WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SEC ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 4 รายสร้างราคาหุ้น TAPAC เรียกชำระค่าปรับ 3.1 ลบ.

       สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 4 ราย ประกอบด้วย (1) นายสุรชัย สุวรรธนะกุล (2) นางอรทัย แซ่ตั้ง  (3) นายสมศักดิ์ สราวุธวัฒนากร และ (4) นางสาวพิชญฎา พิชญรมณ์ (เดิมชื่อนางสาวสุธาสินี นันทภัคประสิทธิ์) กรณีสร้างราคาหุ้น บมจ.ทาพาโก้ (TAPAC) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 3,135,871.25 บาท

       ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) จึงตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึง 17 มีนาคม 2558  นายสุรชัย นายสมศักดิ์ และนางอรทัย ซึ่งเป็นลูกค้า ได้ร่วมกับนางสาวพิชญฎาซึ่งขณะกระทำผิดเป็นผู้แนะนำการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง สร้างราคาหุ้น TAPAC โดยส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น TAPAC ในลักษณะกระตุ้นให้ราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหว โดยกำหนดกรอบราคาให้นักลงทุนซื้อขาย ด้วยการจับคู่ซื้อขายกันภายในกลุ่มในราคาต่ำ ทำให้นักลงทุนหลงผิดไปว่าหุ้น TAPAC มีการซื้อขายมาก หรือมีราคาเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้การซื้อขายหุ้น TAPAC ไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด

      การกระทำของบุคคลทั้ง 4 ราย เป็นการสร้างราคาหุ้น TAPAC เป็นความผิดตามมาตรา  243(1) ประกอบมาตรา 244 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

      คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่งนำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับใช้กับผู้กระทำผิด และผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย ได้ทำบันทึกยินยอมรับมาตรการลงโทษทางแพ่งและปฏิบัติตามบันทึกยินยอมดังกล่าวครบถ้วนแล้ว โดยนายสุรชัยชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 1,635,871.25 บาท ส่วนนางอรทัย นายสมศักดิ์ และนางสาวพิชญฎา ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท  ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งนี้ เป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. นำส่งกระทรวงการคลัง

       นอกจากการถูกลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว ก.ล.ต. สั่งห้ามนายสุรชัย และนายสมศักดิ์ เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน เป็นเวลา 2 ปี และ 1 ปี ตามลำดับด้วย

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!