WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SEC Rapee copyก.ล.ต.เดินหน้าทำความเข้าใจพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯใหม่ ยันไม่กระทบการลงทุน จัดสัมมนาทำความเข้าใจ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่ 17 ต.ค.นี้

      นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สัมภาษณ์ภายในงานสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ และ นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการและสื่อสารองค์กร ก.ล.ต. ร่วมให้ข้อมูล ก.ล.ต.จับมือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย จัดสัมมนาทำความเข้าใจ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่ 17 ต.ค.นี้ ยันพ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่ไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย สาระสำคัญ ดังนี้

     นายรพี กล่าวว่า ทาง ก.ล.ต.จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่แก่สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ส่วนกรณีที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมีความกังวลเรื่องการให้ข่าวนั้น ทางก.ล.ต.จะมีการจัดทำวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บใหม่ เพื่อให้เลขานุการของบริษัทนำไปเปิดให้แก่กรรมการบริษัทดูเพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้นว่าเรื่องไหนพูดได้พูดไม่ได้ แต่กฎหมายใหม่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง หลักสำคัญคือการเปิดเผยข้อมูลภายใน ซึ่งหากข้อมูลภายในที่ยังไม่ได้เปิดเผยแก่สาธารณชนเป็นการทั่วไปก็ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนตัวเชื่อว่า พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่จะไม่มีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

   "ก.ล.ต.จะมีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับพ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่แก่กรรมการ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ผู้บริหาร บจ.มีความกังวลในเรื่องการให้ข่าวนั้น ซึ่งหลักคือเรื่องการเปิดเผยข้อมูลภายใน ซึ่งหากยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนก็ไม่สามารถนำมาพูดได้ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพราะ ตลท.เองมีเกณฑ์อยู่แล้ว แต่เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้น ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการทำวิดีโอเพื่อให้เลขานุการเปิดให้กรรมการและผู้บริหารของ บจ.ได้ดู เพื่อที่ปฏิบัติได้ถูกต้อง"

      นายปริย ระบุ ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ทางก.ล.ต.ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์และสมาคมบจ. จัดสัมมนาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และเลขานุการของบริษัทจดทะเบียน เพื่อจะได้มีความเข้าใจมากขึ้น

ร่าง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ฉบับผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว สุดเข้ม ห้ามเทรดไม่เกิน 5 ปี หากพบกระทำไม่เป็นธรรมซื้อขายหุ้น

    พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่สุดเข้ม ขึ้นบัญชีดำห้ามเทรดหุ้นไม่เกิน 5 ปี หากพบกระทำไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับซื้อขายหุ้น ให้ข้อมูลเท็จ หรือยอมให้บุคคลอื่นมาใช้บัญชีหุ้นซื้อขาย หรือใช้บัญชีคนอื่นซื้อขายหุ้น

     สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ร่าง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แล้วว่า จะนำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับผู้ที่กระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกแจ้งในสาระสำคัญ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการหรือผู้บริหาร และยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีซื้อขายหุ้นหรือบัญชีธนาคารที่ใช้ชำระค่าหุ้น หรือให้บัญชีซื้อหุ้นหรือบัญชีธนาคารของบุคคลอื่น

    ผู้กระทำผิดตามข้อกฎหมายดังกล่าวจะถูกดำเนินค่าปรับ ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ ห้ามเข้าซื้อขายในหุ้น หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าภายในระยะเวลากำหนดซึ่งต้องไม่เกิน 5 ปี ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ ภายในระยะเวลาที่กำหนดซึ่งต้องไม่เกิน 10 ปี

       ทั้งนี้ บทลงโทษทางแพ่งจะพิจารณาโดยคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยมีอัยการสูงสุด เป็นประธานกรรมการ และกรรมการจะประกอบไปด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กรณีคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง เห็นควรให้ลงโทษทางแพ่งต่อผู้กระทำผิด และผู้กระทำผิดยินยอมชำระเงินครบถ้วน ให้สิทธิการดำเนินคดีอาญาเป็นอันระงับ

     นอกจากนี้ในพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ยังห้ามไม่ให้บุคคลใดให้คำรับรองข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ราคาหุ้น หรือข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น

        รวมไปถึงห้ามไม่ให้บุคคลใดวิเคราะห์ หรือคาดการณ์ฐานะการเงินผลดำเนินงาน ราคาหุ้น หรือข้อมูลเกี่ยวกับบจ. โดยนำข้อมูลที่รู้ว่าเป็นเท็จหรือไม่ครบถ้วนมาใช้ในการวิเคราะห์หรือคาดการณ์ และเปิดเผยหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับการวิเคราะห์หรือคาดการณ์นั้นต่อประชาชน ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น

พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯใหม่ 2559

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!