- Details
- Category: กลต.
- Published: Saturday, 06 June 2015 21:32
- Hits: 2038
เลขาฯก.ล.ต.ลั่นปรับเกณฑ์แก้หุ้นร้อน-โครงสร้างที่เอื้อทำผิด,หนุน SME ระดมทุน
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า ก.ล.ต. เตรียมเข้าหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อหาแนทางความร่วมมือแก้ไขกฎเกณฑ์ต่างๆเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวร้อนแรงผิดปกติ รวมถึงโครงสร้างที่เอื้อต่อการกระทำผิดในการซื้อขายหุ้น ทั้งในรูปแบบการใช้ข้อมูลภายใน (insider )และการปั่นหุ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
นอกจากนี้จะปรับการหารือร่วมกับตลท.เป็นทุก 1 เดือน จากก่อนหน้านี้ที่จะร่วมหารือกันทุกไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้เร่งแก้ปัญหาให้เกิดความรวดเร็วและยังเป็นการยกระดับตลาดทุนไทยด้วย
สำหรับ แผนดำเนินงานของ ก.ล.ต.ในช่วงต่อจากนี้ จะมีการวางรากฐาน เช่น การศึกษาจุดอ่อนของโครงสร้างที่เอื้อต่อการเอาเปรียบ และกระทำความผิด ตลอดจนแนวทางป้องกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกระตุ้นผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน การสำรวจระดับและความต้องการความรู้ด้านการลงทุนของประชาชนในส่วนที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง การวางแผนทางการเงิน และการลงทุนเพื่อเตรียมเกษียณ โดยมุ่งเข้าถึงภาคกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งปัจจุบันมีการขยายตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินการข้างต้นจะอยู่ในกรอบแผนกลยุทธ์เดิมที่กำหนดไว้ 6 ด้าน ได้แก่ 1.การยกระดับและรักษามาตรฐานให้เป็นสากล 2. เพิ่มประสิทธิภาพการป้องปราม ตรวจจับการกระทำผิดและบังคับใช้กฎหมายรองรับการเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี 3. สร้างสินค้าและบริการทางการเงินให้หลากหลาย ดึงดูดผู้ระดมทุนและนักลงทุนเทั่วโบลก เป็นศูนย์เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค 4. เปิดช่องทางให้กิจการสามารถเข้าถึงทุนในรูปแบบที่เหมาะสม 5. สร้างผู้ลงทุนคุณภาพและทำให้ประชาชนวางแผนทางการเงิน โดยใช้ประโยชน์จากตลาดทุน 6. เสริมประสิทธิภาพก.ล.ต. เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ก.ล.ต.จะส่งเสริมนโยบายให้มีสินค้าและบริการ รวมถึงช่องทางต่างๆเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเป็น GMS Connector เพื่อดึงดูดผู้ระดมทุนและนักลงทุนทั่วโลก พร้อมกันนี้จะหาช่องทางให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี)ให้เข้าถึงแหล่งทุนจากตลาดทุนมากขึ้น โดยจะให้การสนับสนุน Venture Capital, Private Capital, Private Equity Fund และ Angel Investor เนื่องจากเป็นการผลักดันผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
ขณะเดียวกันจะยกเลิกโครงการ"หุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด" เพราะเป็นการสนับสนุนในส่วนปลายน้ำเกินไป เนื่องจากบางบริษัทยังไม่มีพื้นฐานเพียงพอเป็นการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลทำให้เกิดปัญหาในอนาคต รวมถึงเป็นการป้องกันที่บางบริษัทจะเข้ามาเพื่อกอบโกยประโยชนช่วงการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) เท่านั้น
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต.ก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงเกณฑ์ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนในวงจำกัด(PP) ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีบางบริษัทใช้เทคนิคเพื่อเปิดช่องทางในการขายหุ้น PP ในราคาต่ำ ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าภายใน 2-3 สัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปของแนวทางกฎเกณฑ์และจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น โดยคาดว่าจะบังคับใช้ได้ในช่วงไตรมาส 3/58
นายรพี กล่าวอีกว่า ก.ล.ต.จะมีการปรับโครงสร้างภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และลดความซ้ำซ้อนของบางหน่วยงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ นอกจากนี้ยังเห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ฯควรทบทวนบทบาทของ SET และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ใหม่จากปัจจุบันมีกฎเกณฑ์ที่คล้ายคลึงกันมากเกินไป โดยมีความต่างเพียงวิธีการเข้าจดทะเบียนเท่านั้น โดยตลท.ควรจะหาแนวทางเพื่อแยกแยะให้ชัดเจน เนื่องจากหุ้นใน mai มีการเก็งกำไรค่อนข้างมากทำให้บางครั้งนักลงทุนบางส่วนเห็นว่าเป็นภาพการลงทุนของทั้ง SET ด้วย
ด้านนายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณี บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป(NMG) ห้ามผู้ถือหุ้นบางกลุ่มเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก.ล.ต.ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ และตลท.ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายหรือกฎเกณฑ์หรือไม่ แต่เบื้องต้นเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นถือว่าเป็นสิทธิพื้นฐานของผู้ถือหุ้นทุกราย ซึ่งกรณีนี้ ก.ล.ต.ก็จะหาแนวทางปรับปรงกฎเกณฑ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
อินโฟเควสท์