- Details
- Category: กลต.
- Published: Thursday, 10 May 2018 10:18
- Hits: 1703
ก.ล.ต.ยันปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง หลังถูก 2 อดีตผู้บริหารบล.ฟ้อง พร้อมเรียกร้องรัฐกำกับดูแลการทำงานให้โปร่งใส
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุถึงกรณีที่ 2 อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แห่งหนึ่งฟ้องก.ล.ต. ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหลังถูกสั่งเว้นวรรคการปฏิบัติหน้าที่นั้น โดยยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของก.ล.ต.ด้วยความรัดกุมและเป็นกลาง ขณะที่ 2 อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวยังเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลก.ล.ต.เพิ่มการตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของก.ล.ต.ให้มีความโปร่งใส เป็นธรรมด้วย
ก.ล.ต. ระบุว่า ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด ได้พิจารณาจากเอกสารหลักฐานอย่างรัดกุมและเป็นกลาง ซึ่งกระบวนการพิจารณาลงโทษอยู่ในรูปแบบองค์คณะ มิได้ขึ้นกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ขณะที่บุคคลทั้ง 2 เคยอุทธรณ์คำสั่งแล้ว และก.ล.ต. ได้พิจารณาทบทวนตามขั้นตอน คณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เป็นบุคคลภายนอกที่เป็นกลาง และคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้พิจารณาการอุทธรณ์แล้ว เห็นว่าการดำเนินการของ ก.ล.ต. เป็นไปตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว สำหรับในเรื่องของคดีฟ้องร้องนั้น คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของศาล
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ก.ล.ต.ได้สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ทั้งในตำแหน่งผู้บริหารและผู้แนะนำการลงทุน เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.60 สำหรับนางสาวชญานี โปขันเงิน และนายชยันต์ อัคราทิตย์ ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ เนื่องจากปกปิดหรือบิดเบือนการให้ข้อมูลที่เป็นความจริง เพื่อช่วยเหลือมิให้มีการดำเนินคดีกรณีการใช้ข้อมูลภายใน ซึ่งเป็นการขัดขวางการดำเนินการตามกฎหมายของ ก.ล.ต.
ขณะที่ในวันนี้ นายชยันต์ อัคราทิตย์ และนางสาวชญานี โปขันเงิน อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งถูกก.ล.ต.สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ทั้งในตำแหน่งผู้บริหารและผู้แนะนำการลงทุนนั้น ได้ออกมาแถลงข่าวกรณีได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. ตามมาตรา 157 ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และยื่นฟ้องสำนักงาน ก.ล.ต. กรรมการก.ล.ต. และเลขาธิการ ก.ล.ต. ต่อศาลปกครอง
โดยภายหลังจากที่ก.ล.ต.มีคำสั่งลงโทษให้เป็นบุคลากรต้องห้ามในตลาดทุนเป็นเวลา 1 ปีนั้น ต่อมาในช่วงเดือนก.ย.60 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่ง แม้จะมีหลักฐานใหม่มาประกอบการพิจารณา แต่ก.ล.ต.ยืนยันจะลงโทษตามคำสั่งเดิม ซึ่งเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องครั้งนี้
พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เป็นคณะกรรมการในก.ล.ต. เพิ่มการตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ก.ล.ต. ให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และมีการคานอำนาจให้มากขึ้น เพิ่มช่องทางการร้องเรียนในการกระทำอันอาจไม่เป็นธรรมแก่บุคคลของสำนักงานก.ล.ต.
อินโฟเควสท์