WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gธรชย อตนวานชคลังเผย เดือนธ.ค.59 มีหนี้สาธารณะ 5.92 ล้านลบ. คิดเป็น 42.19% ของจีดีพี ลดลง 2.25 หมื่นลบ.เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า

 คลังเผย เดือนธ.ค.59 มีหนี้สาธารณะ 5.92 ล้านลบ. คิดเป็น 42.19% ของจีดีพี  ลดลง 2.25 หมื่นลบ.เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า แบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 4.45 ล้านลบ. หนี้รัฐวิสาหกิจ 9.77 แสนลบ.

  นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีจำนวน 5,921,722.13 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 42.19 ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 4,458,417.72 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 977,551.18 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 466,247.32 ล้านบาท และ หนี้หน่วยงานของรัฐ 19,505.91ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างลดลง 22,514.64 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 หนี้รัฐบาล จำนวน 4,458,417.72 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 15,140.77 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 47,212.90 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 41,467 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ จำนวน 5,745.90 ล้านบาทการลดลงของตั๋วเงินคลัง จำนวน 20,400 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศ จำนวน 1,969.73 ล้านบาท

  โดยแบ่งเป็นการกู้ให้กู้ต่อแก่ (1) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,364.89 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 880.83 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน จำนวน 472.78 ล้านบาท และสายสีม่วง จำนวน 11.28 ล้านบาท และ (2) การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 604.84 ล้านบาท เพื่อจัดทำ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น จำนวน 504.95 ล้านบาท โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 86.70 ล้านบาท และ โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา คลองสิบเก้า แก่งคอย จำนวน 13.19 ล้านบาท

 การชำระหนี้ที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 30,051.60 ล้านบาท การชำระหนี้ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 จำนวน 9,000 ล้านบาท

  การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 5,103.96 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

 หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น 232.16 ล้านบาท เนื่องจากการเบิกจ่ายโครงการรถไฟชานเมือง สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะที่ 3 จำนวน 2,123.80 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้โครงการดังกล่าวระยะที่ 1 จำนวน 503.45 ล้านบาท รวมถึงผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ลดลง 912.18 ล้านบาท เป็นสำคัญ

     หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 977,551.18 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,944.07 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก

    หนี้ในประเทศที่รัฐบาลค้ำประกันมีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นสุทธิ จำนวน 850 ล้านบาท

   หนี้ต่างประเทศลดลง 2,532.29 ล้านบาท เนื่องจากการชำระคืนหนี้สุทธิของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 412.25 ล้านบาท และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,035.99 ล้านบาท และผลการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ลดลงสุทธิ จำนวน 929.37 ล้านบาท

    หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 466,247.32 ล้านบาท  ลดลงสุทธิ 4,472.30 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 3,460 ล้านบาท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตร จำนวน 1,000 ล้านบาท

  หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 19,505.91 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 957.50 ล้านบาท จากการชำระคืนต้นเงินกู้สุทธิของหน่วยงานของรัฐ

    หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 จำนวน 5,921,722.13 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 5,592,496.68 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.44 และหนี้ต่างประเทศ 329,225.45 ล้านบาท (ประมาณ 9,392 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 5.56 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และแบ่งออกเป็น  หนี้ระยะยาว 5,237,264.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.44 และหนี้ระยะสั้น 684,458.10 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.56 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!