- Details
- Category: คลัง
- Published: Wednesday, 06 December 2017 23:34
- Hits: 4358
ปลัดคลัง มั่นใจจีดีพีปีนี้โตใกล้เคียง 4% - ปี 61 โตเกิน 4% แย้มเตรียมออกนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
ปลัดคลังมั่นใจ ปี 61 จีดีพีโตเกิน 4% รับศก.ฟื้น - ส่งออก- ท่องเที่ยวโต แย้มเตรียมนโยบายของขวัญปีใหม่ให้ปชช.ก่อนสิ้นปี ส่วนแผนช่วยคนจนเฟส 2 อยู่ระหว่างเร่งพิจารณา เร่งเสนอ ครม.ให้ทันในสิ้นปีนี้ ก่อนเริ่มใช้ ม.ค.61
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปีนี้มองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีนี้จะเติบโตได้ใกล้เคียง 4% ขณะที่ปี 2561 มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้มากกว่า 4% อย่างแน่นอน โดยมีแรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการส่งออกที่คาดว่าจะสูงกว่าปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีแรงส่งจากการท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนของรัฐในโครงการขนาดใหญ่ ที่จะเป็นตัวนำเอกชนให้เกิดการลงทุนตาม
“ตอนนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ยังมองไม่เท่ากับคนอื่น เพราะตอนนี้คนอื่นๆเขามองว่า จีดีพีจะโต 4% แล้ว แต่เบื้องต้นก็เชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตใกล้เคียง 4% ได้ จากการปฏิรูปด้านต่างๆ เห็นได้จากการจัดอันดับความยากง่ายการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้นมา 20 อันดับ เป็นต้น แต่ปีหน้าจะทำให้เศรษฐกิจผงกหัวขึ้นแน่นอน ซึ่งมีภาพที่ดีทั้งการส่งออก ท่องเที่ยว การบริโภค และปลายปีนี้ก็มีมาตรการช้อปช่วยชาติด้วยก็จะยิ่งดันเศรษฐกิจ ขณะที่ปีหน้า นอกจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแล้ว การเลือกตั้งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้นด้วย”
ด้านกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ระบุว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกกเบี้ย 4 ครั้งนั้น มองว่า การปรับเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้ถึง 4 ครั้ง เพราะมองว่า อาจทำให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป และอาจกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจได้ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตายังมาจากการเมืองในต่างประเทศ - น้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งและรับมือได้
ด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆนั้น มองว่า มาตรการช้อปช่วยชาติได้รับการตอบรับดี ซึ่งช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีมาตรการอื่นหรือไม่นั้น ขอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณา
นายสมชัย กล่าวว่า ด้านมาตรการของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะรวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 ด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณาได้ภายในสิ้นปีนี้ ด้านมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ ว่ามาตรการที่ออกมานั้น หากกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองรองได้จริงจะถือเป็นเรื่องดี
“มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น มีกรอบ 4 ด้านที่วางไว้ คือ การหาแหล่งงาน ฝึกอาชีพ เข้าถึงแหล่งเงินในระบบ มีองค์ความรู้เพิ่ม มีความสามารถในการเป็นเจ้าของปัจจัย 4 โดยจะต้องหารือกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งกระทรวงแรงงาน พาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเสนอครม.ได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ และหากผ่านครม.เรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความต้องการ โดยใช้โมเดลการล้างคนจนหมดประเทศของจีนมาใช้ โดยการสำรวจแบบรายตัว ก่อนใช้มาตรการช่วยเหลือ ซึ่งเรามีเป้าหมายว่า อยากจะให้คนว่างงานหมดไปจากประเทศ ก็จะคล้ายกับหนี้นอกระบบหมดไปที่เราดำเนินการแล้ว แต่จะใช้เวลานานมากแค่ไหนนั้น คงไม่สามารถบอกได้”นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม มาตรการฝึกอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยนั้น สามารถดำเนินการได้ภายในเดือนมกราคม 2561 ได้ทันที และมีผลต่อผู้มีรายได้น้อยทันที ซึ่งในส่วนของการมีงานทำเพิ่มขึ้นนั้น เชื่อว่ามาตรการนี้จะทำให้อัตราการว่างงานของประเทศที่ปัจจุบันอยู่ที่ 450,000 คน หมดไปได้ในอนาคต
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย