- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 21 August 2017 16:04
- Hits: 2460
ปลัดคลัง มั่นใจ กบช. พร้อมใช้ปี 61 พร้อมเดินหน้าแก้หนี้นอกระบบ - เคาะสวัสดิการคนจน
คลังมั่นใจ กบช. พร้อมใช้ปี 61หวังคนมีเงินยามเกษียณ ลดภาระงบประมาณการคลัง ด้านมาตรการแก้หนี้นอกระบบผนึกมหาดไทยดูแลสางหนี้ 1.3 ล้านรายแล้วเสร็จในสิ้นปี ขณะที่สวัสดิการคนจนเตรียมเสนอครม.พิจารณาสัปดาห์หน้า
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานมหกรรมลงทุน การออม เตรียมความพร้อมสู่วัยเกษียณ ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมายกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช. โดยเบื้องต้นวางกรอบการสมทบเงินและสะสมเงินในกบช. ไว้ที่ 3% ช่วง 3 ปีแรก และปีต่อไป 5% ส่วนอัตราสูงสุดไม่เกิน 7% ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราดังกล่าว ซึ่งหลังจากแล้วเสร็จ จะนำเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. พิจารณาต่อ ก่อนประกาศใช้ในปี 2561
“การดูแลสังคมสูงอายุเป็นสิ่งจำเป็น เพราะในอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้นใน 10-15 ปีข้างหน้า และจะสร้างภาระให้งบประมาณแผ่นดิน ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณดูแลผู้สูงอายุสูงถึง 600,000-700,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งไม่เพียงพออย่างแน่นอน และจะทำให้เกิดวิกฤติทางการคลังในอนาคต ดังนั้น รัฐบาลและกระทรวงการคลังจึงเร่งออกมาตรการต่างๆ เพื่อเร่งส่งเสริมการออม โดยเฉพาะในปีนี้จะมีแน่ กอช. ที่จะเป็นภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบให้มีเงินออม โดยจะมีนายจ้างจ่ายสมทมเพิ่มเติม ซึ่งจะคล้ายๆกับประกันสังคม โดยเมื่อออมทั้ง 2 อย่างแล้ว ในวัยเกษียณจะทำให้ประชาชนมีรายได้ไว้ใช้ต่อเดือนประมาณ 50,000 กว่าบาท ประกอบด้วย เงินบำนาญจากกองทุนประกันสังคม 7,500 บาทต่อเดือน และกอช. ประมาณ 40,000 กว่าบาทต่อเดือน”นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังจะพิจารณาปรับลดอัตราจ่ายเงินของกองทุนประกันสังคมด้วย เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน นอกจากนี้ ในเร็วๆนี้ธนาคารออมสิน จะออกผลิตภัณฑ์ รีเวิทมอตเกต เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ไม่มีคนดูแล แต่มีที่อยู่อาศัย สามารถนำบ้านมาไว้กับธนาคารแล้วเปลี่ยนเป็นเงินไว้ใช้ในยามเกษียณจนตลอดชีวิตได้
ขณะที่การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ขณะนี้ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ ซึ่งพบว่า ขณะนี้ มีหนี้นอกระบบประมาณ 1.3 ล้านราย มูลหนี้ 70,000 ล้านบาท ซึ่งวางเป้าหมายล้างหนี้ก้อนดังกล่าวให้หมดภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ในแต่ละจังหวัดยังมีคณะอนุกรรมการฟื้นฟูรายได้ทุกจังหวัด มีธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ที่เข้าร่วมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วย ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้แน่นอน
นายสมชัย กล่าวถึงมาตรการลดภาษีด้านท่องเที่ยว ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังพร้อมพิจารณามาตรการดังกล่าวที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือ ททท. เสนอมา แต่ทั้งนี้ ได้ให้ ททท. กลับไปทำรายละเอียดและอัตราภาษีให้มีความเหมาะสม และการดำเนินการจะต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเป้าหมายในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเกิดการใช้จ่ายในภาคท้องถิ่น เป็นต้น
ส่วนมาตรการช่วยเหลือที่จะใส่ในบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยนั้น คาดว่า ในสัปดาห์หน้าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณามาตรการแรกเบื้องต้น เช่น รถเมล์ รถไฟฟรี และด้านอื่นๆเป็นต้น เพื่อรองรับการใช้บัตรในวันที่ 1 ตุลาคม 2560
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
