- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 08 May 2014 23:52
- Hits: 4083
บี้นายทุนหนี้นอกระบบ กรมศุลหืดจับรายได้หาย
ไทยโพสต์ * ปลัดคลังสั่งสรรพา กรลุยตรวจเข้มนายทุนเงินกู้นอกระบบโหนกระแสโซเชียลมีเดีย ยันหากพบเลี่ยงภาษีพร้อมเอาผิดเต็มที่ ศุลกากรหืดจับ 7 เดือน รายได้ทรุด 1.4 หมื่นล้านบาท
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผย ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมสรรพา กรเข้าไปตรวจสอบกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่ลงโฆษณาตามออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างเร่งด่วน โดยให้ตรวจสอบรายการเงินเข้าออกแต่ละเดือนของบัญชีธนาคาร ว่ามีเงินได้เท่าไร มีการเสียภาษีถูกต้องตามที่กฎ หมายกำหนดไว้หรือไม่ หากตรวจสอบพบว่าหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ก็จะดำเนินการเอาผิดกับกลุ่มดังกล่าวทันที เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหาหนี้นอกระบบปรับตัวเพิ่มขึ้น
"ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ติดตามปัญหาหนี้นอกระบบอย่างใกล้ชิด แม้ปัจจุบันที่กลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่ลงโฆษณาตามสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้ประชาชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบ เนื่องจากจะทำให้ประชาชนต้องรับภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมทั้งยังได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาแนวทางเพิ่มเติม ว่าจะสามารถช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบอย่างไรบ้าง และหากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชำระหนี้ สามารถโทร.ร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ 1359 ได้ทันที" นายรังสรรค์กล่าว
ด้านนายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากกระ ทรวงการคลังให้จัดทำแผนการจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2557 ตามสภาวะเป็นจริง ว่าจะสามารถจัดเก็บได้เท่าใด มีวิธีการอย่างไรให้ได้ตามเป้าหมาย ในส่วนของกรมคงไม่สามารถขยายฐานภาษีเพิ่มได้ จึงได้วางกรอบแนวทางเร่งรัด เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งหมด 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การเร่งรัดคดีภาษีศุลกากร ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณหลายร้อยคดี 2.การขายของกลางที่กรมจับกุมและยึดไว้ คาดว่าจะเพิ่มรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ในส่วนของแนวทางที่ 3.การเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามสินค้าลัก ลอบหนีภาษี
นายราฆพกล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ในช่วง 7 เดือนแรกของกรมศุลกากร (ต.ค.2556-เม.ย.2557) จัดเก็บได้ 6.2 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 18.94% หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท และต่ำกว่าปีก่อน 8.17% จากเป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ 1.31 แสนล้านบาท.