่งปริมาณการงานที่มาก นอกจากจะยกฐานรายได้แล้ว ยังส่งผลดีต่ออัตรากำไรจากการแข่งขันที่ลดลง เราชอบ SVOA (ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) จากการเป็นผู้วางระบบ Payment Solution และ PT (ราคาเป้าหมาย 8.80) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ Banking Application และระบบรักษาความปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23 ม.ค.- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
24 ม.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค. 17) ยอดผลิตรถยนต์ (ธ.ค. 17)
- เกาหลีใต้: 4Q17 GDP คาด 4.5% จากงวดก่อน 3.8%
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
25 ม.ค.- ยูโรโซน: ประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค. 17)
26 ม.ค.- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP คาด 3% จากงวดก่อน 3.2%
1 ก.พ- จีน: Caixin PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ม.ค. 18) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (ม.ค. 18)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังพุ่งขึ้นต่อเนื่องหลังสภาคองเรสสามารถผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวและยุติการปิดหน่วยงานราชการออกไปได้จนถึง 8 ก.พ.
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่โดยตลาดพยายามมองข้ามประเด็นการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ รวมถึงฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนขึ้น
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้สำเร็จ
(+) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวค่อนไปในทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.87 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ขยับขึ้น 0.12 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 63.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังซาอุดิอาระเบียออกมาสนับสนุนให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายเวลาปรับลดการผลิตออกไปถึงปี 2019 อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นจำกัดหลังแหล่งผลิตน้ำมันในลิเบียกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 1.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,331.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสหรัฐฯสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้สำเร็จ
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO4763
(+) หุ้นที่คาดกำไร 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ เราประเมินว่าหุ้นที่กำไร 4Q17 และกำไรทั้งปี 2017 ทำ All Time High จะ Outperform ตลาดในระยะนี้ได้ ซึ่งได้แก่ CPALL HMPRO M ASAP K TK ATP30 ORI TACC และ MTLS โดยหุ้นที่ราคายังไม่ทำ All Time High และ Valuation ยังไม่ตึงตัวคือ K TK ATP30 TACC และ MTLS
(+) SCB การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารสร้างเซอร์ไพรส์ให้เราผ่านกลยุทธ์ Upside Down หรือ กลับหัวตีลังกา ซึ่งจะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของระบบธนาคารอย่างมีนัยสำคัญในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยเน้นการเดินหน้าสู่ Digital Banking การทำธุรกรรมผ่านสาขาน้อยลง และปรับเปลี่ยนเป็น Service center และ Business Center รวมถึงการปรับรูปแบบการทำธุรกิจเป็น Banking Platform กระบวนการดังกล่าวทำให้ต้นทุนการดำเนินงานจะลดลงอย่างมาก ผ่านการลดสาขาลงเหลือเพียง 1 ใน 4 และลดจำนวนพนักงานลงครึ่งหนึ่ง เรามองเป็นบวกต่อแนวทางดังกล่าว แต่ในระยะสั้นยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนระบบ IT เราจึงคงประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมที่ 160 บาท คงคำแนะนำถือ
(-) KTB รายงานกำไร 4Q17 น่าผิดหวังที่ 4.82 พันลบ. -18% Q-Q, -35% Y-Y เนื่องจากการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาด NPL ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่หากไม่นับการ Write-off แล้วจะเห็น NPL ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการเป็นหนี้ NPL ในกลุ่มลูกหนี้ขนาดใหญ่รายหนึ่ง การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารระบุถึงเป้าหมายทางการเงินที่เป็นกลาง เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 2.4 หมื่นลบ. +7.6% Y-Y โดยคาดว่าการตั้งสำรองฯในปี 2018 ยังอยู่ในระดับสูงต่อไปจากปริมาณ NPL ที่ยังสูงกว่ากลุ่ม คงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 22 บาท แนะนำถือ หรือ Switch เป็น BBL และ KBANK
(+) TKN คาดกำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 185 ลบ. (+15.6% Q-Q, -21% Y-Y) ที่คาดโตดี Q-Q จากทั้งปัจจัยฤดูกาล และการทยอยเพิ่มการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ แต่ที่คาดชะลอ Y-Y เพราะต้นทุนสาหร่ายที่ปรับขึ้น และโรงงานใหม่ยังไม่ได้ Economies of Scale เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2017 - 2018 ลง 3% และ 8% เป็น -16.7% Y-Y และ +42.6% Y-Y ตามลำดับ จากการเพิ่มการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่และการขยายกำลังการผลิตเฟส 3 ที่ช้ากว่าคาด ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลงลงเป็น 24 บาท จาก 27 บาท แต่ด้วยแนวโน้มกำไรปีนี้ที่จะฟื้นกลับเร็วตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อและต้นทุนสาหร่ายที่ลดลง อีกทั้ง ราคาหุ้นยังมี Upside 17% จึงคงคำแนะนำซื้อ
(+) PT-SVOA แผนการลงทุนที่เข้มข้นของ SCB ซึ่งสะท้อนภาพการลงทุนของกลุ่มสถาบันการเงินทั้งแบงก์ ประกัน และลิซซิ่งที่น่าจะเหมือนกันทั้งระบบ เป็นบวกต่อผู้วางระบบไอทีโดยตรง ซึ่งปริมาณการงานที่มาก นอกจากจะยกฐานรายได้แล้ว ยังส่งผลดีต่ออัตรากำไรจากการแข่งขันที่ลดลง เราชอบ SVOA (ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) จากการเป็นผู้วางระบบ Payment Solution และ PT (ราคาเป้าหมาย 8.80) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ Banking Application และระบบรักษาความปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23 ม.ค.- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
24 ม.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค. 17) ยอดผลิตรถยนต์ (ธ.ค. 17)
- เกาหลีใต้: 4Q17 GDP คาด 4.5% จากงวดก่อน 3.8%
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
25 ม.ค.- ยูโรโซน: ประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค. 17)
26 ม.ค.- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP คาด 3% จากงวดก่อน 3.2%
1 ก.พ- จีน: Caixin PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ม.ค. 18) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (ม.ค. 18)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังพุ่งขึ้นต่อเนื่องหลังสภาคองเรสสามารถผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวและยุติการปิดหน่วยงานราชการออกไปได้จนถึง 8 ก.พ.
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่โดยตลาดพยายามมองข้ามประเด็นการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ รวมถึงฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนขึ้น
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้สำเร็จ
(+) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวค่อนไปในทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.87 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ขยับขึ้น 0.12 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 63.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังซาอุดิอาระเบียออกมาสนับสนุนให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายเวลาปรับลดการผลิตออกไปถึงปี 2019 อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นจำกัดหลังแหล่งผลิตน้ำมันในลิเบียกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 1.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,331.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสหรัฐฯสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้สำเร็จ
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO4763