- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 26 August 2017 10:50
- Hits: 22045
รมว.คลัง คาดใช้เงินสวัสดิการรัฐช่วยคนจนชุดแรก 4 หมื่นลบ. เล็งใช้มาตรการภาษีจูงใจเอกชน-รัฐวิสาหกิจบริจาคเงินเข้ากองทุนประชารัฐฯ
รมว.คลังเผยมาตรการสวัสดิการรัฐช่วยคนจน จะเข้าครม.ได้ 1-2 สัปดาห์นี้ คาดใช้วงเงินชุดแรกมากกว่า 4 หมื่นลบ. พร้อมรับคำสั่ง’สมคิด’ เตรียมหามาตรการภาษีจูงใจเอกชน-รัฐวิสาหกิจ บริจาคเงินเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการ ยันปฏิรูปภาษีสรรพสามิตใหม่ไม่กระทบผู้ประกอบการ ส่วนภาษีน้ำหวานยังให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัวอีก 6 ปี ชี้ยังไม่มีข้อสรุปมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวชนบทของ ททท. เหตุใช้งบมากเกินไป ติดปัญหาเรื่องการเก็บข้อมูล
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการปาฐกถาพิเศษ สัมมนาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในวันนี้ว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา สวัสดิการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ขณะนี้มีผู้ได้รับสวัสดิการประมาณ 11 ล้านกว่าราย จากผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 14 ล้านราย โดยคาดว่า วงเงินที่จะใช้จะมากกว่า 40,000 ล้านบาทแน่นอน โดยปัจจุบันมีวงเงินในกองทุนประชารัฐสวัสดิการแล้ว 40,000 กว่าล้านบาท
“เบื้องต้นเราได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอเข้าครม. ซึ่งคงไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ นี้ เพราะกระทรวงการคลังตั้งใจจะแจกบัตรสวัสดิการในวันที่ 21 กันยายน โดยจากการตรวจสอบ พบว่า คนที่ถูกตัดสินธิ มีทั้งคนที่มีอสังหาริมทรัพย์ มีเงินฝาก และมีรายได้เกิน นอกจากนี้ เราต้องรอจากการลงพื้นที่ของนักศึกษาด้วย ซึ่งก็ยอมรับว่า ยังพบผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์เช่นเดียวกัน”
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสวัสดิการที่จะให้ในเบื้องต้นเป็นพื้นฐาน ประกอบด้วย ค่าไฟฟ้า น้ำประปา การเดินทางรถไฟฟรี รถบขส. ขณะที่ขสมก. คงต้องติดตามที่กระทรวงคมนาคมว่าจะสามารถทำตั๋วแมงมุมได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม ตั๋วรถเมล์จะต้องทำให้แล้วเสร็จก่อนแจกบัตรแน่นอน ทั้งนี้ หากตั๋วแมงมุมเสร็จเรียบร้อย จะทำให้สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ “วงเงินนั้นตอนนี้คงต้องรอ ครม.ก่อน โดยยอมรับว่า การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงงบประมาณ และพิจารณาถึงความจำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกับประชาชนด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับวงเงินนั้น นอกจากเงินจากกองทุนแล้วนั้น ยังเตรียมหามาตรการด้านภาษี ในการลดหย่อนค่าใช้จ่าย อาจจะเพิ่มเป็น 1.5 เท่า จากปัจจุบัน 1 เท่า สำหรับเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ที่มีส่วนร่วมเติมเงินเข้ากองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (รัฐสวัสดิการ) ตามที่รองนายกฯ สมคิดได้พูดไปวานนี้ " นายอภิศักดิ์
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้ คาดว่า พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่ คาดว่า จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันนี้ โดยพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบกฎหมายภาษีสรรพสามิต และแนวทางการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส เป็นสากล ส่งผลให้กฎหมายภาษีสรรพสามิตสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารการจัดเก็บภาษีได้ทั้งระบบ และทำให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตได้กำหนดใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 จึงต้องปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตทั้งหมดในฉบับเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรัดกุม
สำหรับ สาระสำคัญของร่างนั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอัตราการจัดเก็บจากหน้าโรงงาน เป็นราคาปลีกแนะนำ โดยยืนยันว่า การปรับปรุงภาษีนั้นจะไม่ส่งผลกระทบจากผู้ประกอบการแน่นอน เพราะสุดท้ายอัตราภาษีที่จะจัดเก็บนั้นคงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะความตั้งใจของแนวทางดังกล่าว เพื่อต้องการขยายฐานภาษีเป็นหลัก และก่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วย ทั้งนี้ การเก็บภาษีจากค่าความหวานนั้น หากมีค่าความหวานหรือน้ำตาลมากกว่ากำหนด จะเสียภาษีเพิ่ม จากปัจจุบันที่เสียภาษีสรรพสามิต 20% จากมูลค่าอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศในราชกิจจา ผู้ประกอบการยังมีเวลาในการปรับตัวอย่างถึง 6 ปี
ทั้งนี้ และอัตราการจัดเก็บนั้น จะแบ่งเป็นภาษีที่เก็บตามค่าความหวาน แบ่งเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ค่าความหวาน 0-6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ไม่เสียภาษี ส่วนค่าความหวาน 6-8 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 10 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 8-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 30 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 10-14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 50 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 14-18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร ค่าความหวาน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ขึ้นไป เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร
นายอภิศักดิ์ กล่าวถึงมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวท้องถิ่น ที่การท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ได้เสนอมาก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากวงเงินที่เสนอมานั้น เกินกว่าที่กระทรวงการคลังจะยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระทรวงการคลัง พร้อมที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวกระจายสู่ท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ ยังมีข้อติดขัด ในเรื่อง ใบกำกับภาษี ที่ชุมชนอาจไม่สามารถออกให้ได้ ขณะที่วงเงินในการดำเนินโครงการก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกัน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย