WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gเอกนต นตทณฑประภาศสคร.ยันยื่นไฟลิ่ง TFF เร็วขึ้นเป็น ก.ค. นี้ พร้อมดัน 2 โครงการมอเตอร์เวย์ เข้า PPP Fast Track

   สคร. ยันยื่นไฟลิ่ง TFF เร็วขึ้นเป็น ก.ค. นี้ ส่วนPPP Fast Track เตรียมประชุม 28 เม.ย.นี้ ขออนุมัติ 2 โครงการมอเตอร์เวย์ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางประอิน-นครราชสีมา และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี แย้มเตรียมเสนออีก 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6 แสนลบ. ตามแผนดำเนินงานของปี 2561

      นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ ไทยแลนด์ฟิวเตอร์ฟันด์ (TFF) โดยมีนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานว่า ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. จะดำเนินการประชุมให้ได้ข้อยุติเกี่ยวกับหลักการและเงื่อนไขข้อกำหนดหลักการของสัญญาโอนและรับสิทธิโอนในรายได้ หรือ RTA ของทั้ง 2 โครงการ คือ โครงการทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และ บูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการตรวจสอบ

      ด้านกระบวนการยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ ไฟลิ่ง นั้น ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งได้ภายในกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะทำให้ภายในเดือนกันยายนนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก่อนเปิดขายได้ในปีนี้แน่นอน

     “เราคงตอบไม่ได้ว่าจะเปิดขายเมื่อไหร่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ใช้เงิน แต่หลังจากกันยายนทุกอย่างจะเรียบร้อยแน่นอน ซึ่งยอมรับว่า การไม่ได้การันตีผลตอบแทนนั้น อาจทำให้ประชาชนลังเล แต่จากข้อมูลผู้ประเมินอิสระ ที่ได้จ้างให้ประเมินรายได้ 2 รายนั้น พบว่า อนาคตทั้ง 2 โครงการ จะมีรายได้สูงประมาณ 44,000-45,000 ล้านบาทอย่างแน่นอนนายเอกนิติ กล่าว

       นายเอกนิติ กล่าวว่า สำหรับการระดมทุนผ่านโครงการกทพ. ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ วงเงินลงทุนประมาณ 44,819 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวสนรอบนอก กรุงเทพตะวันตก วงเงิน 30,437 ล้านบาท และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และ E-W Corridor ด้านตะวันออก วงเงิน 14,382 ล้านบาท

     ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการโอนขายรายได้ในอนาคตตามสัญญา RTA ได้แนบในเอกสารการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ให้กทพ. พิจารณาปรับค่าผ่านทางตามขั้นตอนและกระบวนการปกติ / กองทุนรวม อาจได้รับสิทธิในการลงทุนเพิ่มเติมในโรงการ กทพ. แต่ต้องไม่จำกัดสิทธิของกทพ ในการพิจารณาเลือกข้อเสนออื่นของบุคคลภายนอกที่ดีกว่า กทพ.และกองทุนรวมจะร่วมกันกำหนดเป้าหมายรายได้ที่โอนรายปี / กทพ.จะนำส่งส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กองทุนรวม ภายในเวลา 2 วัน นับจากวันที่เก็บค่าผ่านทางได้

     นอกจากนี้ คณะกรรมการ PPP กระทรวงคมนาคม จะนำ 2 โครงการที่เหลือจาก 5 โครงการเข้ากระบวนการ PPP Fast Track ประกอบด้วย 1.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางประอิน-นครราชสีมา มูลค่าโครงการ 84,600 ล้านบาท 2.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มูลค่าโครงการ 55,620 ล้านบาท

       สำหรับ อีก 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขาย หัวสำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ / รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ลงนามในสัญญาในโครงการสีชมพูและสายสีเหลือง

      นายเอกนิติ กล่าวว่า นอกจากกระทรวงคมนาคม จะเสนอโครงการที่เหลือแล้ว ยังเตรียมเสนอโครงการใหม่อีกประมาณ 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 600,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแผนดำเนินงานของปี 2561 โดยคาดว่าโครงการที่จะเสนอประกอบด้วย ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก มูลค่าโครงการ 131,172 ล้านบาท  2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตกและช่วงตะวันออก 195,642 ล้านบาท  3.โครงกรรถไฟฟ้า จ. ภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มูลค่าโครงการ 39,406 ล้านบาท 4.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองนครปฐม-ชะอำ มูลค่า 80,060 ล้านบาท  5.โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพฯ-ระยอง มูลค่าโครงการ 152,488 ล้านบาท และ 6.โครงการรถไฟฟ้าสายเชียงใหม่

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย .

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!