- Details
- Category: คลัง
- Published: Tuesday, 15 March 2016 10:26
- Hits: 1958
รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้างและผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2559
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้
หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 มกราคม 2559 มีจำนวน 5,980,660.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.06 ของ GDP และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมกราคมลดลงสุทธิ 24,383.29 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,387,486.67 ล้านบาท ลดลง 22,809.60 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 1,044,617.03 ล้านบาท ลดลง 431 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 531,131.18 ล้านบาท ลดลง 1,137.60 ล้านบาท
และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 17,425.79 ล้านบาท ลดลง 5.09 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,387,486.67 ล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่
· การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 23,941.02 ล้านบาท
· การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 8,862.61 ล้านบาท
มีรายการ ดังนี้
1. การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ จำนวน 3,562.61 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 1,708.64 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีเขียว การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,818.23 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และกรมทางหลวง จำนวน 35.74 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2)
2. การกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ จำนวน 5,300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน:มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 และโครงการเงินกู้ DPL
· การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน 60,636.45 ล้านบาท แบ่งเป็น
- การชำระคืนเงินต้นที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 12,000 ล้านบาท และการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง จำนวน 36,000 ล้านบาท
- การชำระคืนเงินต้นที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อ การวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 จำนวน 5,091 ล้านบาท
- การชำระคืนต้นเงินกู้ต่างประเทศ จำนวน 93.47 ล้านบาท
- การชำระคืนดอกเบี้ย จำนวน 7,451.98 ล้านบาท แบ่งเป็น ดอกเบี้ยหนี้ในประเทศ จำนวน 7,255.65 ล้านบาท และดอกเบี้ยหนี้ต่างประเทศ จำนวน 196.33 ล้านบาท
· การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 6,608.44 ล้านบาท แบ่งเป็นชำระเงินต้น จำนวน 4,082.41 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ย จำนวน 2,526.03 ล้านบาท
· ผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ ลดลง 143.50 ล้านบาท
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 1,044,617.03 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงเกิดจาก
· ผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ ลดลง 1,280.83 ล้านบาท
· การเบิกจ่ายมากกว่าการชำระหนี้เงินต้น ทำให้หนี้เพิ่มขึ้น 849.83 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญ
เกิดจากการเบิกจ่ายเงินกู้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ในการบริหารสภาพคล่องปี 2558 จำนวน 1,511 ล้านบาท และการเบิกจ่ายเงินกู้ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ในการดำเนินการก่อสร้างทางพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษสายบางพลี–สุขสวัสดิ์ จำนวน 1,900 ล้านบาท
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 531,131.18 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร จำนวน 1,051 ล้านบาท
หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 17,425.79 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของสำนักงานธนานุเคราะห์ จำนวน 14.89 ล้านบาท
ในเดือนมกราคม 2559 สบน. มีการบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ วงเงิน 15,170 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหาเงินกู้ให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 170 ล้านบาท การปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน 10,000 และ 5,000 ล้านบาท ตามลำดับ
หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2559 เท่ากับ 5,980,660.67 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ในประเทศ 5,630,311.25 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.14 และหนี้ต่างประเทศ 350,349.42 ล้านบาท (ประมาณ 9,999.16 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 5.86 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และแบ่งเป็นหนี้ระยะยาว 5,689,950.19 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.14 และหนี้ระยะสั้น 290,710.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.86 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด