- Details
- Category: คลัง
- Published: Sunday, 18 September 2016 14:21
- Hits: 2011
รมว.คลังยันศก.ไทยหลุดพ้นจากการชะลอตัวแล้ว เตรียมชงครม.แก้หนี้นอกระบบ เพิ่มโทษติดคุกหากปล่อยกู้ดบ.เกิน 36% ต่อปี
รมว.คลัง ยันศก.ไทยหลุดพ้นจากการชะลอตัวแล้ว ลั่นเดินหน้าสร้างพื้นฐานการเงินประเทศให้เข้มแข็ง เผย 2-3 สัปดาห์นี้ เตรียมชงครม.พิจารณาแพคเกจแก้หนี้นอกระบบ จัดตั้งเป็น Picofinance เพื่อให้กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ พร้อมเพิ่มโทษติดคุกหากปล่อยกู้ดบ.เกิน 36% ต่อปี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การทำงานที่ผ่านมากระทรวงการคลัง พยายามสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจให้มั่นคงและยั่งยืน โดยมองว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาส่งผลให้เศรษฐกิจไทยหลุดพ้นจากการชะลอตัวแล้ว ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังพยายามมองไปถึงการสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต หรือ New Engine of Growth และการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ (New S-curve) ให้ประเทศไทยเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
“สิ่งที่ผ่านมาคลังเหมือนกับกองหลัง สิ่งที่เราทำคือ ดูแลเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัว ซึ่งตอนนี้มันก็ไม่ได้ทรุดแล้ว เราจึงมองไปข้างหน้าจะมีอะไรบ้างที่จะมาเป็นเครื่องยนต์ที่ทำให้เราเติบโตได้ สิ่งที่เราทำเพื่อให้ไทยเข้มแข็ง มีที่ยืนในตลาดโลก เราพยายามสร้างพื้นฐานทางการเงิน โดยหวังว่าอย่างน้อย อนาคตประเทศไทยจะได้ใช้สิ่งเหล่านี้ ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และ e-Payment”นายอภิศักดิ์ กล่าว
ในส่วนของวินัยการคลังนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ละเลย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้มีการร่างพ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐที่กำหนดกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกาพิจารณาก่อนเข้าเสนอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ซึ่งในส่วนของพ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นจะอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญในฉบับปัจจุบันด้วย โดยหวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ร่ำรวยขึ้น
นายอภิศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.พิจารณาแพคเกจการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแบบครบวงจร เพื่อสามารถแปลงลูกหนี้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบ ขณะที่เจ้าหนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอจัดตั้งเป็น Picofinance เพื่อให้กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ และสามารถปล่อยสินเชื่อได้อย่างถูกกฎหมาย และจะต้องคิดอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดหรือไม่เกิน 36% ต่อปี
สำหรับในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้สั่งการให้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ออกแบบเพื่อร่วมตั้งหน่วยงานแก้ไขหนี้นอกระบบ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีความเดือดร้อนทางการเงิน โดยไม่ต้องอาศัยช่องทางหนี้นอกระบบ ซึ่งจะให้ลูกหนี้ที่ต้องการกู้นั้นสามารถกู้ผ่านสาขาของธนาคารที่กำหนดไว้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 1% ต่อเดือน
“ที่ผ่านมาเราพยายามเร่งผลักดัน ซึ่งก่อนหน้านี้เราคิดว่าอยากจะใช้มาตรา 44 เพื่อเอาผิดกับเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้เกินกำหนดให้มีโทษทางอาญา หรือ ติดคุก แต่ปรากฎว่าที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมเดินหน้าได้เร็ว จึงได้ออกพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย และอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่า คล้ายกับมาตรา 44 ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ต่อไป”นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง ประสานกับทุกหน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่น เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้นอกระบบเพื่อแปลงเป็นหนี้นอกระบบเข้ามาสู่ในระบบ โดยรัฐบาลจะชดเชยให้กับธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ประมาณ 50% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย