- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 16 January 2018 16:58
- Hits: 1444
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าคาดนำโดยขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงแรงเก็งกำไรในกลุ่มธนาคารก่อนที่จะประกาศผลการดำเนินงาน 4Q17 ในสัปดาห์นี้ สถาบันในประเทศยังคงเป็นฝ่ายซื้อสุทธิฝ่ายเดียวถึง 3,751 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,480 ลบ. (แต่ยัง Net Long ใน Index Futures ถึง 9,535 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways โดยเริ่มขาด Sentiment เชิงบวกหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานยังคงหนุนตลาดจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันขาขึ้น ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค.นี้ซึ่งหากออกมาไม่ได้ดีกว่าที่คาด มีโอกาสที่จะถูก Sell On Fact และทำให้ตลาดเกิดการพักฐาน ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่อีกครั้ง ขณะที่ระยะสั้นเรามองว่าหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่ง//ทยอยซื้อหุ้นใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$430ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$187ล้าน ขณะที่ไหลออกไทยเพียงประเทศเดียว US$46ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคก่อนเข้าสู่ Earnings Season
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SC <<
คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ทำจุดสูงสุดของปี +106% Q-Q, +184% Y-Y เป็น 747 ลบ. จาก Backlog ที่คาดรับรู้ในไตรมาสนี้ราว 3 พันลบ. ขณะที่กำไรทั้งปี 2017 คาด -26% Y-Y ก่อนกลับมาโต +38-43% Y-Y ในปีนี้ โดยมีแรงหนุนจากการโอนคอนโด Luxury 2 โครงการอย่าง Saladaeng One มูลค่า 4.7 พันลบ. และ Beatniq มูลค่า 4 พันลบ.
Valuation น่าสนใจ ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018 เพียง 8-8.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 12 เท่า ประกอบกับระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากกำไร 4Q17 ที่โตเด่น และยอด Presale ที่โตแรงสุดในกลุ่ม
แนะนำซื้อ โดยประมาณการเบื้องต้นของเราถ้าอิง PE 10 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 4.70-5.00 บาท ซึ่งคิดเป็น PEG เพียง 0.2 เท่า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีแข็งค่ามาแล้ว 2% มากกว่าภูมิภาคที่แข็งค่าเฉลี่ย 0.5% จากเงินที่ไหลเข้าตราสารหนี้ โดยต่างชาติซื้อสุทธิไป 7.5 หมื่นลบ. มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 4 เท่าตัว ในระยะสั้นค่าเงินบาทยังแข็งค่าได้อีก เป็นผลบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ เกษตรอาหาร ยานยนต์ และ EPG, VNG, STA, SITHAI, THCOM ส่วนกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากต้นทุนนำเข้าที่ลดลงเช่น โรงกลั่น กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มเหล็ก และกลุ่มนำเข้าสินค้าไอที เป็นต้น
(+) MINT เราคาดกำไรปกติ 4Q17 +37.9% Q-Q, +16.9% Y-Y จาก High Season ของธุรกิจโรงแรมในไทย และส่งผลให้กำไรปกติปี 2017 +17.5% Y-Y ขณะที่ภาพการเติบโตในปี 2018 ยังคงสดใสจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ยังเป็นขาขึ้น ส่วนธุรกิจอาหารได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภค ทำให้กำไรปกติปี 2018 คาดว่ายังเดินหน้าทำ New High ต่อเนื่อง +20.8% Y-Y เรายังคงราคาเหมาะสมที่ 48 บาท คงคำแนะนำซื้อ และยังให้เป็น Top Pick ของกลุ่ม
(0) TISCO เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 7.18 พันลบ. +18% Y-Y จากคาดการณ์การตั้งสำรองฯหนี้สูญลดลง และรับรู้รายได้จากพอร์ตสินเชื่อ SCBT เต็มปี อย่างไรก็ตามเนื่องจากระดับเงินกองทุนของธนาคารแทบไม่กระทบจากการับโอนพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT (ล่าสุด CAR > 20% สูงสุดในกลุ่ม) ทำให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์เงินปันผลเป็น 4.20 บาท/หุ้น Yield 4.6% แม้เรายังคงมุมมองเชิงบวก แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาซื้อขายที่ระดับบนของ Historical PBV และเหลือ Upside น้อยลง จึงคงคำแนะนำถือ และคงราคาเป้าหมายที่ 98 บาท
(+) MALEE มองกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปี 2017 โดยคาดกำไรสุทธิ 4Q17 น่าจะทรงตัว Q-Q และ -32.5% Y-Y เพราะกระบวนการตรวจสอบคุณภาพน้ำมะพร้าวเพิ่งปรับปรุงเสร็จเมื่อปลาย 4Q17 และคาดมีค่าใช้จ่ายทำ R&D สินค้าใหม่ รวมถึงอาจมีปรับปรุงรายการทางบัญชีของบริษัทร่วมที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจนำไปสู่การรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนที่สูงขึ้น แต่คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปีนี้ ทั้งจากการกลับมาผลิตน้ำมะพร้าวได้เต็มที่ และขยายตลาดสินค้า Brand ในต่างประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ทั้งนี้เรามีการปรับลดกำไรสุทธิปี 2018 ลง 2.7% เป็น +63.2% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 45 บาท จากเดิม 46.5 บาท ยังมี Upside 25% ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(+) BIG ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 52% จากจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี มาจากผลประกอบการ 9M17 ที่ชะลอตามกำลังซื้อ แต่ด้วยตลาดกล้อง Mirrorless ที่ยังโตในระดับ 10-15% ต่อปี ซึ่งสะท้อนว่ามือถือที่มีพัฒนาการดีขึ้นมาก ยังไม่สามารถทดแทนตลาดผู้ใช้กล้องได้ ในทางตรงข้าม ตั้งแต่ 4Q17 จะเริ่มเห็นกำไรฟื้นตัวชัดเจน จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ, การปรับกลยุทธ์ทำตลาดแบบ exclusive ร่วมกับผู้ผลิต, และผลประกอบการของ BIG Mobile ที่เริ่มมีกำไร เรามองราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากกว่ากำไรสุทธิปี 2017 ที่คาด -24% Y-Y สะท้อนภาพลบมากเกินไป ขณะที่ ปี 2018 คาด +19% Y-Y อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับประมาณการปีนี้ลง ทำให้ราคาเป้าหมายลดลงจาก 5.00 บาท เหลือ 4.30 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าคาดนำโดยขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงแรงเก็งกำไรในกลุ่มธนาคารก่อนที่จะประกาศผลการดำเนินงาน 4Q17 ในสัปดาห์นี้ สถาบันในประเทศยังคงเป็นฝ่ายซื้อสุทธิฝ่ายเดียวถึง 3,751 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,480 ลบ. (แต่ยัง Net Long ใน Index Futures ถึง 9,535 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways โดยเริ่มขาด Sentiment เชิงบวกหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานยังคงหนุนตลาดจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันขาขึ้น ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค.นี้ซึ่งหากออกมาไม่ได้ดีกว่าที่คาด มีโอกาสที่จะถูก Sell On Fact และทำให้ตลาดเกิดการพักฐาน ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่อีกครั้ง ขณะที่ระยะสั้นเรามองว่าหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่ง//ทยอยซื้อหุ้นใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$430ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$187ล้าน ขณะที่ไหลออกไทยเพียงประเทศเดียว US$46ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคก่อนเข้าสู่ Earnings Season
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SC <<
คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ทำจุดสูงสุดของปี +106% Q-Q, +184% Y-Y เป็น 747 ลบ. จาก Backlog ที่คาดรับรู้ในไตรมาสนี้ราว 3 พันลบ. ขณะที่กำไรทั้งปี 2017 คาด -26% Y-Y ก่อนกลับมาโต +38-43% Y-Y ในปีนี้ โดยมีแรงหนุนจากการโอนคอนโด Luxury 2 โครงการอย่าง Saladaeng One มูลค่า 4.7 พันลบ. และ Beatniq มูลค่า 4 พันลบ.
Valuation น่าสนใจ ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018 เพียง 8-8.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 12 เท่า ประกอบกับระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากกำไร 4Q17 ที่โตเด่น และยอด Presale ที่โตแรงสุดในกลุ่ม
แนะนำซื้อ โดยประมาณการเบื้องต้นของเราถ้าอิง PE 10 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 4.70-5.00 บาท ซึ่งคิดเป็น PEG เพียง 0.2 เท่า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีแข็งค่ามาแล้ว 2% มากกว่าภูมิภาคที่แข็งค่าเฉลี่ย 0.5% จากเงินที่ไหลเข้าตราสารหนี้ โดยต่างชาติซื้อสุทธิไป 7.5 หมื่นลบ. มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 4 เท่าตัว ในระยะสั้นค่าเงินบาทยังแข็งค่าได้อีก เป็นผลบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ เกษตรอาหาร ยานยนต์ และ EPG, VNG, STA, SITHAI, THCOM ส่วนกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากต้นทุนนำเข้าที่ลดลงเช่น โรงกลั่น กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มเหล็ก และกลุ่มนำเข้าสินค้าไอที เป็นต้น
(+) MINT เราคาดกำไรปกติ 4Q17 +37.9% Q-Q, +16.9% Y-Y จาก High Season ของธุรกิจโรงแรมในไทย และส่งผลให้กำไรปกติปี 2017 +17.5% Y-Y ขณะที่ภาพการเติบโตในปี 2018 ยังคงสดใสจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ยังเป็นขาขึ้น ส่วนธุรกิจอาหารได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภค ทำให้กำไรปกติปี 2018 คาดว่ายังเดินหน้าทำ New High ต่อเนื่อง +20.8% Y-Y เรายังคงราคาเหมาะสมที่ 48 บาท คงคำแนะนำซื้อ และยังให้เป็น Top Pick ของกลุ่ม
(0) TISCO เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 7.18 พันลบ. +18% Y-Y จากคาดการณ์การตั้งสำรองฯหนี้สูญลดลง และรับรู้รายได้จากพอร์ตสินเชื่อ SCBT เต็มปี อย่างไรก็ตามเนื่องจากระดับเงินกองทุนของธนาคารแทบไม่กระทบจากการับโอนพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT (ล่าสุด CAR > 20% สูงสุดในกลุ่ม) ทำให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์เงินปันผลเป็น 4.20 บาท/หุ้น Yield 4.6% แม้เรายังคงมุมมองเชิงบวก แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาซื้อขายที่ระดับบนของ Historical PBV และเหลือ Upside น้อยลง จึงคงคำแนะนำถือ และคงราคาเป้าหมายที่ 98 บาท
(+) MALEE มองกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปี 2017 โดยคาดกำไรสุทธิ 4Q17 น่าจะทรงตัว Q-Q และ -32.5% Y-Y เพราะกระบวนการตรวจสอบคุณภาพน้ำมะพร้าวเพิ่งปรับปรุงเสร็จเมื่อปลาย 4Q17 และคาดมีค่าใช้จ่ายทำ R&D สินค้าใหม่ รวมถึงอาจมีปรับปรุงรายการทางบัญชีของบริษัทร่วมที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจนำไปสู่การรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนที่สูงขึ้น แต่คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปีนี้ ทั้งจากการกลับมาผลิตน้ำมะพร้าวได้เต็มที่ และขยายตลาดสินค้า Brand ในต่างประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ทั้งนี้เรามีการปรับลดกำไรสุทธิปี 2018 ลง 2.7% เป็น +63.2% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 45 บาท จากเดิม 46.5 บาท ยังมี Upside 25% ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(+) BIG ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 52% จากจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี มาจากผลประกอบการ 9M17 ที่ชะลอตามกำลังซื้อ แต่ด้วยตลาดกล้อง Mirrorless ที่ยังโตในระดับ 10-15% ต่อปี ซึ่งสะท้อนว่ามือถือที่มีพัฒนาการดีขึ้นมาก ยังไม่สามารถทดแทนตลาดผู้ใช้กล้องได้ ในทางตรงข้าม ตั้งแต่ 4Q17 จะเริ่มเห็นกำไรฟื้นตัวชัดเจน จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ, การปรับกลยุทธ์ทำตลาดแบบ exclusive ร่วมกับผู้ผลิต, และผลประกอบการของ BIG Mobile ที่เริ่มมีกำไร เรามองราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากกว่ากำไรสุทธิปี 2017 ที่คาด -24% Y-Y สะท้อนภาพลบมากเกินไป ขณะที่ ปี 2018 คาด +19% Y-Y อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับประมาณการปีนี้ลง ทำให้ราคาเป้าหมายลดลงจาก 5.00 บาท เหลือ 4.30 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18ม.ค.- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ BBL, SCB, KTB, BAY, TMB, TCAP
19ม.ค.- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ KBANK, KKP- สหรัฐฯ: การขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ
21 ม.ค.- ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปก
23 ม.ค.- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJคาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
25 ม.ค.- ยูโรโซน: ประชุม ECBคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
26 ม.ค.- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกลบหลังคาริลเลียนซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของอังกฤษล้มละลาย นอกจากนี้ยังกัวลเกี่ยวกับ ECB ที่อาจยุติ QE หลังเดือน ก.ย.
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัวออกด้านข้างหลังพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้า และเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่
(-) ค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย โดยปัจจุบันเคลื่อนไหวบริเวณ 32.00 บาท/ดอลลาร์
(0) น้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO4524
19ม.ค.- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ KBANK, KKP- สหรัฐฯ: การขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ
21 ม.ค.- ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปก
23 ม.ค.- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJคาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
25 ม.ค.- ยูโรโซน: ประชุม ECBคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
26 ม.ค.- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกลบหลังคาริลเลียนซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของอังกฤษล้มละลาย นอกจากนี้ยังกัวลเกี่ยวกับ ECB ที่อาจยุติ QE หลังเดือน ก.ย.
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัวออกด้านข้างหลังพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้า และเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่
(-) ค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย โดยปัจจุบันเคลื่อนไหวบริเวณ 32.00 บาท/ดอลลาร์
(0) น้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO4524
