- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 11 November 2017 11:22
- Hits: 3273
รมว.คลัง เร่งเชื่อมโยงข้อมูลการเก็บภาษีจาก 3 กรมในรูปแบบ Big Data อุดช่องโหว่เลี่ยงภาษี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เร่งนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล โดยเฉพาะการเชื่อมโยงฐานข้อมูลการเก็บภาษีจากทั้ง 3 กรมให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกันในรูปแบบ Big Data เพื่อมาใช้กำหนดมาตรการดูแล และอุดช่องโหว่ในการหลบเลี่ยงภาษีให้ลดลง เนื่องจากในสังคมไทยยังมีกลุ่มคนที่คิดหลบเลี่ยง เสียภาษีไม่ถูกต้องอยู่อีก หากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยลดการหลบเลี่ยงได้
ในส่วนของกรมสรรพสามิตได้ให้นโยบายเร่งนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงรูปแบบแสตมป์สรรพสามิตให้ทันสมัยขึ้น เนื่องจากแสตมป์สรรพสามิตปัจจุบันมีการใช้มากกว่า 40-50 ปี และทำให้เกิดการปลอมแปลง หรือการลอกแสตมป์เก่ามาติดในสินค้าใหม่เพื่อหลบเลี่ยงภาษีอยู่ โดยจะใช้เป็นแสตมป์แบบสติกเกอร์และมีคิวอาร์โค้ดด้วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในสินค้าสุราและบุหรี่ได้ก่อน
นอกจากนี้ ทางกรมสรรพสามิตยังมีการติดระบบโฟลว์มิเตอร์ ที่โรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ในประเทศ ซึ่งส่งข้อมูลออนไลน์มายังกรมได้ทันทีว่า โรงงานนี้บรรจุเบียร์ได้กี่ลิตร กี่ขวด ซึ่งจะช่วยตรวจเช็กได้ทันทีว่าผลิตเท่าไรและต้องเสียภาษีแค่ไหน ส่วนเบียร์ที่ผลิตจากต่างประเทศและนำเข้ามาขายในไทยจะใช้วิธีการติดแสตมป์เหมือนเดิม
ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมฯ ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำการศึกษาปรับรูปแบบใช้แสตมป์สรรพสามิตรูปแบบใหม่ โดยคาดว่าจะใช้ได้ภายในปีหน้า ซึ่งรูปแบบข้อแสตมป์จะมีการติดคิวอาร์โค้ดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือสแกน เพื่อตรวจสอบข้อมูลสินค้าว่าเป็นสินค้า ประเภทใด เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ขณะเดียวกันยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบข้อมูลภาษีเชิงลึกได้ด้วย
อินโฟเควสท์
สคร.ดันรัฐวิสาหกิจทำ BIG Data และ Digital Transformation ตอบโจทย์ Thailand 4.0
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลได้ผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และกระทรวงการคลังมีแผนขับเคลื่อนกระทรวงการคลังสู่การเป็นกระทรวงการคลังดิจิทัล (Digital MOF) ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจจำนวน 55 แห่ง จึงได้จัดเวที SIT TALK ซึ่งย่อมาจาก SEPO4.0+ Inspiration Talk โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ และบุคลากรของ สคร.ในการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับ การจัด SIT TALK ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้รัฐวิสาหกิจจัดทำ Big Data และ Digital Transformation เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณะให้ดีขึ้น โดยนำข้อมูลที่อยู่ในรัฐวิสาหกิจต่างๆ มาบริหารจัดการในลักษณะ Big Data เพื่อใช้ในการวางแผนและยกระดับการให้บริการตามเป้าหมายตามพันธกิจของรัฐวิสาหกิจ มีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญตามภารกิจของรัฐวิสาหกิจในลักษณะ Open Data เพื่อให้มีการบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นๆ ทั้งของรัฐ เอกชน และประชาชน รวมทั้งยังจะเป็นยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเรื่องของ Open Data และเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนแนวคิดในเรื่อง Digital Transformation ยกระดับกระบวนการภายในของรัฐวิสาหกิจ (Internal Process) หรือยกระดับการให้บริการลูกค้า (Customer Service) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรและสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชนผู้ใช้บริการได้ด้วย
การประชุมในวันนี้ สคร. ได้มอบให้รัฐวิสาหกิจบูรณาการการทำ Big Data และ Digital Transformation และกำหนดให้รัฐวิสาหกิจมีการทำต้นแบบเพื่อไปนำเสนอในการสัมมนาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ (CEO Forum) ในหัวข้อการบริหารจัดการ Big Data และ Digital Transformation โดยจะมีการนำเสนอในงานสัมมนาผู้บริหารสูงสุดรัฐวิสาหกิจ (SOE CEO Forum) ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง จะเข้าร่วมสัมมนา CEO Forum ดังกล่าวด้วย
อินโฟเควสท์