- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 02 July 2016 22:22
- Hits: 3438
คลังจ่อเสนอครม.ตั้งกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี
ไทยโพสต์ : ราชประสงค์ * คลังจ่อชง ครม.อุ้มเอสเอ็มอีรอบใหม่ เล็งตั้งกองทุนฟื้นฟูดูแลผู้ประกอบการมีศักยภาพ แต่ไม่มีเงินทุน เปิดช่องรายใหญ่ที่ช่วยรายเล็ก นำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยระหว่างเป็นประธานเปิดงาน mai Forum 2016 : มหกรรมรวมพลังคน mai (ปีที่ 3) ณ โรงแรมเซ็น ทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ได้แก่ การตั้งกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่ไม่มีเงินทุน และสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ โดยกองทุนดังกล่าวจะใส่เงินเข้าไปช่วย และเมื่อกิจการดีขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถซื้อหุ้นจากกองทุนกลับไปในราคาถูกได้
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ การช่วยเหลือทางการเงินกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น ให้เงินซื้อเครื่องจักร หรือระบบคอม พิวเตอร์ หรือจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันเงินกู้ ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถนำรายจ่ายที่ช่วยเหลือดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดูรายละเอียดว่าจะให้หักลดหย่อนรายการใดบ้าง
"รัฐบาลเห็นว่า ถ้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้มแข็ง จะเป็นอาวุธสำคัญของประเทศในการสร้างเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง และการที่เอสเอ็มอีเข้มแข็ง ยังช่วยแก้ปัญหาสังคม โดยทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นด้วย" นายอภิศักดิ์กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่าน มารัฐบาลได้ใส่เงินช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึง 3.5 แสน ล้านบาท เช่น การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) อัตราดอกเบี้ย 4% จำนวน 1.5 แสนล้านบาท และได้ออกเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังเข้าไปช่วยค้ำประกันเงินกู้อีกประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้.
รมว.คลัง คาดมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม ชัดเจนใน 2 สัปดาห์
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม ได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยรัฐบาลมีนโยบายให้บริษัทเอกชนไทย เข้าไปช่วยเหลือสังคม และพัฒนาท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ซึ่งเชื่อมั่นว่าบริษัทเอกชนไทย จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ตรงเป้าหมาย ทำให้เกิดผลดีต่อประเทศในภาพรวม โดยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริษัทเอกชนจะสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการภาษีที่สนับสนุนให้บริษัทขนาดใหญ่ เข้าไปช่วยเหลือบริษัทขนาดกลาง-ขนาดเล็ก (SMEs) ทั้งการจัดหาแหล่งเงินทุน และการให้ความรู้ เกี่ยวกับการบริหารจัดการ และระบบบัญชี รวมถึงการอัพเกรดโปรแกรมต่างๆ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยเบื้องต้น หากบริษัทขนาดใหญ่นำเงินลงไปช่วยเหลือ SMEs มีวงเงินจำนวน 10,000 บาท จะสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 20,000 บาท หรือประมาณ 1 เท่า เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำของประเทศ
อนึ่ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ได้มีมติเห็นชอบหลักการมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนฟื้นฟู SMEs ที่มีหนี้ NPL เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นสามารถมีเงินทุน ไปฟื้นฟูกิจการ และแข่งขันได้ต่อไป คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้เช่นกัน
สำหรับ การช่วยเหลือ SMEs ใน 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนผ่านมาตรการต่างๆ ในวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ,การช่วยเหลือกองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล ฟันด์) เป็นต้น เพื่อให้ SMEs ที่มีอยู่ในประเทศราว 90% ของธุรกิจในไทย สามารถเจริญเติบโตไปได้อย่างมั่นคง
อินโฟเควสท์