- Details
- Category: คลัง
- Published: Wednesday, 21 September 2016 23:42
- Hits: 7038
ปลัดคลัง คาดใช้งบฯกว่า 1 พันลบ. ออกสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย คาดใช้ใน Q4/59
ปลัดคลัง คาดใช้งบฯ กว่า 1 พันลบ.ออกมาตรการสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย คาดใช้ใน Q4/59 คาดคัดกรองสิทธิผู้มีรายได้น้อยแล้วเสร็จ 1 ต.ค. นี้ แย้มมาตรการแก้หนี้นอกระบบจ่อคิวเข้าครม.
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดประชุม Workshop ภายใต้โครงการ National e-Payment ว่า ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ที่เปิดให้ลงทะเบียนในช่วงที่ผ่านมา โดยมีผู้ลงทะเบียนรับสวัสดิการทั้งสิ้น 8.3 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ โดยเป้าหมายในการดำเนินการโครงการดังกล่าว เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เตรียมมาตรการสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย 2-3 โครงการ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมาตรการจะแบ่งเป็นมาตรการที่เกี่ยวกับรายได้ มาตรการดูแลความมั่นคงในชีวิต ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากขณะนี้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังได้มอบหมายให้ตนกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เร่งหารือกับสำนักงบประมาณว่ามีวงเงินงบประมาณเหลือเท่าไร เพื่อใช้ในการดำเนินมาตรการดังกล่าว
“เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะดีมากเมื่อเทียบกับโครงการดูแลคนจนในอดีตที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน เพราะที่ผ่านมาอาจไม่ถูกใจ ไม่ตรงจุดและกลุ่มเป้าหมาย แต่ครั้งนี้งบประมาณที่ใช้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะเจาะจงเฉพาะกลุ่มจริงๆ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่คัดกรองคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะเอามาตรการดังกล่าวใช้ได้ โดยน่าจะใช้ทันในช่วงไตรมาส 4 นี้อย่างแน่นอน”นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวถึงความคืบหน้าของตั๋วร่วมในการให้สวัสดิการแก่ผู้มีรายได้น้อยนั้น ขณะนี้คณะกรรมการในเรื่องดังกล่าว ในหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งคงต้องรอระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างครบวงจรทั้งในเรื่องของรถไฟฟ้า รถไฟ รถประจำทาง เป็นต้น เพราะจากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันค่าใช้จ่ายของการเดินทางคิดเป็น 20-30% ของรายได้ ซึ่งมาตรการหลังจากนี้ที่จะดำเนินการนั้นจะต้องดูแลทั้งในเรื่องของสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและอื่นๆที่จำเป็น
นอกจากนี้ ตนเชื่อว่า จากการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาในเรื่องอื่นๆด้วย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่เตรียมเข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.แล้ว เนื่องจากการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยนั้น จะมีข้อมูลทั้งในส่วนของหนี้สินทั้งในและนอกระบบ อาชีพ และข้อมูลอื่นๆที่สำคัญ ดังนั้นจะส่งผลให้การนำเสนอนโยบายจะตรงเป้าหมายมากขึ้นจากที่ผ่านมา
“ปัจจุบันเราไม่รู้กลุ่มเป้าหมายในการช่วยเหลือ มันเหมือนการเหวี่ยงแห แต่หลังจากนี้จะดีขึ้นแน่นอน เพราะมันจะมีข้อมูลว่า คนจนมีบ้านไหม หรือเช่าที่ ถ้าเป็นประเภทที่ไม่มีบ้าน หลังจากนี้หากมีโครงการบ้านผู้มีรายได้น้อย ก็อาจจะให้สิทธิกับกลุ่มดังกล่าวก่อน หรือเป็นเกษตรกรปลูกข้าว หากมีมาตรการอะไรออกมา กลุ่มดังกล่าวก็จะได้รับสิทธิจากที่ผ่านมาไม่ได้เจาะกลุ่มแบบนี้ทำให้งบประมาณที่ใช้ไปไม่มีประสิทธิภาพและไม่ตรงกับกลุ่มที่ต้องการ”นายสมชัย กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย