WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gวสทธ ศรสพรรณ ff12aรมช.คลัง คาดตลาดอสังหาฯปีนี้โต 5% เตรียมเสนอโครงการบ้านประชารัฐเข้าครม.ในมี.ค.

     นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้จะเติบโต 5% จากมูลค่าตลาดในปีก่อนที่ 3.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่จะหมดอายุภายในวันที่ 28 เมษายน 59

      ขณะเดียวกันในเรื่องของโครงการบ้านประชารัฐนั้น ทางกระทรวงการคลังจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ และจะสามารถเริ่มโครงการได้ทันที เพราะล่าสุดได้มีข้อสรุปแล้ว คือ ที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 7 แสนบาท มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ในปีแรก ทำให้ผู้มีรายได้น้อยผ่อนไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ส่วนที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 700,000 ถึง 1,500,000 บาท มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษได้ 3 ปีแรกที่ 3% และปีที่ 4 ถึงปีที่ 6 อัตราดอกเบี้ยที่ 5% และสามารถกู้ได้ทั้งการเช่าซื้อหรือการเช่าอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย

      ส่วนภาคเอกชนนั้นจะรับภาระในส่วนของการลดราคาบ้านอย่างน้อย 2% การออกค่าส่วนกลางอย่างน้อย 1 ปี คิดเป็น 1% ของราคาบ้าน และรับภาระค่าธรรมเนียมการโอนการจดจำนองให้กับผู้ซื้อ

      ด้านนายประเสริฐ แด่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และกรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) เปิดเผยว่า โครงการบ้านประชารัฐเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยให้มีที่พักอาศัย โดยปัจจุบันบ้านระดับล่างราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท นั้นมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้เติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5%

        ในส่วนรายละเอียดการให้สินเชื่อในโครงการบ้านประชารัฐนั้นผู้ที่ซื้อบ้านระดับราคาไม่เกิน 700,000 บาท นั้นมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0% ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2% และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 4-6 ที่ 5% ปีที่ 7-30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ส่วนผู้ที่ซื้อบ้านระดับราคา 1.5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรก อยู่ที่ 3% และปีที่ 4-6 อัตราดอกเบี้ย 5% ปีที่ 7-30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว

    “อัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้จะทำให้ผู้กู้ซื้อบ้านมีภาระการผ่อนชำระต่อเดือนลดลง อย่างเช่น บ้านระดับราคา 700,000 บาท ผู้กู้จะจ่ายเดือนละ 5,000 บาท แต่พอมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้ก็เหลือผ่อนเพียงเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งลดภาระไปได้พอสมควร"นายวิสุทธิ์ กล่าว

      สำหรับ สินเชื่อนั้นได้มีการจัดสรรวงเงินรวมอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อที่ปล่อยให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (Project Finance) มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% เป็นระยะเวลาการกู้ 2 ปี โดยธนาคารที่สนับสนุนสินเชื่อ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย (KTB) และอีกส่วนเป็นสินเชื่อที่ให้กับลูกค้าที่กู้ซื้อบ้าน (Mortgage Loan) มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท โดยมีธนาคารที่สนับสนุนสินเชื่อ คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย

     นอกจากนี้ทางผู้ประกอบการจะช่วยเหลือโดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนการจดจำนองให้กับผู้ซื้อ การออกค่าส่วนกลางให้  1 ปี การลดราคาบ้านจากราคาสุทธิอย่างน้อย 2%

        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!