WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Customสมชย สจจพงษก.คลังพร้อมแจกบัตรผู้มีรายได้น้อย 21 ก.ย.เริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้ มั่นใจ 15 ก.ย.นี้ บัตรส่งครบทั่วประเทศ

     นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ร่วมแถลงข่าวการประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) สามารถตรวจสอบสิทธิในการได้รับสวัสดิการของตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสามารถไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรฯ) ได้ที่หน่วยงาน/สาขาที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติสามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 โดยมีสาระสำคัญได้ ดังนี้

      ผลการตรวจสอบผู้ผ่านคุณสมบัติ กระบวนการคัดกรองคุณสมบัติจาก 26 หน่วยงานตรวจสอบ ได้เสร็จสิ้นลงในวันที่ 8 กันยายน 2560 พบว่า จากผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนฯ ทั้งหมดจำนวน 14,176,170 คน มีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 11,431,681 คน และมีผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 2,744,489 คน

      การประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติ กระทรวงการคลังจะเปิดให้ตรวจสอบผลการตรวจสอบคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

      ช่องทางที่ 1 ตรวจสอบด้วยตัวเองหรือขอความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยงาน

รับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ได้แก่ www.epayment.go.th www.mof.go.th และ www.fpo.go.th โดยพิมพ์เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักลงไปในช่องที่กำหนด ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบ

  ช่องทางที่ 2 ตรวจสอบผ่านสายด่วน 6 หน่วยงาน ในเวลาราชการ ได้แก่ 1) Call center ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 1359 2) Call center ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

       ช่องทางที่ 3 ตรวจสอบ ณ ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือหน่วยงานอื่นตามที่กรมการปกครองเห็นสมควร และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร โดยกระทรวงการคลังจะส่งรายชื่อแยกตามจังหวัด อำเภอ และตำบล ส่งให้กระทรวงมหาดไทย และแยกเป็นรายเขตส่งให้กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการติดประกาศผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่อไป

  ในกรณีผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและต้องการอุทธรณ์ สามารถขออุทธรณ์ให้ตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 โดยปฏิบัติตาม 7 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

     ขั้นตอนที่ 1 ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบผลผ่าน 3 ช่องทางที่ได้กล่าวไปแล้ว และหากพบว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน

 ขั้นตอนที่ 2 บนหน้าจอแสดงผลจะระบุคุณสมบัติที่ไม่ผ่าน และหากผู้ลงทะเบียนต้องการอุทธรณ์ ให้กดปุ่ม “ยื่นคำขออุทธรณ์”

 ขั้นตอนที่ 3 กรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขออุทธรณ์ โดยหลังจากกดปุ่ม ยื่นอุทธรณ์ ระบบจะถามวันเดือนปีเกิด เพื่อยืนยันตัวบุคคล พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หลังจากนั้นให้กดปุ่มสีเหลืองด้านล่างของหน้าจอที่เขียนว่า “บันทึกและส่งคำขออุทธรณ์”

 ขั้นตอนที่ 4 หลังจากกดปุ่มบันทึกและส่งคำขออุทธรณ์แล้ว ข้อความบนปุ่มสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็น “อยู่ระหว่างการอุทธรณ์”

 ขั้นตอนที่ 5 หลังจากปิดรับการยื่นขออุทธรณ์ กระทรวงการคลังจะรวบรวมข้อมูล ส่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติตามคำขออุทธรณ์ต่อไป

 ขั้นตอนที่ 6 หน่วยงานตรวจสอบใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบ และส่งผลการอุทธรณ์กลับมาให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ตุลาคม 2560

 ขั้นตอนที่ 7 กระทรวงการคลังประกาศผลการอุทธรณ์ในวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ผ่าน 2 ช่องทางเท่านั้น ได้แก่ www.epayment.go.th และสายด่วน 6 หน่วยงาน หากผลการอุทธรณ์ยืนตามผลครั้งแรกคือไม่ผ่าน ผู้ยื่นอุทธรณ์จะไม่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการ

       ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ยังมีข้อสงสัยในผลการอุทธรณ์ ให้ติดต่อสอบถามหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ๆ โดยตรง แต่หากผลการอุทธรณ์ปรากฎว่าผ่านคุณสมบัติ ผู้ยื่นอุทธรณ์จะได้รับบัตรฯ ต่อไป

       สำหรับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีสิทธิได้รับบัตรฯ สามารถไปรับบัตรฯ ได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป การให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมี 2 หมวด ได้แก่ หมวดการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย 1) วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือน

       ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และหมวดการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วย 1) วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2) วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3) วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center ของบัตรฯ ได้ที่ 02-109-2345 จำนวน 150 คู่สาย วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น.

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

 

อุทธรณ์วันแรก 11,000 คนคลังเข้มใช้สิทธิ์ 'สวัสดิการ'

        ไทยโพสต์ : คลัง * นายกฤษฎา จีนะวิ จารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันแรกในการเปิดให้ผู้ลง ทะเบียนผู้มีรายได้น้อยตรวจสอบสิทธิ์ว่าเป็นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติและมีสิทธิ์รับสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่

        โดยทั้งวันพบว่ามีผู้ลงทะเบียนเข้าตรวจสอบสิทธิ์และยื่นขออุทธรณ์ให้ตรวจสอบใหม่อีกครั้งรวมแล้ว 11,000 คน และคาดว่าจะมีอีกจำนวนมาก จากผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 2.74 ล้านคน

       ทั้งนี้ สศค.จะส่งให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณ สมบัติของบุคคลที่ยื่นอุทธรณ์ใหม่อีกครั้ง ทั้งเรื่องรายได้ ที่ดิน ทรัพย์สินเงินฝากต่างๆ หากตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่ผ่าน คุณสมบัติ จะต้องชี้แจงถึงเหตุ ผลนี้โดยละเอียดให้บุคคลดังกล่าวเข้าใจ แต่หากผลอุทธรณ์ปรากฏว่าผ่านคุณสมบัติ ผู้ยื่นอุทธรณ์จะได้รับสิทธิ์สวัสดิการนี้ แต่อาจจะได้รับล่าช้ากว่าผู้ที่ผ่านคุณสมบัติรอบแรก

     สำหรับ การยื่นอุทธรณ์สิทธิ์ สามารถยื่นได้ถึงวันที่ 29 ก.ย.2560 โดยหน่วยงานตรวจสอบใช้เวลา 1 สัปดาห์ และส่ง ผลการอุทธรณ์กลับมาให้กระ ทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ต.ค.2560 ซึ่งจะประกาศผลการอุทธรณ์ในวันที่ 24 ต.ค.2560

       ผลการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบสิทธิ์ และได้รับสวัสดิการจากรัฐบาลจำนวน 11.43 ล้านคน จากผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 14.1 ล้านคน โดนตัดสิทธิ์ไป 2.74 ล้านคน.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!