WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gสมคด สมคิด หวังประธานหอการค้าไทย-จีนคนใหม่ ประสานลุยรถไฟฟ้าไทยจีน ให้บรรลุข้อตกลงภายใน มี.ค.นี้

   'สมคิด'โปรยยาหอม จีนจะเป็นกำลังหลักด้านเศรษฐกิจและการเมืองของเอเชีย และเชื่อมั่นผู้นำจีนจะฝ่าฟันปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวได้ ยอมรับที่ผ่านมาไทยมีปัญหาการเมืองมานาน 10 ปี แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จีนเข้าใจและพร้อมให้การสนับสนุนมาโดยตลอด พร้อมหยอดลูกอ้อน อยากให้หอการค้าไทยจีนช่วยประสานความร่วมมือกับจีน ผลักดันนโยบายไทยจีนให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางสายไหมทั้งบกและทะเล ด้าน"จิตติ" ในฐานะประธานหอการค้าไทย-จีน คนที่ 25 อาสาทำหน้าที่เชื่อมโยงธุรกิจไทยจีนเดินหน้า และตัวกลางประสานเจรจารถไฟไทย-จีนให้บรรลุข้อตกลง

   นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานในงานพิธีมอบตำแหน่งคณะกรรมการหอการค้าไทย-จีน สมัยที่ 24-25 โดยมีนายจิตติ ตั้งสิทธ์ภักดี นายสมาคมค้าทองคำ เป็น ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทยจีนคนใหม่ พร้อมกับได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจโลก" ว่า ความสัมพันธ์การค้าไทย-จีนมาความแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน และแม้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าจีนจะสามารถแก้ไขเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแน่นอนและจะเป็นเสาหลักด้านเศรษฐกิจให้กับเอเชียและโลกได้ต่อไป    

    ในส่วนโครงการเส้นทางรถไฟไทยจีน เป็นยุทธศาสตร์หลักของทั้ง 2 ชาติ ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคมนาคม ได้เดินทางไปจีน เพื่อสรุปข้อตกลงร่วมกันคาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายในเดือนมีนาคม ปี 2559 จากนั้นจะตั้งบริษัทร่วมกันระหว่างไทยจีน เพื่อเดินหน้าโครงการถไฟไทยจีนทันที  

   "เมื่อไหร่ที่การเจรจาแล้วเสร็จ ผมจะเดินทางไปจีนทันที เพื่อผลักดันโครงการอย่างเต็มที่" นายสมคิด กล่าว  

    ขณะที่ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนไทยจีน  อยากให้หอการค้าไทยจีน ประสานความร่วมมือกับจีน เพื่อผลักดันนโยบายไทยจีนให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น แนวทางการสร้างเส้นทางสายไหมทั้งบกและทะเล เพื่อเชื่อมต่อกับเอเชียและโลก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมที่สัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะไทยจะมีบทบาทอย่างมากในการเป็นประจูสู่อาเซียน นอกจากนี้ไทยจะพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานรากให้แข็งแรง  ถือว่ามีประชากรถึง30 ล้านคน แต่มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นไม่ถึง 10% ของจีดีพี จึงต้องสร้างความเข็มแข็ง เพื่อเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ

    ประเทศจีนถือว่าประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ แม้ว่าในปัจจุบันเศรษฐกิจจะชะลอตัวไปบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าผู้นำของจีนจะสามารถแก้ไขปัญหาได้และมั่นใจว่าในอนาคตจีนยังเป็นกำลังหลักทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองในเอเชียต่อไป ทั้งนี้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามาไทยยังอาจประสบปัญหา ซึ่งยังไม่มีความเข้มแข็งทางด้านการเมือง แต่ในปัจจุบันกำลังดีขึ้นตามลำดับและไม่ว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร จีนมีความเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี และพร้อมให้การสนับสนุนไทยมาโดยตลอด

     ทั้งนี้ นายสมคิด กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศและในด้านเศรษฐกิจให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยวานนี้(27 ม.ค.) ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 35,000 ล้านบาทลงสู่เศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งขึ้น รัฐบาลคาดหวังจะให้ทางหอการค้าไทยจีนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากด้วย

    นอกจากนี้ ไทยต้องการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งรัฐบาลพยายามจะสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมที่เน้นในเรื่องของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ จึงอยากให้หอการค้าไทย-จีน เข้ามามีส่วนในการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมของไทย ด้วยการเชิญชวนให้นักธุรกิจจีนมาลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของจีน ซึ่งไทยต้องการให้มาช่วยเรื่องการพัฒนาด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ และหวังให้จีนเห็นความสำคัญของไทยในการที่จะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาในกลุ่มCLMV รวมถึงการพัฒนาในเส้นทางคมนาคมด้วย

  นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ในฐานะประธานหอการค้าไทย-จีน คนที่ 25 เปิดเผยว่า หอการค้าไทย-จีน พร้อมที่เดินหน้าในการเชื่อมโยงธุรกิจของไทยและจีนให้สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย ขณะที่การลงทุนในโครงการรถไฟไทย-จีน ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ระบุไว้ว่าจะมีการเดินหน้า ทางหอการค้าไทย-จีนพร้อมทำหน้าที่เป็นตัวประสานเพื่อเชื่อมโยงหากการเจรจามีข้อสะดุดหรือติดขัด

    "เรามั่นใจว่า จะเป็นตัวเชื่อมโยงและเป็นตัวกลางในการประสานให้การเจรจารถไฟไทย-จีนบรรลุข้อตกลงได้ ขณะเดียวกันหอการค้าไทย-จีนจะเร่งเดินหน้าประชาสัมพันธ์ รวมถึงมีนโยบายระหว่างไทยกับจีนเพื่อให้การทำธุรกิจมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะมีทั้งการจัดสัมมนาและพัฒนาธุรกิจให้บรรลุตามเป้าหมาย"นายจิตติ กล่าว

   สำหรับ ในแง่การลงทุนหลังจากนี้ไปจะมีการหารือร่วมกันกับคณะกรรมการหอการค้าไทย-จีน รวมไปถึงร่วมกับสมาคมอื่นๆ อีก 34 สมาคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ในการเร่งผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างไทย-จีนให้มีความคืบหน้า

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!