WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gอภศกด ตนตวรวงศรมว.คลังเตรียมชงภาษีลาภลอย-ภาษีทรัพย์อิงสิทธิเข้าครม. 2-3 สัปดาห์นี้ เตรียมขาย TFF ก.ย.-ต.ค.นี้ ยันสิทธิให้รายย่อยก่อน

     รมว.คลังเตรียมเสนอครม.อนุมัติกฎหมายภาษีลาภลอย-ภาษีทรัพย์อิงสิทธิภายใน 2-3 สัปดาห์นี้  มั่นใจเปิดขาย TFF ได้ก.ย.-ต.ค.นี้ ระบุขายให้รายย่อยก่อนตามคำสั่งนายกฯ ชี้ตัวเลขผลตอบแทนที่ 6-8% ที่ออกข่าวก่อนหน้านี้เป็นแค่ตัวเลขคาดการณ์ยังไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย                  

  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีจากผู้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ หรือร่างพ.ร.บ.ภาษีลาภลอย และร่างพ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ หรือ การให้สิทธิ์ผู้เช่าที่อยู่อาศัยสามารถนำสินทรัพย์ที่เช่าไปขอกู้ หรือจำนองได้ ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าเส้นต่างๆ 

   สำหรับสาระสำคัญของพ.ร.บ.ภาษีลาภลอย จะเสนอให้เก็บภาษีจากมูลค่าส่วนต่างของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จากประโยชน์การก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟฟ้าในเขตเมือง โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ และรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น ทั้งนี้ ในเบื้องต้นให้เก็บในกรณีที่มีการซื้อขาย หรือเปลี่ยนมือ และนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์สำหรับมูลค่าที่เกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป จะเก็บในอัตรา 5% ของมูลค่าส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น และจะเป็นการเก็บครั้งเดียว โดยขณะนี้กระทรวงการคลังได้ประชาพิจารณ์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่เรียบร้อยแล้ว

   นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของร่างพ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ได้สั่งให้กระทรวงการคลังเสนอ ครม.พร้อมกับร่างพ.ร.บ.ภาษีลาภลอย เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยร่างกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิมีสาระสำคัญ จะทำให้สิทธิ์การเช่ากลายเป็นสินค้าที่สามารถซื้อขายได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้ ส่วนหนึ่งจะชดเชยภาระต้องเสียภาษีลาภลอยได้ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้วเช่นเดียวกัน 

   ด้านความคืบหน้า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศ (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ยืนยันว่า ขณะนี้ ประชาชนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติสนใจซื้อหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้มีการกระจายหน่วยลงทุนให้ประชาชนรายย่อยในประเทศเป็นลำดับแรก ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดการกระจายสัดส่วนเป็นจำนวนเท่าไรอีกครั้ง ทั้งนี้ คาดว่าจะขายหน่วยลงทุนในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ 

   สำหรับ ผลตอบแทน ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ในกองแรกที่จะระดมทุน 4.48 หมื่นล้านบาท จะต้องรอสำรวจความต้องการของนักลงทุนในช่วงก่อนการเปิดขายนักลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับผลตอบแทนและความต้องการนักลงทุนที่จะเป็นผู้กำหนดผลตอบแทนที่แท้จริง ส่วนผลตอบแทนที่ 6-8% ก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ เป็นตัวเลขคาดการณ์ยังไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย

  นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นกองที่ดำเนินการอยู่เป็นโครงการที่มีการดำเนินการและมีรายได้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องประกันผลตอบแทนให้นักลงทุน เพราะโครงการที่ใส่ในกองทุนมีรายได้ชัดเจนและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในอนาคตจะมีการนำโครงการที่มีรายได้อยู่แล้วเข้ามาเพิ่มเติม เช่น โรงไฟฟ้า สนามบิน เพื่อระดมเงินทุนไปสร้างโครงการใหม่ๆ เบื้องต้นจะระดมได้ 1 แสนล้านบาท หรือมากกว่านั้น ซึ่งสามารถขยายวงเงินลงทุนได้ไม่มีจำกัดตามความต้องการใช้เงิน

    "การตั้งกองทุน ทำมานานเกินไปแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาได้ไปโรดโชว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งก็สนใจลงทุนมีการถามไถ่ตลอดว่าเมื่อไรจะเกิด แสดงให้เห็นว่า มีนักลงทุนสนใจลงทุนจำนวนมาก แต่เราให้ความสำคัญประชาชนในประเทศก่อนเป็นหลัก ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ส่วนกองทุนกองที่ 2 ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ที่ยังไม่มีรายได้ ต้องมีความศึกษาในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะต้องมีการตั้งกองทุนมาประกันผลตอบแทน เพื่อให้ความมั่นใจกับนักลงทุนที่มาซื้อหน่วยลงทุนนายอภิศักดิ์ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!