WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

11228 SEC สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน 01

ก.ล.ต. เดินหน้าเชิงรุก เปิดให้บริการ ‘สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน’ ช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

          สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิด “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” สำหรับเป็นช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสการหลอกลวงในตลาดทุนจากประชาชนได้โดยตรง พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรในตลาดทุนร่วมแจ้งเบาะแส และประสานความร่วมมือกับศูนย์ AOC กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มุ่งเป้าเร่งปิดบัญชีม้า รวมทั้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ในการปิดกั้นเนื้อหาของมิจฉาชีพโดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและป้องกันความเสียหายจากการถูกหลอกลวงลงทุน

          จากสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งประชาชนได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการรับข้อมูลข่าวสารและการใช้งานเพื่อสื่อสาร ในขณะเดียวกันมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกให้ลงทุนผ่านรูปแบบและช่องทางใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ก.ล.ต. พบว่า แนวโน้มของการหลอกลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมิจฉาชีพมักใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการหลอกลวงประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีอยู่จริง ล่อลวงด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือการแอบอ้างใช้ภาพ และ/หรือชื่อ ของผู้บริหารของหน่วยงานในตลาดทุนมาชักชวนให้ลงทุน เป็นต้น 

          ก.ล.ต. จึงเปิดให้มีช่องทาง “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” เพื่อให้เป็นช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสการหลอกลงทุนโดยตรง โทร 1207 กด 22 หรือแจ้งผ่านระบบรับแจ้งบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) หรืออีเมล [email protected] โดย ก.ล.ต. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบเบาะแสที่ได้รับและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปิดกั้นเนื้อหาหรือช่องทางการหลอกลงทุน โดยจะประสานกับ Meta (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram รวมทั้งประสาน LINE (ประเทศไทย) เพื่อปิดกั้นช่องทางของมิจฉาชีพในแพลตฟอร์มดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นกับประชาชน 

 

11228 SEC สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน 02

 

          ทั้งนี้ การเปิดช่องทาง “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” ก.ล.ต. ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในหน่วยงานพันธมิตร ภายใต้โครงการร่วมมือ-จับปลอมหลอกลงทุน ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีจุดประสงค์ในการประสานความร่วมมือระหว่างกันเพื่อต่อต้านมิจฉาชีพ ผ่านการจัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์เตือนภัยหลอกลงทุนในช่องทางต่างๆ ของ ก.ล.ต. และสื่อมวลชน โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนช่วยประชาสัมพันธ์เตือนภัยด้วยดี รวมทั้งยังประสานความร่วมมือกับศูนย์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดิจิทัลฯ) อีกด้วย 

          นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ตระหนักถึงปัญหาภัยกลโกงในตลาดทุน ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประชาชนและผู้ลงทุน โดยที่ผ่านมาได้เสริมสร้างความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นกลไกในการปกป้องตนเองจากมิจฉาชีพ ซึ่งถือเป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของ ก.ล.ต. ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมเดินหน้าเชิงรุกด้วยการเปิดช่องทาง “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานพันธมิตรแจ้งเบาะแสโดยตรง โดย ก.ล.ต. จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไปโดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและจำกัดความเสียหายไม่ให้กระจายออกไปสู่วงกว้าง”

          นางอำไพ จิตรแจ่มใส ผู้ช่วยปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “กระทรวงดิจิทัลฯ ได้เปิดตัวศูนย์ Anti Online Scam Operation Center หรือศูนย์ AOC เพื่อเป็นศูนย์ในการบูรณาการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะปิดบัญชีม้า หรือ บัญชีเงินฝากที่คนร้ายใช้รับเงินให้ได้โดยไว เพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน และพร้อมให้ความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับ ก.ล.ต.” 

          นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า “การเปิดช่องทาง “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” ของ ก.ล.ต. นั้น สอดรับกับการเปิดศูนย์ AOC 1441 ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้มีการบูรณาการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ให้บริการแบบ one stop service แก่ประชาชน รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์ โดยมีเป้าหมายในการระงับและอายัดบัญชีของคนร้ายให้ทันท่วงที รวมทั้งผู้เสียหายยังสามารถติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาได้ในทุกขั้นตอน”

          นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า “การเปิดสายด่วนแจ้งหลอกลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสะกัดกั้นการหลอกลวงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภาคธุรกิจในตลาดทุนพร้อมให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. โดยจะร่วมแจ้งเบาะแสทันทีเมื่อพบการแอบอ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากการถูกหลอกลงทุน”

          นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะผู้ร่วมริเริ่มโครงการ “ร่วมมือ-จับปลอมหลอกลงทุน” กับพันธมิตรว่า “ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรได้บูรณาการความร่วมมือในหลายด้าน รวมทั้งสื่อสารเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง การที่ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุน จัดให้มีสายด่วนแจ้งหลอกลงทุนจะเป็นช่องทางให้ประชาชน ผู้ลงทุน และองค์กรต่างๆ ร่วมกันแจ้งเบาะแสหลอกลงทุนในตลาดทุน เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงของมิจฉาชีพเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

          นางสาวอิง ศิริกุลบดี ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำ Facebook ประเทศไทยจาก Meta กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Meta ได้ร่วมทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรหลายภาคส่วนและขยายกรอบความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในหลายๆ เรื่องรวมถึงการรับมือปัญหาภัยหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ทั้งทางด้านการรายงานเนื้อหาและการสร้างการตระหนักรู้และแคมเปญให้ความรู้เพื่อให้ผู้คนสามารถรู้เท่าทันกลลวง ในโอกาสนี้ เรามีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ ก.ล.ต. เพื่อร่วมกันรับมือกับปัญหาเร่งด่วนนี้ซึ่งเป็นปัญหาร่วมของอุตสาหกรรมและในสังคมยุคดิจิทัลปัจจุบัน”

          สำหรับสถิติการรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2566 ก.ล.ต. ได้ดำเนินการเพื่อเป็นการป้องปรามอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ (1) ขึ้นเตือนบนหน้าเว็บไซต์ ก.ล.ต. ในหัวข้อ Investor Alert เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อ จำนวน 265 ราย (2) ประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) กระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อออกข่าวแจ้งเตือนประชาชน จำนวน 90 กรณี (3) ด้านการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการหลอกลงทุนที่แอบอ้างชื่อ/โลโก้ หรือภาพผู้บริหารของ ก.ล.ต. มีจำนวน 10 กรณี (4) การดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายภายใต้ พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 กรณีอ้างผลตอบแทนสูง จำนวน 163 ราย และ (5) ดำเนินการส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลฯ พิจารณาดำเนินการ จำนวน 85 กรณี 

          ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอย้ำให้ประชาชนระมัดระวังเมื่อถูกชักชวนลงทุน หากมีข้อสงสัยว่าเป็นบุคคล ผลิตภัณฑ์ หรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” เพื่อตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองได้ทันทีที่ www.sec.or.th/seccheckfirst หรือติดตั้งแอปพลิเคชัน SEC Check First หรือติดต่อสอบถามข้อมูลที่สายด่วนได้เช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในการหลอกลวงลงทุนในตลาดทุน

 

 

11228

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!